มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วัดนักบุญมาร์โก ปทุมธานี

 

วัดนักบุญมาร์โก ปทุมธานี

ตั้งอยู่เลขที่  47/9  หมู่ 3  ตำบลบ้านฉาง  อำเภอเมือง   จังหวัดปทุมธานี   12000
โทร 0-2975-8198-9   FAX:  0-2957-8208
 
เมื่อ ประมาณปี ค.ศ.1943-1946  มีคริสตชนชาวจีนจากผืนแผ่นดินใหญ่ในตระกูลเฮ้ง 6 ครอบครัว ได้พากันมาประกอบอาชีพทำสวนผักอยู่ที่ คลองบางโพธิ์ใต้    อำเภอเมือง  จังหวัดปทุมธานี 
 
ใน ปี ค.ศ. 1948 นางหมุยงิ้ม ภรรยาของนายยี่ซิน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 ครอบครัวที่อพยพมาอยู่คลองบางโพธิ์ใต้แห่งนี้ได้เสียชีวิตลง จึงได้นำศพไปทำพิธีที่วัดกาลหว่าร์  ด้วยเหตุนี้เองทางวัดกาลหว่าร์จึงทราบว่ามีกลุ่มคริสตชนกลุ่มน้อยนี้อยู่ที่คลองบางโพธิ์ ดังนั้นคุณพ่อโอลลิเอร์ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดกาลหว่าร์อยู่ในขณะนั้น      จึงได้มาทำมิสซาให้คริสตชนกลุ่มนี้เป็นครั้งแรกที่บ้านของนายยี่ซิน  แซ่เฮ้ง  เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1949
 
จากนั้นเป็นต้นมาทางวัดกาลหว่าร์ได้ ส่งพ่อปลัดมาดูแลคริสตชนกลุ่มนี้ เนื่องจากในสมัยนั้นการเดิน ทางไม่สะดวกและลำบากมากถนนหนทางยังไม่มีต้องเดินทางโดยทางเรือเท่านั้น  ไม่สามารถเดินทางไปกลับได้ในวันเดียว พระสงฆ์ที่มาดูแลจึงจำเป็นต้องค้างคืนตามบ้านสัตบุรุษ ในขณะนั้นสัตบุรุษที่นี่ยังยากจน บ้านก็คับแคบไม่สะดวกอย่างยิ่งสำหรับพระสงฆ์ที่มาพัก ด้วยเหตุนี้เองการถวายมิสซาจึงมีไม่บ่อยนัก เนื่องจากมีพระสงฆ์มาเยี่ยมเพียงปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น ได้แก่ คุณพ่อซัลดือเบแฮร์, คุณพ่อเสวียง ศุระศรางค์ เป็นต้น คุณพ่อเจ้าวัดจึงให้ซินแซเตียงกับนางสาวชุนฟอง มาอยู่ช่วยสอนคำสอนภาษาจีนแก่เด็กและเยาวชนตามบ้านสัตบุรุษเป็นครั้งคราว เป็นเช่นนี้หลายปี ทำให้มีเด็กและเยาวชนได้รับศีลกำลังหลายคน โดยให้ไปรับที่วัดกาลหว่าร์
 
ในปี ค.ศ.1959 คุณพ่อแปร์เรย์ จึง ได้เริ่มมาดูแลสัตบุรุษที่นี่เป็นประจำในขณะนั้นการเดินทางยังคงลำบากอยู่  แต่คุณพ่อก็มิได้ท้อถอยยังคงเพียรพยายาม   มาทำมิสซาให้กับสัตบุรุษที่นี่เกือบทุกเดือน  ด้วยความเสียสละและอดทน
 
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961  เป็นต้นมา  ได้มีครอบครัวคาทอลิกหลายครอบครัวย้ายเข้ามา   เช่าที่ทำสวนอยู่ริมคลองบางหลวง  ตำบลบ้านฉาง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากปัญหาในเรื่องที่ทำกินและการขนส่งพืชผัก จากที่เดิมไม่สะดวก  ต่อมามีครอบครัวจากที่อื่นมาสมทบอีก ในปี ค.ศ. 1969  มีพระสงฆ์ชาวไต้หวันองค์หนึ่งซึ่งมาอยู่ที่วัดกาลหว่าร์มาดูแลสัตบุรุษที่นี่แทนคุณพ่อแปร์เรย์  เป็นเวลา1 ปี
 
 
 
ในปี ค.ศ. 1972-1973 ครอบครัวคริสตชนที่อยู่คลองบางโพธิ์ใต้ได้ย้ายมาอยู่คลองบางหลวงเกือบหมด เหลือเพียงครอบครัวของนายชุนฮวด (บุตรนายไหน่ทิศ)  เพียงครอบครัวเดียวในปัจจุบันนี้
 
ในปี ค.ศ. 1973-1979  คุณพ่อที่วัดบางบัวทองได้มาดูแลและถวายมิสซาให้แก่สัตบุรุษที่คลองบางหลวงนี้ เช่น คุณพ่อวิจิตร ลิขิตธรรม, คุณพ่อสานิจ  สถะวีระวงส์, คุณพ่อถาวร กิจสกุล,  นอกนั้นยังมีคุณพ่อองค์อื่นๆ  อีกหลายองค์ที่ซิสเตอร์กิมลุ้ย  (สมาชิกคณะพลมารี)ได้ติดต่อเชิญมาถวายมิสซาให้คริสตังคลองบางหลวง ได้แก่ คุณพ่อดาเนียล วงศ์พานิช, คุณพ่อสมศักดิ์ นามกร อธิการบ้านเณรแสงธรรม,  คุณพ่อปิงกิโอเนและเพื่อนคณะซาเลเซียนที่อยู่ประจำบ้านคนตาบอดปากเกร็ด นนทบุรี, คุณพ่อตูร์กาโน คณะคามิลเลียนได้บริจาคเสาและกระ เบื้องจำนวนหนึ่ง
 
ในปี ค.ศ. 1979  คุณพ่อไพบูลย์ เหลืองสร้อยทอง จิต ตาธิการพลมารี เปรสิเดียมพระมารดาพระผู้ไถ่ แห่งวัดอัสสัมชัญ  ได้ติดตามการทำงานของสมาชิกพลมารี ได้ทราบเกี่ยวกับคริสตชนคลองบางหลวง จึงเริ่มเข้ามารับงานดูแลสัตบุรุษมาและมาถวายมิสซาเป็นประจำตามบ้าน มาสอนคำสอนให้แก่เด็กและเยาวชนที่นี่  เป็นภาษาไทย ต่อมาคุณป้าพูนสุขและคุณน้าสมบัติ  กาญจนคมานันท์ พร้อมกับเพื่อนพลมารี ได้ติดต่อเชิญบรรดาพระสงฆ์ให้มาช่วยทำมิสซาตามบ้านเป็นประจำ
 
 
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1979   ได้มีการคิดและวางแผนสร้างวัดขึ้น จึงหาที่ดิน โดยคุณยุบล กาญจน  คมานันท์ บุตรสาวของคุณน้าสมบัติ ได้ ซื้อที่ดินถวายให้ 1 ไร่ เพื่อสร้างวัด ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ค.ศ. 1979        ได้เริ่มลงมือตอกเสาเข็ม สร้างเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ ลักษณะ เป็นบ้านเดี่ยว ชั้นบนเป็นวัด กว้าง 12 เมตร ยาว 12 เมตร แบ่งเป็นพื้นที่วัดและด้านหลังเป็นห้องเก็บศาสนภัณฑ์และใช้เป็นที่พักได้  มีห้องน้ำภายใน มีระเบียงรอบด้าน กว้าง 1 เมตร  ด้านหน้ามีหอระฆังและบันไดหน้าวัด  ชั้นล่างเป็นที่โล่งเทคอนกรีต  ชั้นล่างมีห้องว่าง 1 ห้อง  และกั้นรั้วลวดหนามโดยรอบพื้นที่ 1 ไร่  พร้อมประตูเหล็กเข้าออก ด้านหน้าและด้านหลังของรั้วลวดหนาว     ได้สร้างห้องน้ำและห้องส้วม ไว้บริเวณด้านหลังริมรั้ว 4 ห้อง
 
วัดก่อสร้างเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1980  โดยมีคุณพ่อไพบูลย์ เหลืองสร้อยทอง  เป็นผู้ดำเนินการทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนวัดสร้างเสร็จเรียบร้อย  และพระอัครสังฆราช ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นผู้ตั้งชื่อวัดนี้ว่า     "วัดนักบุญมาร์โก"  และท่าน ต้องการให้มีวัดสี่แห่งของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ  มีนักบุญผู้นิพนธ์พระวรสารเป็นอุปถัมภ์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีวัดน้อยเซนต์จอห์น อยู่ที่โรงเรียนเซนต์จอห์น กรุงเทพฯ แล้ว
 
 
ต่อมา ทางอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้มอบหมายวัดที่สร้างเสร็จใหม่ล่าสุดนี้ อยู่ในความดูแลรับผิด ชอบของพระสงฆ์วัดเซนต์ฟรังซิสเซเวียร์ สามเสน
 
ในวันเสาร์ที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1980  คุณพ่อไพบูลย์ เหลืองสร้อยทอง  ในนามของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้มอบวัดนักบุญมาร์โก  ให้อยู่ภายใต้การปกครองดูแลของวัดสามเสน  โดยมี คุณพ่อคมทวน           มุ่งสมหมาย เจ้าอาวาสวัดสามเสน  ได้รับมอบหมายให้คุณพ่อสมสุข แดงเดช  ซึ่งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสได้มาดูแลวัดนักบุญมาร์โก คุณพ่อมาทำมิสซาที่วัดนี้เป็นประจำทุกวันอาทิตย์  จำนวนครอบครัวคริสตังที่นี่ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  คุณพ่อสมสุข แดงเดช   ได้มาถวายมิสซาให้จนถึงเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1983
 
ใน วันเสาร์ที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1982 วัดนักบุญมาร์โก ได้ทำพิธีเสกวัดและฉลอง โดยพระอัครสังฆราช ไมเกิ้ล    มีชัย  กิจบุญชู  เป็นประธาน
 
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1982  คุณสุวิช  สุวรุจิพร  บริจาคที่ดิน 1 ไร่  ด้านซ้ายมือทิศตะวันตกของวัดนักบุญมาร์โก  และในปี ค.ศ. 1983  ทางวัดได้ซื้อที่ดินเพิ่มขึ้นอีก 1 ไร่ คือ เนื้อที่ด้านขวาของตัววัดโดยมีสัตบุรุษใจศรัทธาช่วยบริจาคเงินสบทบทุน
 
 
วันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1983   คุณพ่อสมสุข  แดงเดช  ย้าย ไปจากวัดสามเสน  ไปเป็นเจ้าอาวาสวัดแม่พระประจักษ์ (สองพี่น้อง) ทางสังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงได้ให้วัดนักบุญมาร์โกอยู่ในความดูแลของพระสงฆ์วัดพระคริสตประจักษ์ (เกาะใหญ่) โดยมีคุณพ่อสำรวย กิจสำเร็จ  เป็นเจ้าอาวาสประจำอยู่ที่วัดเกาะใหญ่ 
 
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1984     คุณพ่อสำรวยได้มอบหมายให้สัตบุรุษที่วัดหาช่างไม้ มาสร้างห้องประชุมที่ใต้ถุนวัด ซึ่งมีแต่โครงห้องเท่านั้น การสร้างห้องประชุมให้เวลาประมาณสองอาทิตย์จึงแล้วเสร็จ
 
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1984  คุณพ่อเอกพงษ์  พงษ์สูงเนิน  ได้มารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระคริสตประจักษ์ (เกาะใหญ่) และดูแลคริสตชนวัดนักบุญมาร์โกแทนคุณพ่อสำรวย  ซึ่งไปศึกษาต่อที่กรุงโรม  คุณพ่อได้สร้างหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อคริสตชนวัดนักบุญมาร์โก เช่น  ถมดินที่วัดให้สูงขึ้น, จัดทำม้านั่งในวัด, ติดมุ้งลวดห้องข้างล่างใต้ถุนวัด,  สร้างห้องประชุม, สร้างตู้ศีลใหม่ ฯลฯ  คุณพ่อได้ดูแลวัดนักบุญมาร์โกจนกระทั่งเดือนเมษายน ค.ศ. 1989    
  
 
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1989 ทางอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย  กิจบุญชู  ได้มอบหมายให้วัดนักบุญมาร์โกอยู่ในความดูแลของวัดพระแม่มหาการุณย์ นนทบุรี  ซึ่งมี คุณพ่อเปโตร อูร์บานี ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสและมีคุณพ่ออาดรีอาโน เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส  หลังจากการประกาศแล้ว คุณพ่ออูร์บานีได้มาเยี่ยมยียนสัตบุรุษและถวายมิสซาให้สัตบุรุษครั้งแรกใน ที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1989  และในวันที่ 29 ของเดือนเดียวกันนี้  ทางวัดนักบุญมาร์โกจึงได้จัดฉลองวัดขึ้น โดยมี พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู  เป็นประธาน   ในพิธีและโอกาสนี้ทางวัดได้จัดให้มีการต้อนรับคุณพ่ออูร์อานีอย่างเป็นทาง การ โดยมีคุณพ่อเอกพงษ์  พงษ์สูงเนิน  มอบกุญแจสวรรค์ให้ พระอัครสังฆราช ไมเกิ้ล มีชัย  กิจบุญชู  นำมอบให้แก่คุณพ่ออูร์บานี  เป็นผู้ดูแลลูกแกะของพระเป็นเจ้าต่อไป
 
ในเดือนกุมภาพันธ์  ค.ศ. 1990   คุณพ่ออูร์บานี จัดหาช่างมาซ่อมแซมวัดจนเสร็จก่อนพิธีฉลองวัดในวันที่ 28  เมษายน ค.ศ. 1990
 
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1993  คุณพ่ออูร์บานีได้จัดตั้งกลุ่มเยาวชน โดยมีคุณนิตยา เกษตรบริบูรณ์ เป็น ประธานเยาวชน
 
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1994 คุณพ่ออูร์บานี ได้จัดตั้งคณะกรรมการสภาอภิบาลขึ้น โดยมีคุณขจร  ปรัชญกุล  เป็นผู้อำนวยการสภาฯ, คุณประสิทธิ์  เกษตรบริบูรณ์ เป็นรองผู้อำนวยการสภาฯ, คุณวรรณี  เวียงชัย เหรัญญิก, คุณธีระเดช กุลอนุสภาพร กรรมการ, คุณชาญชัย เกษตรรุ่งเรือง  กรรมการ, คุณลัดดาวัลย์  เกษตรบริบูรณ์  กรรมการ และคุณสุปราณี  รุ่งโรจน์เกษตร  กรรมการ
 
 
ใน เดือนตุลาคม ค.ศ. 1995  สัตบุรุษวัดนักบุญมาร์โก ประสบภัยครั้งใหญ่ แต่ได้รับความช่วยเหลือต่างๆ จากวัดในเขต 2  เป็นจำนวนเงิน 180,000 บาท
ต่อมา ในปี ค.ศ. 1997  ทางสภาอภิบาลวัด   ตระหนักความสำคัญของคริสตชนรอบวัดนักบุญมาร์โกที่มีการรวมตัวกันมาเป็นเวลา 50 ปี จึงมีมติเป็นเอกฉันว่าจะสร้างศาลาอเนกประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์ และใช้ประโยชน์ใจกิจการต่างๆ ที่ทางวัดจะจัดขึ้น และได้ให้ชื่ออาคารนี้ว่า “ศาลาอเนกประสงค์คริสตชน 50 ปี นักบุญมาร์โก”
 
ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 1997  ได้เริ่มทำการก่อสร้างศาลาอเนกประสงค์  โดยใช้ระยะเวลาในการสร้างประมาณ 4 เดือน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1997  รวมค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างอาคารทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน 1,018,072 บาท ทั้งนี้งบประมาณและค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการก่อสร้างครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ และผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
 
ในปี ค.ศ. 1998 เดือนมกราคมถึงดือนมีนาคม คุณพ่ออูร์บานี ได้ทำการปรับปรุงหลายสิ่งหลายอย่างให้กับวัดนักบุญมาร์โกดังนี้ ปรับปรุงรอบๆ บริเวณวัด เปลี่ยนพระแท่นบูชามิสซา พื้นหลังบริเวณพระแท่น ธรรมมาสน์ เปลี่ยนตู้ศีลใหม่ ฐานตั้งนักบุญมาร์โก ปรับปรุงรอบๆ บริเวณวัด ฯลฯ
 
นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ได้มีพระสงฆ์คณะปีเม โดยการนำของคุณพ่ออูร์บานี ได้ดูแลกลุ่มคริสตชนที่วัดนักบุญมาร์โก ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกจำนวน 22 ครอบครัว ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำพักน้ำแรงและการดูแลเอาใจใส่ของพระสงฆ์หลายๆ ท่าน ซึ่งแบบฉบับที่ดีเหล่านี้ได้หยั่งรากลึกในจิตใจของบรรดาคริสตชนที่นี่ และผลของแบบอย่างที่ดีเหล่านั้นได้ทำให้มีผู้สมัครใจดำเนินตามในชีวิตของผู้ เสียสละ เพื่อรับใช้พระเป็นเจ้าในกิจการความรักของพระองค์จำนวน 5 คน โดยมีมาเซอร์ คณะเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต 3 ท่าน บราเดอร์ 1 ท่าน และพระสงฆ์ 1 องค์ พวกลูกๆ คริสตชนวัดนักบุญมาร์โกระลึกถึงน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าและขอพระองค์โปรด ประทานพระพรและพระหรรษทานตอบแทนทุกท่านด้วยชีวิตนิรันดรเทอญ คุณพ่อเปโตร อูร์บานี ได้ดูแลวัดนี้จนถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 2001
 
ต่อมา เมื่อมีการประกาศโยกย้ายพระสงฆ์ประจำปี ค.ศ. 2001 ในเดือนเมษายน โดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู  ได้แต่งตั้งคุณพ่อสุรนันท์  กวยมงคล เป็นเจ้าอาวาส  ซึ่งถือว่าเป็นองค์แรกที่มีตำแหน่งในหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส คุณพ่อได้เริ่มงานอภิบาล สอนคำสอน  โปรดศีลศักดิ์สิทธิ์ และถวายมิสซาเป็นประจำ โดยเริ่มมิสซาวันศุกร์ต้นเดือน เพื่อเชิญชวนให้สัตบุรุษมีความศรัทธา ต่อดวงหฤทัยของพระเยซูเจ้า คุณพ่อได้ริเริ่มมุมหนังสือในห้องประชุมเพื่อให้เด็กๆ รู้จักการอ่านหนังสือศรัทธา เรือนเพาะชำ ซุ้มการเวก แต่คุณพ่ออยู่ได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ก็ได้ส่งคุณพ่อไปช่วยงานสังฆมณฑลนครสวรรค์ และได้แต่งตั้งคุณพ่อยวงบัปติสตา ชาญชัย ทิวไผ่งาม เป็นเจ้าอาวาสแทน เมื่อวันที่ 19 เมษายน ค.ศ. 2002   
 
ในสมัยของคุณพ่อเปโตร อูร์บานี  เป็นเจ้าอาวาส ได้เคยดำริและเสนอต่อสังฆมณฑลให้หาางสร้างรั้ว เพื่อทำให้วัดเป็นสัดส่วนเรียบร้อยและแนวป้องกันน้ำท่วม  พระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย  กิจบุญชู  อนุมัติให้ทำรั้วคอนกรีตครึ่งทึบครึ่งโปร่ง และปรับปรุงบริเวณพื้นที่วัดรอบๆ ให้เรียบร้อย พร้อมกับเปลี่ยนย้ายประตูเข้าออก     มีถนนหินคลุกบดอัด และสนามหญ้าให้สวยงาม ซึ่งขณะนั้นน้ำได้ท่วมถนนริมคลอง จึงได้ปรับแนวพื้นให้สูงพอพ้นน้ำได้
 
คุณพ่อ ยังได้ขออนุญาตปรับพื้นชั้นล่าง ให้เป็นที่ทำงานของพระสงฆ์และเป็นที่พัก ส่วนห้องโถงใหญ่แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงด้านหน้าให้เป็นวัดน้อยทำมิสซาในเย็นวันเสาร์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ สูงอายุและจำนวนสัตบุรุษที่ไม่มาก ช่วงด้านหลังทำเป็นห้องอาหารและพักผ่อนของพระสงฆ์และสามเณรที่มาช่วยงานโดย นำวัสดุอุปกรณ์ที่ทางสังฆมณฑลรื้อจากที่อื่นๆ มาใช้ใหม่ เช่น วงกบประตูหน้าต่าง บานเกล็ด ม้านั่งโบราณของวัดเก่าๆ  และแอร์จากดรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ปูพื้นด้วยตัวหนอนรอบวัดเพื่อใช้เดินแห่รอบวัดมาจากวัดเซนต์หลุยส์ และวัดอัสสัมชัญ และช่วยให้เดินได้ในหน้าฝน
 
ในขณะ เดียวกันได้ซ่อมแซมที่จอดรถให้แข็งแรง และสร้างห้องพักคนงาน และที่เก็บของ เพิ่มห้องสุขาด้านหลังศาลาเอนกประสงค์ กับแก้ไขระบบน้ำประปาและน้ำรดต้นไม้ 
 
ปีค.ศ. 2003 วัดได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 3 ไร่เศษ เพื่อเป็นที่พักร่มรื่นโดยทำเป็นที่เลี้ยงปลาและปลูกต้นไม้ 
 
วันเสาร์ที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2003 ได้ จัดฉลองวัดประจำปี โดยมี คุณพ่อยอแซฟ จำเนียร กิจเจริญ อุปสังฆราชเป็นประธานและโปรดศีลกำลังเขตสอง  มีสัตบุรุษมามากพอสมควร ได้ใช้ศาลาอเนกประสงค์ของวัดเป็นที่ประกอบพิธีเพื่อความสะดวกและจำนวน สัตบุรุษจุได้มากกว่า ทางวัดได้จัดให้สัตบุรุษได้เตรียมตัว ฉลองภายในและมีการแห่รูปท่านนักบุญมาร์โกจากวัดไปรั้วหน้าวัดหนึ่งรอบ  แล้วในวันฉลองจึงไม่มีการแห่อีก แต่มีการถวายช่อดอกไม้แทน หลังพิธีขณะรับประทานอาหารฝนตกมาก ทำให้สัตบุรุษหลายคนต้องรีบเอารถออกจากที่จอดรถซึ่งเป็นดิน เกรงว่าจะติดหล่ม แต่ก็ผ่านไปได้ไม่ลำบากมากนัก
 
ปี ค.ศ. 2004  พระคาร์ดินัล อนุมัติให้ทางวัด ซื้อที่ดินเพิ่มเติมจากคุณสุวิช สุวรุจิพร  เจ้าของที่ดินติดกับวัดทางด้านทิศตะวันตกไปสุดริมคลอง เนื้อที่ประมานสามไร่ ซึ่งครั้งหนึ่งคุณสุวิชก็ได้มอบที่ดินให้กับวัดหนึ่งไร่มาแล้ว ในครั้งนี้คุณสุวิชและลูกชายผู้เป็นเจ้าของที่ดินยินดีและไม่ขัดข้อง ทำให้วัดมีที่ดินทั้งหมดประมาณหกไร่ ซึ่งก็เพียงพอ สำหรับกิจการของวัดในปัจจุบันนี้
 
ใน ระหว่างปีการศึกษา เนื่องจากบรรดาเด็กๆ  ซึ่งเป็นลูกหลานไม่ได้เรียนในโรงเรียนของวัดคาทอลิก โอกาสเรียนคำสอนจึงมีน้อย  คุณพ่อได้ขอให้มาเซอร์จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟกรุงเทพฯ มาช่วยสอนวันอาทิตย์ หลังมิสซา และระหว่างปิดเทอมฤดูร้อน ได้มีเณรใหญ่มาฝึกงานอภิบาล และช่วยสอนคำสอนให้กับเด็กๆ ทำให้วัดมีชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น
 
 
ปี ค.ศ. 2005 คุณพ่อสำรวย กิจสำเร็จ  อดีตคุณพ่อเจ้าอาวาสวัดพระคริสตกษัตริย์ เกาะใหญ่ และดูแลวัดนักบุญมาร์โก จังหวัดปทุมธานี  เป็นประธานฉลองวัด
 
ปี ค.ศ. 2006  พระสังฆราช ยอแซฟ ประธาน  ศรีดารุณศีล  พระสังฆราช แห่งสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี  ท่านได้เคยมาถวายมิสซาและพบปะสัตบุรุษที่นี่เมื่อครั้งยังเป็นพระสงฆ์ทำงาน ที่กรุงเทพฯ  และยังมีญาติพี่น้องอาศัยอยู่ในกลุ่มคริสตชน ตั้งแต่เริ่มแรกเนื่องจากศาลาเอนกประสงค์ของวัดถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธี สำคัญ เช่น มิสซาฉลองวัด งานรื่นเริงคริสต์มาส งานเลี้ยง งานสวดให้กับผู้ล่วงลับ และประชุมสัตบุรุษของวัด จึงได้มีการปรับปรุงเรื่อยมา โดยมีคำแนะนำและการปรึกษาหารือกับผู้รับผิดชอบจากส่วนกลางของสังฆมณฑล มีความ เห็นว่าน่าจะใช้ศาลาทำวัดใหม่แทนวัดหลังเดิม ซึ่งจะมีความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ และมีเนื้อที่มากกว่า และจะเป็นประโยชน์เมื่อมีงานฉลองสำคัญๆ โดยเฉพาะวันฉลองวัดประจำปี ขณะเดียวกันเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสัตบุรุษ จึงได้ต่อขยายหลังคาออกมาให้เป็นโรงโถงใหญ่ และเทพื้นคอนกรีต กับยกระดับพื้นเล็กน้อยให้เป็นเวที  และปรับให้เป็นศาลาเอนกประสงค์แทนของเดิม
 
ปี ค.ศ. 2007   พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู  เป็นประธานฉลองวัดและเสกวัดใหม่  โดยใช้ศาลาเอนกประสงค์ของวัดปรับปรุงให้เป็นวัดสำหรับประกอบพิธีกรรมแทนวัดเดิม  ซึ่งวัดหลังเดิมได้ปรับปรุงให้เป็นที่พักของพระสงฆ์ และอภิบาลสัตบุรุษของวัด
 
สภาพ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ จึงมีความพอดี พอเพียง และพอสมควรกับวัดนักบุญมาร์โก  ที่มีอายุการฉลองวัดผ่านมา 25 ปีแล้ว  วัดเล็กๆ ที่มีอายุยาวนานหากนับวันที่เริ่มมีกลุ่มคริสตชนที่นี่มีอายุหกสิบปี แต่ถ้านับปีที่เริ่มมีการสร้างวัดและเสก ก็ยี่สิบห้าปีพอดี จำนวนคริสตชนที่นี่ค่อยๆ  เพิ่มขึ้น มีคริสตชนจากวัดอื่นๆ ย้ายเข้ามาในหมู่บ้านจัดสรรใกล้วัดมากขึ้น ประกอบกับสภาพที่อยู่อาศัยของสัตบุรุษเริ่มมีความมั่นคงมากขึ้น วัดนักบุญมาร์โกน่าที่จะเป็นวัดหนึ่งของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่จะเป็นบ่อเกิดของกระแสเรียกจากครอบครัวที่ดีต่อๆ ไป
 
ปี ค.ศ. 2014 ในวันที่ 14 เมษายน มีพิธีเปิดเสกบ้านพระเมตตา สามโคก ปทุมธานี โดยพระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช  เดือนกรกฎาคมเริ่มงานชุมชนวัดโคก คอนโด  เดือนธันวาคมเริ่มงานก่อสร้างตึกใหม่
 
 
 
ลำดับคุณพ่อเจ้าอาวาส
คุณพ่อมีคาแอล คมทวน  มุ่งสมหมาย (มาดูแล)        ปี ค.ศ. 1980 - 1983
คุณพ่อบอสโก สมสุข  แดงเดช   (มาดูแล)              ปี ค.ศ. 1980 - 1983
คุณพ่อยอห์น บัปติสต์  สำรวย  กิจสำเร็จ (มาดูแล)    ปี ค.ศ. 1983 - 1984
คุณพ่อวินเซนต์ เอกพงษ์  พงษ์สูงเนิน   (มาดูแล)     ปี ค.ศ. 1984 - 1989
คุณพ่อเปโตร อูร์บานี                                       ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส ปี ค.ศ. 1989 - 2001  
คุณพ่อยอแซฟ สุรนันท์  กวยมงคล                      ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2001 - 2002
คุณพ่อยอห์น บัปติสต์  ชาญชัย  ทิวไผ่งาม            ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2002 - 2009
คุณพ่อยอแซฟ อนุชา    ชาวแพรกน้อย                 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2009 - 2010
คุณพ่อวินเซนต์ เอกพงษ์  พงษ์สูงเนิน                  ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ.2010 - 2013
คุณพ่ออาดรีอาโน  เปโลซิน (TMS)                     ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสในปี ค.ศ. 2013 - ปัจจุบัน

 
 
เวลามิสซาวันอาทิตย์   เวลา 09.00 น.
วันพุธ-วันเสาร์ เวลา 19.00 น.
วันศุกร์ต้นเดือน เวลา 19.00 น.
แผนที่การเดินทาง
 
 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown