www.catholic.or.th

มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

สารพระสังฆราช สิริพงษ์ จรัสศรี โอกาสวันเยาวชนแห่งชาติปี 2016

สาส์นของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ปี 2016 ในโอกาสวันเยาวชนโลกครั้งที่ 31

สาสน์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส โอกาสวันอธิษฐานภาวนาสากลเพื่อพิทักษ์รักษาสิ่งสร้าง วันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 2016

สารสมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิส ในโอกาสวันแพร่ธรรมสากล ประจำปี 2016

สารสมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิส
ในโอกาสวันแพร่ธรรมสากล ประจำปี 2016
การแพร่ธรรมของพระศาสนจักร เป็นประจักษ์พยานแห่งพระเมตตา
Missionary Church, Witness of Mercy

 

 

พี่น้องชาย-หญิงที่รัก

ปีศักดิ์สิทธิ์พิเศษแห่งเมตตาธรรมที่พระศาสนจักรทำการเฉลิมฉลองในปีนี้ทอแสงอย่างแจ่มจรัสในวันอาทิตย์แพร่ธรรมสากล 2016   เป็นการเชื้อเชิญเราให้คำนึงถึงการแพร่ธรรมสู่นานาชาติ ในฐานะที่เป็นงานเมตตาธรรมที่ยิ่งใหญ่ ทั้งทางด้านจิตใจและด้านวัตถุ ในวันอาทิตย์แพร่ธรรมสากลปีนี้ เราทุกคนได้รับเชิญให้ “ออกไป” ในฐานะศิษย์ที่เป็นธรรมทูต ด้วยการให้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความใจกว้าง พรสวรรค์ ความคิดสร้างสรรค์ ปรีชาญาณ และประสบการณ์ เพื่อนำข่าวสารแห่งความอ่อนโยนและความเมตตาของพระเจ้าไปสู่ทุกมนุษย์ทุกครอบครัว ::::DOWNLOAD ::::

ด้วยความชอบธรรมจากอำนาจที่ได้รับมอบหมายในการแพร่ธรรม พระศาสนจักรมีความห่วงใยต่อบุคคลที่ยังไม่รู้จักพระวรสาร เพราะพระศาสนจักรต้องการให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น และมีประสบการณ์ความรักของพระเจ้า พระศาสนจักรเป็น “ผู้ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้ประกาศเมตตาธรรมของพระเจ้า ที่เป็นหัวใจที่โลดเต้นของพระวรสาร” (พระพักตร์แห่งพระเมตตา 12) และประกาศถึงเมตตาธรรมไปทั่วทุกมุมโลก ไปให้ถึงมนุษย์ทุกคน ทั้งผู้อยู่ในวัยเยาว์หรือผู้สูงอายุ

              เมื่อบุคคลหนึ่งได้พบกับพระเมตตา จะนำความปีติยินดีอย่างสุดซึ้งมาสู่ดวงพระหฤทัยของพระบิดา เพราะตั้งแต่แรกเริ่มพระบิดาทรงมีความรักต่อผู้ความอ่อนแออย่างมาก เพราะความยิ่งใหญ่และพระอานุภาพของพระองค์นั้นทรงเผยแสดงได้อย่างเที่ยงตรงในความสามารถของพระองค์ที่จะทรงแสดงเอกลักษณ์ของพระองค์ต่อเยาวชน บุคคลชายขอบ และผู้ถูกกดขี่ (เทียบ ฉธบ 4:31 ; สดด 86:15 ; 103:8 ; 111:4) 

           พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา ทรงเอาพระทัยใส่ และซื่อสัตย์ พระองค์ทรงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีความยากลำบาก โดยเฉพาะกับผู้ยากจน พระองค์เองทรงเกี่ยวข้องอย่างอ่อนโยนในความเป็นจริงของมนุษย์เช่นเดียวกับบิดา และมารดากระทำในชีวิตความเป็นอยู่ของลูกๆของตน (เทียบ ยรม 31:20) เมื่อกล่าวถึงครรภ์ พระคัมภีร์ใช้คำที่มีความหมายถึงความเมตตา ดังนั้น จึงหมายถึงความรักของมารดาต่อบุตร ผู้ที่เธอรักเสมอ ในทุกสถานการณ์ และไม่คำนึงถึงว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะพวกเขาเป็นผลจากครรภ์ของเธอ สิ่งนี้เป็นลักษณะสำคัญของความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อบรรดาบุตรของพระองค์ด้วย บุตรที่พระองค์ทรงสร้าง บุตรที่พระองค์ทรงปรารถนาจะยกระดับและอบรมสั่งสอน ในการเผชิญกับความอ่อนแอและไม่ซื่อสัตย์ของพวกเขา ดวงพระหฤทัยของพระองค์ทรงเอาชนะด้วยความเมตตากรุณา (เทียบ ฮชย 11:8) พระองค์ทรงพระเมตตาต่อทุกคน ความรักของพระองค์ทรงมีต่อมนุษย์ทุกคน และความเมตตากรุณาของพระองค์ทรงแผ่กว้างออกไปสู่สิ่งสร้างทั้งมวล (เทียบ สดด 144:8-9)

          ความเมตตาพบความประเสริฐสุดและการแสดงออกอย่างสมบูรณ์ในพระวจนาตถ์ทรงรับสภาพมนุษย์ พระเยซูเจ้าทรงเผยแสดงถึงพระพักตร์ของพระบิดาผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา “พระองค์ตรัสถึงพระเมตตา และทรงอธิบายโดยใช้คำเปรียบเทียบและอุปมา แต่ที่สำคัญที่สุด พระองค์ทรงบังเกิดเป็นพระเมตตา และเป็นแบบอย่างของความเมตตา” (สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอลที่ 2 พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา 2) เมื่อเราต้อนรับและติดตามพระเยซูเจ้าตามวิธีการของพระวรสารและศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ด้วยความช่วยเหลือขององค์พระจิตเจ้า เราสามารถที่จะเป็นผู้มีความเมตตาดั่งพระบิดาเจ้าสวรรค์ผู้ทรงเป็นความเมตตา เราสามารถเรียนรู้ที่จะรักดังที่พระองค์ทรงรักเรา และกระทำให้ชีวิตของเราเป็นของขวัญที่ให้เปล่า เป็นเครื่องหมายแห่งคุณความดีของพระองค์ (เทียบ พระพักตร์แห่งพระเมตตา 3) พระศาสนจักรในท่ามกลางมนุษยชาติ ประการแรกต้องเป็นชุมชนที่มีชีวิตโดยพระเมตตาของพระคริสตเจ้า สัมผัสถึงการเพ่งมองและรู้สึกว่าพระองค์ทรงเลือกพระศาสนจักรด้วยพระเมตตารักของพระองค์ โดยทางความรักนี้ พระศาสนจักรค้นพบอำนาจที่ได้รับมอบหมายของตน เจริญชีวิตและทำให้พระเมตตารักของพระองค์เป็นที่รู้จักแก่มนุษย์ทุกคนโดยทางการเสวนาด้วยความเคารพกับทุกๆวัฒนธรรม และทุกๆความเชื่อ

         เหมือนในสมัยแรกเริ่มของพระศาสนจักร ความรักเมตตานี้ได้รับการเป็นประจักษ์พยานจากบรรดาชายและหญิงทุกวัยและทุกสภาพการ บรรดาสตรีที่ทำงานในโลกแห่งการแพร่ธรรมจำนวนมากและการปรากฏตัวที่เพิ่มขึ้น พวกเขาทำงานควบคู่ไปกับบรรดาบุรุษที่ช่วยเสริมกันและกัน เป็นเครื่องหมายที่มีลักษณะสำคัญของความรักฉันมารดาของพระเจ้า บรรดาสตรี ฆราวาสและนักบวช และในปัจจุบันมีครอบครัวจำนวนมาก ดำเนินการแพร่ธรรมตามกระแสเรียกของพวกเขาในหลายรูปแบบ นับตั้งแต่การประกาศพระวรสารไปจนถึงการให้บริการทางด้านกิจเมตตา พร้อมกับการประกาศพระวรสารและงานศีลศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาธรรมทูต บ่อยครั้งที่บรรดาสตรีและครอบครัวมีความเข้าใจปัญหาของผู้คนที่เหมาะสมมากกว่า และรู้วิธีที่จะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม เป็นครั้งเป็นคราว วิธีการใหม่ๆ ในการดูแลชีวิต ด้วยการมุ่งเน้นไปที่คนมากกว่าองค์ประกอบอื่นๆ และด้วยการจัดสรรบุคลากรและชีวิตฝ่ายจิตด้วยการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ความสามัคคี สันติภาพ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน การเสวนา ความร่วมมือกัน และความเป็นพี่น้องกัน ทั้งในระดับส่วนบุคคลและชีวิตทางสังคมและวัฒนธรรม เฉพาะอย่างยิ่งโดยทางการเอาใจใส่ต่อผู้ยากจน

           ในหลายๆพื้นที่การประกาศพระวรสารเริ่มจากการให้การศึกษา ซึ่งบรรดาธรรมทูตทำงานด้วยการอุทิศเวลาและความพยายามอย่างมาก เหมือนกับความเมตตาของคนสวนในพระวรสาร (เทียบ ลก-13:7-9 ; ยน15:1) มีความอดทนรอคอยผลหลังจากเวลาหลายปีที่ได้อบรมสั่งสอน ด้วยวิธีการนี้ พวกเขาได้ทำให้เกิดคนรุ่นใหม่ที่สามารถออกไปประกาศพระวรสาร ผู้ซึ่งสามารถจะนำพระวรสารไปยังสถานที่ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ พระศาสนจักรยังสามารถให้คำจำกัดความว่าเป็น “มารดา” สำหรับผู้ที่สักวันหนึ่งจะมีความเชื่อในพระคริสตเจ้า ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงหวังว่า ประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าจะสานต่อการดำเนินการการรับใช้เยี่ยงมารดาแห่งความเมตตานี้ต่อไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่ยังไม่รู้จักพระเจ้าได้พบกับพระองค์และรักพระองค์ ความเชื่อเป็นพระพรของพระเจ้า และไม่ใช่ผลที่ตามมาของการเปลี่ยนศาสนา อย่างไรก็ตาม ความเชื่อเติบโตขึ้นต้องขอบคุณความเชื่อและความรักของผู้ประกาศพระวรสารผู้ซึ่งเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้า ในขณะที่พวกท่านเดินทางไปตามถนนสายต่างๆในโลก ศิษย์ของพระคริสตเจ้าจำเป็นต้องมีความรักที่ปราศจากขีดจำกัด ด้วยมาตรการเดียวกับความรักที่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงมีต่อมนุษย์ทุกคน เราประกาศพระพรอันงดงามที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระองค์ประทานให้เรา คือชีวิตและความรักของพระองค์

          มนุษย์ทุกคนและทุกวัฒนธรรมมีสิทธิที่จะได้รับสารแห่งความรอดพ้นซึ่งเป็นพระพรของพระเจ้าที่ทรงมอบให้กับทุกบุคคล สิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นมากขึ้นเมื่อเราพิจารณาถึงความอยุติธรรม สงคราม และวิกฤตด้านมนุษยธรรมจำนวนมากที่ยังคงต้องการการแก้ปัญหา บรรดาธรรมทูตรู้จากประสบการณ์ว่าพระวรสารแห่งการให้อภัยและความเมตตาสามารถนำความชื่นชมยินดี การคืนดี ความยุติธรรม และสันติ อำนาจที่ได้รับมอบหมายโดยพระวรสารที่ว่า “จงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน” (มธ 28:19-20) ยังไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้มอบหมายหน้าที่ให้เราทุกคน ในภูมิทัศน์ปัจจุบันและความท้าทายทั้งปวง เพื่อที่จะฟังเสียงเรียกให้ฟื้นฟู “แรงบันดาลใจ” ของพลังธรรมทูตขึ้นใหม่ ดังที่ข้าพเจ้าได้กล่าวถึงในพระสมณสาสน์เตือนใจเรื่อง “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร 20” ว่า “คริสตชนทุกคนและชุมชนทั้งหมดจะร่วมกันพิเคราะห์แยกแยะว่า หนทางใดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกร้องเรา อย่างไรก็ตาม เราทุกคนได้รับเชิญให้ยอมรับเสียงเรียกนี้ คือการออกจากความสะดวกสบายปลอดภัยของตนเอง และมีความกล้าหาญที่จะไปยังทุกพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างแห่งพระวรสาร”

           ปีศักดิ์สิทธิ์ปีนี้มีความสำคัญคือครบรอบ 90 ปีของวันแพร่ธรรมสากล ซึ่งได้รับการอนุมัติครั้งแรกโดยสมเด็จพระสันตะปาปา ปีอุส ที่ 11 ในปีค.ศ. 1926 และได้จัดโดยสมณองค์กรเผยแพร่ความเชื่อ จึงเป็นความเหมาะสมที่จะรำลึกถึงคำแนะนำอันเฉลียวฉลาดของสมเด็จพระสันตะปาปาที่ทรงดำรงตำแหน่งมาก่อหน้าข้าพเจ้า ซึ่งท่านได้สั่งว่าสำหรับสมณองค์กรนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเก็บรวบรวมเงินถวายต่างๆในทุกสังฆมณฑล เขตวัด หมู่คณะนักบวช สมาคม และขบวนการต่างๆของพระศาสนจักรทั่วโลก เพื่อการเอาใจใส่ดูแลชุมชนคริสตชนที่มีความยากลำบาก และเพื่อสนับสนุนการประกาศพระวรสารไปจนสุดปลายแผ่นดิน แม้ในปัจจุบันนี้เรายังเชื่อถึงเครื่องหมายของความเป็นหนึ่งเดียวกันของการแพร่ธรรมของพระศาสนจักรนี้ ขออย่าให้เราปิดหัวใจของเราเอาใจใส่เฉพาะความต้องการของตนเองเท่านั้น แต่ขอให้เราเปิดหัวใจออกเพื่อมนุษยชาติทั้งมวล

           ขอพระนางมารีย์ ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ภาพอันประเสริฐของการไถ่กู้มนุษยชาติ แบบอย่างการแพร่ธรรมของพระศาสนจักร โปรดทรงสอนชาย หญิงทุกคน และทุกครอบครัว ให้ช่วยกันส่งเสริมให้เกิดและปกป้องการมีชีวิตอยู่ และยอมรับธรรมล้ำลึกขององค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพ ให้พวกเขาฟื้นฟูความสัมพันธ์ส่วนบุคคล วัฒนธรรม และมนุษย์ทุกคน และเป็นผู้ที่เต็มด้วยความชื่นชมยินดีแห่งความเมตตา

จากสำนักวาติกัน
15 พฤษภาคม 2016
สมโภชพระจิตเจ้า
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส