การก่อตั้งพระฐานานุกรมพระศาสนาจักรไทย
- รายละเอียด
- หมวด: ประวัติอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ฮิต: 2472
การก่อตั้งพระฐานานุกรมพระศาสนาจักรไทย
ในสมัยพระสังฆราชหลุยส์ โชแรง (Louis Chorin 1947-1965) การแบ่งแยกการปกครองเช่นนี้ก็ยังคงมีอยู่ เพราะในปี ค.ศ. 1960 เขตปกครองทางเชียงใหม่ได้รับการยกขึ้นเป็นสังฆรักษ์ การทำงานแพร่ธรรมในสมัยนี้ดีขึ้นมาก เนื่องจากจำนวนมิชชันนารีและพระสงฆ์พื้นเมืองเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งคณะนักบวชต่างๆ ก็เข้ามาช่วยทำงานมากขึ้นด้วย
พระศาสนจักรในเมืองไทยเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา เพราะอาศัยความร้อนรนและความขยันขันแข็งของบรรดาพระสังฆราชและบรรดามิชชันนารี รวมทั้งพระสงฆ์พื้นเมืองและนักบวชคณะต่างๆ มีแนวโน้มที่จะสามารถเจริญก้าวหน้าต่อไปได้อย่างดี สมณกระทรวงโปรปากันดา ฟีเด จึงตัดสินใจว่า ถึงเวลาแล้วที่ควรจะสถาปนาพระฐานานุกรมพระศาสนจักรในประเทศไทย ให้มีฐานะและศักดิ์ศรีเทียบเท่าพระศาสนจักรท้องถิ่นอื่นๆ ของประเทศต่างๆ ในยุโรป ด้วยความสนับสนุนของผู้แทนพระสันตะปาปาประจำประเทศไทย 2 องค์ ได้แก่ ฯพณฯ ยอห์น กอร์ดอน และ ฯพณฯ อันเยโล เปโดรนี สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ได้ทรงสถาปนาพระฐานานุกรม
พระศาสนจักรในเมืองไทยเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 1965 โดยแบ่งแยกเขตปกครองออกเป็น 2 แขวงใหญ่ๆ (Ecclesiastical Provinces) ได้แก่ แขวงปกครองของกรุงเทพฯ และแขวงปกครองของ ท่าแร่-หนองแสง มีพระสังฆราชเป็นผู้ปกครองโดยตรง ซึ่งมีรายละเอียดพอจะสรุปได้ดังต่อไปนี้
1.แขวงปกครองพระศาสนจักรแห่งกรุงเทพฯ ประกอบด้วย
-อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มี ฯพณฯ ยวง นิตโย เป็นอัครสังฆราช มีสังฆมณฑล 3 สังฆมณฑล อยู่ภายใต้แขวงปกครองนี้ ได้แก่
1. สังฆมณฑลราชบุรี 2. สังฆมณฑลจันทบุรี 3. สังฆมณฑลเชียงใหม่
2.แขวงปกครองพระศาสนจักรแห่ง ท่าแร่-หนองแสง ประกอบด้วย
-อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง มี ฯพณฯ มีคาแอล เกี้ยน เสมอพิทักษ์ เป็นอัครสังฆราช มีสังฆมณฑล 3 สังฆมณฑล อยู่ภายใต้แขวงปกครองนี้ ได้แก่
1. สังฆมณฑลอุบลราชธานี 2. สังฆมณฑลนครราชสีมา 3. สังฆมณฑลอุดรธานี
จะสังเกตได้ว่าบัดนี้ทุกๆ มิสซังที่มีอยู่ ได้รับการแต่งตั้งขึ้นให้อยู่ในระดับสังฆมณฑลมีพระสังฆราชของตนเองปกครอง นับว่าเป็นเกียรติต่อพระศาสนจักรในเมืองไทยอย่างมาก และพระศาสนจักรในเมืองไทยได้เฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี แห่งการสถาปนาพระฐานานุกรมนี้เมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ. 1991 ที่บ้านเณรใหญ่แสงธรรม ในแต่ละสังฆมณฑลก็ได้จัดให้มีการเฉลิมฉลองกันเป็นพิเศษอีกด้วย
ต่อมาไม่นานหลังจากได้รับการสถาปนาพระฐานานุกรมแล้ว สังฆมณฑลนครสวรรค์ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1967
อีก 2 ปีต่อมา สังฆมณฑลสุราษฎร์ธานีก็ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ค.ศ. 1969 สังฆมณฑลใหม่ทั้งสองนี้อยู่ในแขวงปกครองพระศาสนจักรแห่งกรุงเทพฯ
ในปี ค.ศ. 1973 พระอัครสังฆราช ยอแซฟ ยวง นิตโย หรือ ฯพณฯ ยวง นิตโย ขอลาออกจากหน้าที่เพราะสุขภาพและความชราภาพ
พระอัครสังฆราชองค์ที่ 2 แห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้แก่ ฯพณฯ ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู งานของพระศาสนจักรขยายขอบเขตออกไปในทุกๆ ด้าน ในที่สุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 1983 สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้แต่งตั้ง พระอัครสังฆราช ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู เป็นพระคาร์ดินัล
นำความปลาบปลื้มใจมาสู่คาทอลิกในประเทศไทย เป็นเกียรติและศักดิ์ศรีที่น่าภูมิใจของประเทศชาติด้วย นับเป็นพระคาร์ดินัลองค์แรกของประเทศไทย.