มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

 

สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์

 

นักบุญออกัสติน ได้เทศน์สอนเกี่ยวกับการเสด็จขึ้นสวรรค์ขององค์พระเยซูเจ้าไว้ว่า:

     "พระเยซูคริสตเจ้า  พระเจ้าของเราเสด็จขึ้นสวรรค์  ให้เรายกจิตใจของเราขึ้นไปกับพระองค์ จงฟังคำของท่านอัครสาวกเปาโล ท่านกล่าวว่า "พระเจ้าให้ท่านกลับมีชีวิตขึ้นมากับพระเยซูคริสตเจ้าแล้ว  ดังนั้น จงปักใจอยู่กับสิ่งที่อยู่ในสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระคริสตเจ้าประทับบนบัลลังก์ ณ เบื้องขวาพระเจ้า จงฝังใจกับสิ่งที่อยู่ที่นั่น ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนโลกนี้" ด้วยเหตุที่พระองค์ได้สถิตอยู่กับเรา  แม้หลังจากเสด็จขึ้นสวรรค์แล้ว ดังนั้นเราก็อยู่ในสวรรค์กับพระองค์แล้วด้วย แม้ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญากับเรายังไม่สำเร็จในกายของเรา

     บัดนี้ พระคริสตเจ้าทรงได้รับการเทิดทูนไว้เหนือฟ้าสวรรค์  แต่พระองค์ก็ยังทรงรับทรมานในโลก ด้วยความเจ็บปวด ซึ่งเราที่เป็นอวัยวะแห่งพระกายของพระองค์ต้องรับทน พระองค์ทรงแสดงให้เห็นเมื่อพระองค์ตรัสจากเบื้องบนว่า "เซาโล เซาโล เจ้าเบียดเบียนเราทำไม?" และเมื่อพระองค์ตรัสว่า "เมื่อเราหิว ท่านได้ให้อาหารแก่เรา"

     ทำไมเราที่อยู่ในโลก  จึงไม่พยายามที่จะแสวงหาการพักผ่อนกับพระองค์ในสวรรค์เสียแต่บัดนี้ โดยทางความเชื่อ ความไว้ใจและความรักซึ่งรวมเราเข้ากับพระองค์? ขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในสวรรค์ พระองค์ก็ประทับอยู่กับเราด้วย และเราขณะที่อยู่ในโลก เราก็อยู่กับพระองค์ด้วย พระองค์ประทับอยู่กับเราที่นี่  โดยพระเทวภาพฤทธานุภาพและความรักของพระองค์ เราไม่สามารถอยู่ในสวรรค์ ดังที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกโดยพระเทวภาพ แต่ในพระองค์เราสามารถอยู่ในสวรรค์โดยความรัก

     พระองค์มิได้ทรงละจากสวรรค์ เมื่อพระองค์เสด็จลงมายังเรา และพระองค์ก็ไม่ได้ทรงละจากเรา เมื่อพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์ ความจริงที่พระองค์สถิตอยู่ในสวรรค์ แม้ขณะที่พระองค์ประทับอยู่ในโลกนั้นเป็นขึ้นโดยสภาพจากพระองค์เอง "ไม่มีใครจะขึ้นสวรรค์ได้นอกจากพระองค์ผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์ คือบุตรแห่งมนุษย์ผู้ประทับในสวรรค์"

     ถ้อยคำเหล่านี้ เราเข้าใจได้ โดยการที่เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า เหตุว่า พระองค์ทรงเป็นศีรษะของเรา  และเราเป็นร่างกายของพระองค์ ไม่มีใครจะขึ้นสวรรค์ได้นอกจากพระคริสตเจ้า เราทุกคนเป็นพระคริสตเจ้าด้วยเพราะพระองค์ทรงเป็นบุตรมนุษย์ โดยการรวมพระองค์เองกับเรา และโดยการรวมตัวเรากับพระองค์ เราก็เป็นบุตรของพระเจ้า ดังที่ท่านอัครสาวกกล่าวว่า "เช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ซึ่งมีอวัยวะหลายส่วน แต่เป็นร่างกายเดียวเพราะอวัยวะทุกส่วนต่างกันรวมเป็นกายเดียว ในพระคริสตเจ้าก็เช่นเดียวกัน" พระองค์ทรงมีอวัยวะหลายส่วน แต่ทรงมีเพียงพระกายเดียว

ด้วยความเวทนาต่อเรามนุษย์  พระองค์ได้เสด็จลงมาจากสวรรค์  และแม้ว่าพระองค์เสด็จขึ้นสวรรค์แต่ผู้เดียว  เราก็ขึ้นไปกับพระองค์ด้วย เพราะว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์โดยพระหรรษทาน ดังนั้นมีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จลงมา และมีแต่พระคริสตเจ้าเท่านั้นที่เสด็จขึ้นไป  ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีความแตกต่างกันระหว่างศีรษะและร่างกาย แต่เพราะเป็นร่างกายเดียวจึงแยกจากศีรษะไม่ได้" (นักบุญออกัสติน)

"ครั้นพระเยซูเจ้าตรัสสั่งพวกเขาแล้ว  พระเจ้าก็ทรงรับพระองค์ขึ้นสู่สวรรค์ และพระองค์ประทับเบื้องขวาพระเป็นเจ้า" (มก.16:19)

     ถ้าเราเข้าใจปรัชญาชีวิตของพระเยซูเจ้าดีและพยายามเข้าใจการเทิดทูน สภาวะมนุษย์ของพระองค์อย่างที่เราฉลองในวันนี้เราควรจะพยายามทดลองดู เราอาจดำเนินชีวิต รวมทั้งเรื่องเพศและความรักในชีวิตสมรสในฐานะเป็นความจริงทางโลกเราอาจจะพัฒนาศักยภาพของเราทางโลกจนถึงความสมบูรณ์ เราอาจจะใช้วิทยาศาสตร์ สังคมวิทยา ฯลฯ เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าในโลกนี้ เราอาจจะขอคำแนะนำจากผู้ที่ให้คำปรึกษาด้านชีวิตแต่งงาน และจิตแพทย์ หายาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาที่หาได้  ถึงกระนั้น ในช่วงเวลาที่เราค้นพบแล้ว เรารู้ดีว่าจะต้องมีอะไรมากกว่าทั้งหมดนี้ คือมี "ความเป็นจริงที่อยู่โพ้นธรรมชาติมนุษย์"

     ในความเชื่อ  และในการติดตามพระเยซูเจ้าแห่งนาซาเร็ธเราเห็น "ความเป็นจริงที่อยู่โพ้นธรรมชาติมนุษย์" นี้ว่า เป็นพระบิดาผู้กำลังรอคอยเรา พระเยซูเจ้าทรงเป็นจุดเริ่มต้น "เมื่อพระองค์ท่านผู้เป็นศีรษะและบุตรหัวปีได้เข้าสวรรค์เป็นคนแรก ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้เป็นส่วนอื่น ๆ แห่งพระวรกาย ก็จะได้ติดตามไปรับความรุ่งเรืองอันเดียวกันด้วย" (บทเริ่มขอบพระคุณ) "ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพ…ข้าพเจ้าทั้งหลาย…มีความหวังว่า การเสด็จขึ้นสวรรค์ของพระองค์ท่านจะเป็นการนำข้าพเจ้าทั้งหลายเข้าสู่สวรรค์ด้วย" 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown