สมโภชพระคริสตสมภพ

     พระศาสนจักรฉลองสมโภชพระคริสตสมภพ ในการรับเอากายมาเป็นมนุษย์ของพระเจ้า เป็นการสมโภชที่มีความหมายทางด้านจิตใจ เป็นการเสนอแนะทางด้านพิธีกรรมที่แสดงออกในการถวายบูชามิสซาถึง 3 มิสซาในวันนี้ พระสงฆ์ถวายบูชาในแต่ละมิสซาในข้อรำพึงถึง : มิสซาแรก “การบัง เกิดมาของพระวัจนาถจากพระอุระอันรุ่งโรจน์ของพระบิดาเจ้า” : มิสซาที่สอง “การปรากฎมาของพระองค์ในสภาพของมนุษย์ที่มีเนื้อหนัง” : มิสซาที่สาม “การกลับมาอีกครั้งหนึ่งในวันพิพากษาครั้งสุดท้าย” (Liber Sacramentorum)

     เราไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการฉลองพระคริสตสมภพก่อนคริสตศักราช 330 การสมโภชในวันที่ 25 ธันวาคม ถูกกำหนดขึ้นจากวันเทศกาลของคนต่างศาสนา ในวันฉลองดวงอาทิตย์ในฤดูหนาว เมื่อผู้บูชาดวงอาทิตย์ฉลองการกลับมาของแสงสว่างหลังจากวันที่สั้นที่สุดของปี ในวันสมโภชพระคริสตสมภพ เราฉลองการบังเกิดของพระองค์ผู้เป็นดวงอาทิตย์ที่แท้จริง เป็นแสงสว่างส่องโลกเป็นแสงซึ่งให้ความหมายใหม่หมดทุกอย่างจากประเพณีความเชื่อที่ถ่ายทอดมาจากคนต่างศาสนาในสมัยก่อน วันสมโภชพระคริสตสมภพ คริสตชนฉลองอรุโณทัยของแสงสว่างจากพระเจ้าที่ส่องมายังมนุษย์ผู้กำลังผ่านหุบเหว แห่งความมืด เป็นวันแห่งความชื่นชมยินดี ดังที่สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอผู้ยิ่งใหญ่ได้ทรงเทศน์เนื่อง ในวันสมโภชพระคริสตสมภพไว้ว่า “ลูกที่รัก วันนี้เป็นวันสมโภชพระคริสตสมภพ ให้ทุกคนชื่นชมยินดี วันนี้ไม่ใช่วันแห่งความเศร้า เพราะเป็นวันเกิดของชีวิต ชีวิตที่ทำลายความตาย นำความยินดีและสัญญาแห่งชีวิตนิรันดรมาให้

     ขออย่าให้มีแม้แต่คนเดียวไม่ได้รับความยินดีนี้ ต้นเหตุแห่งความยินดีเป็นของทุกคน เพราะว่า ไม่มีมนุษย์คนใดที่ปราศจากบาปเมื่อพระองค์เสด็จมาเพื่อพิชิตความตายและบาป ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงเสด็จมาไถ่บาปของทุกคน ขอให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์จงชื่นชมเพราะมงกุฏของเขาอยู่แค่เอื้อม ขอให้คนบาป เต็มเปี่ยมด้วยความยินดีเพราะเขากำลังจะได้รับการอภัย ขอให้นานาชาติจงกล้าหาญเพราะพระเจ้ากำลังเรียกเขามาสู่ชีวิตใหม่

     เมื่อถึงวาระที่กำหนด ซึ่งพระเจ้าได้ทรงวางโครงการไว้อย่างสุขุม พระบุตรของพระเจ้าได้ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ในพระองค์เพื่อให้มนุษย์คืนดีกับพระ ดังนี้มารร้ายบิดาแห่งความตายจะพ่ายแพ้ไปด้วยธรรมชาติอันเดียวกันของมนุษย์ ซึ่งมันเคยชนะมา

     เมื่อพระคริสตเจ้าทรงสมภพ เทวดาเปล่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีว่า “พระสิริรุ่งโรจน์แด่พระ เจ้าในสรวงสวรรค์ และมนุษย์ที่พระองค์โปรดปรานจงประสบสันติสุขบนแผ่นดิน” เหตุว่าเทวดาเห็น เยรูซาเล็มสวรรค์กำลังถูกก่อสร้างขึ้นจากทุกชาติบนแผ่นดินมนุษย์บนแผ่นดินจะยินดีปรีดิ์เปรมสักเพียง ใดในงานอันสุขุมลึกลับแห่งความรักของพระเจ้า เมื่อเทวดาในสวรรค์ยังยินดีถึงเพียงนี้

     ลูกที่รัก ให้เราขอบพระคุณพระบิดาเจ้าเถิด อาศัยพระบุตรของพระองค์ในพระจิตเจ้า ในพระ เมตตาเหลือล้นของพระองค์ เพราะพระองค์ทรงรักเรา ทรงเมตตาเรา “ในการประทานชีวิตแก่พระคริสตเจ้านั้น พระองค์ประทานชีวิตแก่เราด้วย เมื่อเรากำลังตายในบาป” จนกว่าเราได้ชีวิตใหม่จากกิจการแห่งพระหัตถ์ของพระองค์

เราจงละทิ้งคนเก่าและความเคยชินของมันเสีย จงรับส่วนแบ่งในการบังเกิดมาของพระคริสต เจ้าและกำจัดกิจการของเนื้อหนัง

     พี่น้องคริสตชนทั้งหลาย จงสำนึกในศักดิ์ศรีของท่านเมื่อท่านได้ร่วมธรรมชาติของพระเจ้าแล้ว จงเฝ้าระวังอย่าเจริญชีวิตเลวทราม และตกเป็นเหยื่อของความต่ำต้อยตามสภาพเก่าอีก จงคิดถึงพระ เศียรและพระวรกายซึ่งท่านเป็นอวัยวะ จงสำนึกอยู่เสมอว่า ท่านได้รับความช่วยเหลือให้พ้นจากอำนาจของความมืดและได้เข้าสู่ความสว่างของพระเจ้าแล้วคือพระอาณาจักรของพระองค์

     โดยทางศีลล้างบาป ตัวท่านได้กลับเป็นพระวิหารของพระจิตเจ้าแล้ว จงระวังอย่าขับไล่ผู้อาศัยที่ยิ่งใหญ่ไปจากท่านด้วยกิจการชั่ว มิฉะนั้นท่านจะตกเป็นทาสของมารร้ายอีก เพราะท่านได้รับการไถ่ถอนมาด้วยค่าไถ่ที่สูงส่งคือพระโลหิตของพระคริสตเจ้าเอง”