มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

20 กันยายน ระลึกถึงนักบุญ กิมเตก๊อน พระสงฆ์ และนักบุญ เปาโล จงฮาซังและเพื่อนมรณสักขี

 

 

 

นักบุญ กิมเตก๊อน พระสงฆ์
และนักบุญ เปาโล จงฮาซังและเพื่อนมรณสักขี

 

     ผ่านไปเป็นเวลานานถึง 200 ปีที่พระศาสนจักรเกาหลี ดินแดนที่อยู่อย่างสงบเงียบ รอคอยแสงอรุณที่จะฉายส่องมาในยามเช้า เมื่อ 5,000 ปีมาแล้วนั้น บรรพบุรุษของเขาแหงนมองดูบนท้องฟ้า กราบไหว้นมัสการพระเจ้าสูงสุดและพวกเขาเชื่อถึงชีวิตในสวรรค์ ชนรุ่นหลังก็ยังคงรักษาความเชื่อดั้งเดิมของพวกเขาไว้สืบทอดต่อๆมา พวกเขาสวมเสื้อผ้าสีขาวเรียกว่า “บุตรแห่งความสว่าง” เป็นการเริ่มต้นที่สวยงามและสำคัญของ “ประวัติย่อ ๆ ของพระศาสนจักรคาทอลิกในเกาหลี” ซึ่งได้ให้กับผู้มาเยี่ยมเยียนพระศาสนจักรแห่งนี้ เป็นประเทศเดียว ในเอเชียกับฟิลิปปินส์ซึ่งถือว่าศาสนาคาทอลิกเป็นศาสนาของประชาชน

     พระศาสนจักรในเกาหลีเริ่มจากบรรดาฆราวาสที่ควรจดจำเป็นพิเศษ คือ ยี ปีโยก มีความหมายคือ “ของประทานที่แท้จริงจากพระญาณสอดส่อง” ในปี ค.ศ.1779 ท่านได้ริเริ่ม “กังฮักโฮย” หรือศูนย์กลางในการแสวงหาการอบรม ท่านได้รวบรวมพระคัมภีร์พระธรรมใหม่และพระธรรมเก่าเป็นร้อยแก้วและสรุปคำสั่งสอนของพระศาสนจักรเป็นร้อยกรอง จีออง ยัก จอง เขียน “บทเพลงแห่งบัญญัติ 10 ประการ” จากจุดนี้เองรัฐบาลซึ่งไม่อนุญาตให้บรรดาธรรมทูตเข้ามาในประเทศหรือแม้กระทั่งไม่ยอมให้พลเมืองในประเทศรับสิ่งที่ชาวต่างชาตินำมา “กังฮักโฮย” เป็นจุดเริ่มทำให้ยี เซอุง ฮูน เข้ามาสู่พระศาสนจักรคาทอลิกแห่งเปกีโน เพื่อรับศีลล้างบาป แต่ไม่นานนักก็มีการรับศีลล้างบาปด้วยเลือดเช่นกัน เมื่อบิดาของ ยี เซอุง ฮุน ถูกขู่เข็นให้ฆ่าตัวตายถ้าไม่ยอมละทิ้งศาสนาคริสต์ แต่ยอห์น บัปติสตา ยี บีหยก ยืนยันความ เชื่อของท่านด้วยการจำศีลอดอาหาร รำพึง ภาวนาทั้งวันทั้งคืน โดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า และนั่งบนพื้นดินโดยไม่ขยับเขยื้อนเลย หลังจากการอดอาหาร 15 วัน ท่านได้สิ้นใจอย่างศักดิ์สิทธิ์และ ด้วยความกล้าหาญด้วยอายุเพียง 31 ปี คือในปี ค.ศ.1785

     การรับศีลล้างบาปยังคงขาดการจัดระบบระเบียบจากพระสงฆ์ บรรดาฆราวาสผู้ก่อตั้งพระศาสนจักรในเกาหลีได้จัดตั้งโครงสร้างเกี่ยวกับการปกครองสงฆ์ขึ้นมา ดังนั้น ในปี ค.ศ.1795 ที่เปกีโน จึงมีพระสงฆ์องค์แรก คือ ยากอบมูนโม แต่รัฐบาลเกาหลีได้สั่งให้จับท่านเข้าคุก คนต่อ ๆ มาก็ถูกจับขังและถูกฆ่าเช่นเดียวกัน ในปี ค.ศ.1831 สังฆมณฑลโจว เซอัน ซึ่งมีคริสตชนถึง 50,000 คนแต่ยังขาดพระสังฆราชและพระสงฆ์ ฆราวาสชาย เปาโล จงฮาซังก็ได้ถูกตัดศีรษะในปีเดียวกันคือ ปีค.ศ.1831 ในสถานที่เดียวกันกับ ออกัสติน บิดาของท่าน ได้ถูกประหาร

     ในช่วงระยะปี ค.ศ.1839 – 1840 เกิดการเบียดเบียนคริสตชนอย่างรุนแรงในเกาหลี เพื่อให้พวกเขายอมละทิ้งการเป็นพยานยืนยันความเชื่อในพระคริสตเจ้า ชนพื้นเมืองเป็นจำนวนมากกลับใจ พร้อมกับบรรดาธรรมทูตที่มาจากต่างประเทศ อิมเบิร์ตเป็นธรรมทูตทำงานในประเทศจีนมาก่อนที่จะได้บวชเป็นพระสังฆราช และส่งมาอยู่ที่เกาหลี ต่อมาท่านถูกจับขังคุก ถูกทรมานอย่างทารุณโหดร้ายก่อนที่จะถูกประหารชีวิตพร้อมกับพระสงฆ์ของท่านอีก 2 องค์คือ เปโตร เมายันท์ และยากอบ ชัสทั่น

 


นักบุญ เปาโล จงฮาซัง

     ในปี ค.ศ.1846 สนามแห่งการเป็นมรณสักขียิ่งทียิ่งขยายจำนวนมากขึ้นส่วนมากเป็นฆราวาสเกาหลีซึ่งเผชิญหน้าต่อการเป็นมรณสักขีด้วยความสงบ และศรัทธาต่อบรรดามรณสักขีรุ่นแรก ๆ ในพระศาสนจักร ในบรรดามรณสักขีเหล่านี้มีพระสงฆ์องค์แรกของเกาหลี คือ อันดรูว์ กิมเตก๊อน ซึ่งรวมอยู่ในบรรดามรณสักขี 79 ท่านนี้ด้วย ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีในปี ค.ศ.1925

     บรรดามรณสักขีที่เราระลึกถึงในวันนี้ พร้อมกับคนอื่น ๆ อีก 102 ท่านซึ่งส่วนมากเป็นฆราวาส ชาย และหญิง แต่งงานและเป็นโสด คนชรา คนหนุ่มสาว และเด็ก เหยื่อแห่งการถูก เบียดเบียนในปี ค.ศ.1839, 1866 และ 1867 ท่านเหล่านี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นบุญราศีในปีค.ศ.1925 และในปี ค.ศ.1968 และได้รับการสถาปนาเป็นนักบุญในปี ค.ศ.1984 ที่กรุงโซล นับเป็นการสถาปนานักบุญนอกกรุงโรมเป็นครั้งแรกในสมัยนี้

 

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown