วันที่    13 มีนาคม 2014        มธ. 6: 25, 30-34
    …….ฉะนั้น  เราบอกท่านทั้งหลายว่า  อย่ากังวลถึงชีวิตของท่านว่า
                    จะกินอะไร อย่ากังวลถึงร่างกายของท่านว่าจะนุ่งห่มอะไร ชีวิตย่อมสำคัญ
                    กว่าอาหาร และร่างกายสำคัญกว่าเครื่องนุ่งห่มมิใช่หรือ............แม้แต่หญ้าในทุ่งนา ซึ่งมีชีวิตอยู่วันนี้ รุ่งขึ้นจะถูกโยนทิ้งในเตาไฟ พระเจ้ายังทรงตกแต่งเช่นนี้  พระองค์จะไม่สนพระทัยท่านมากกว่านั้นหรือ ท่านช่างมีความเชื่อน้อยจริง  ดังนั้นอย่ากังวลและกล่าวว่า  ‘เราจะกินอะไร หรือ จะดื่มอะไรหรือเราจะนุ่งห่มอะไร’  เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้คนต่างศาสนาแสวงหา  
พระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการทุกสิ่งเหล่านี้  จงแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มทุกสิ่งเหล่านี้ให้”

    “เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายอย่ากังวลถึงวันพรุ่งนี้ เพราะวันพรุ่งนี้จะกังวลสำหรับตนเอง แต่ละวันมีทุกข์พออยู่แล้ว”                      
ขอขอบคุณ



       ขอขอบคุณ สมาชิกกลุ่มแบ่งปันท่านหนึ่ง ที่ได้กรุณามอบเงินสมทบทุนช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดส่งบทแบ่งปันให้แก่เพื่อนๆ สมาชิก
                       
                        ขอขอบคุณในน้ำใจดี และความเมตตาของท่านขอพระเจ้าโปรดประทานพรให้แก่ท่าน และสมาชิกในครอบครัว
ของท่านทุกคน                                  


    ในชีวิตมนุษย์ของเรา มีสองวันในทุกสัปดาห์ที่เราไม่ควรกังวล  ไม่ต้องพรั่นพรึง หวาดหวั่นมันเลยแต่มีอีกหนึ่งวันที่เราต้องเอาใจใส่ ต้องใส่ใจอย่างดีโดยตลอด  สามวันนี้ก็คือ:

ก.    เมื่อวาน (yesterday)    เมื่อวานเป็นวันที่ผ่านพ้นไปแล้ว  พร้อมกับความเอาใจใส่ มุมานะของเรา  หรือพร้อม
กับความผิดพลาด การทำผิดของเรา  ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน ทุกอย่างผ่านไปแล้ว อยู่นอกการควบคุมของเรา ไม่มีอะไร ไม่ว่าจะใช้เงินมหาศาลมากน้อยเพียงใดก็ตาม ก็ไม่สามารถที่จะนำเมื่อวานกลับคืนมาได้  เราไม่สามารถเรียกการกระทำใดก็ตามกลับคืนมาเพื่อทำใหม่ให้ดีขึ้น  ไม่สามารถนำความผิดพลาดกลับมาเพื่อทำใหม่ให้ถูกต้อง ไม่สามารถเรียกคำพูดที่ไม่น่าจะเอ่ยออกไปกลับเข้ามาในปากของเรา ‘วันวาน’ (yesterday) ผ่านไปโดยไม่เวียนกลับมา จงปล่อยมันไป

ข.    พรุ่งนี้ (tomorrow)    อีกวันก็คือ  วัน ‘พรุ่งนี้’  เหมือน  ‘วันวาน’    วัน ‘พรุ่งนี้’  ก็อยู่นอกเหนือการควบคุม
ของเรา ไม่ว่าพรุ่งนี้ พระอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าทิศตะวันออกด้วยแสงสว่างเจิดจ้า สดใส หรือถูกบดบังด้วยเมฆก้อนใหญ่  เราก็ไม่รู้ล่วงหน้า  แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือ  พระอาทิตย์  จะขึ้น  วันใหม่จะมาพร้อมกับคำสัญญาหรือความผิดหวัง  พร้อมกับมิตรภาพหรือความเป็นศัตรู  เราก็ไม่อาจรู้ล่วงหน้า  เรารู้อย่างเดียวว่า เมื่อมัน (วันพรุ่งนี้) มาถึง 
เราจึงจะมีส่วนร่วมกับมัน

ค.    วันนี้ (today)        และวันที่เรามีส่วนร่วมกับมัน  นั่นก็คือ  ‘วันนี้’ (today)  ซึ่งเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต
ของเรา ของมนุษย์ทุกคน  เป็นวันที่เราจำต้องดำเนินชีวิตอย่างดีที่สุด ทำดีที่สุด เพื่อไม่ให้ “วันนี้”  กลายเป็น ‘เมื่อวาน’ (yesterday) ที่ขมขื่น  ที่ผิดหวัง และ ‘วันนี้’ เมื่อถูกใช้ในทางที่ดีแล้วก็เป็นการเตรียมตัวที่จะต้อนรับวัน ‘พรุ่งนี้’  ด้วยความพร้อม ด้วยความเชื่อในพระพรของพระเจ้า
-    Robert J. Burdette


ในสามวันนี้  “เมื่อวาน” (yesterday)  นำเราสู่  “วันนี้” (today)
“วันนี้”  ของเราจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับ  “เมื่อวาน”  ของเรา  
ส่วนวัน  “พรุ่งนี้” (tomorrow)  เราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร  แต่มันก็กำลังมาหาเรา 
เพราะ “วันนี้”  ก็คือ  “เมื่อวาน”  ของวัน “พรุ่งนี้” เอง 
เพราะเหตุนี้จึงเป็นการดี เป็นความปรีชาญาณที่เราจะดำเนินชีวิตด้วยดี
ทำงานอย่างดีใน “วันนี้”  
เพื่อวัน  “พรุ่งนี้”  เมื่อมาถึงจะเป็น  “วันนี้”  ที่ดีของเรา  “ทุกวัน”
                        -     Gene Perret