มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม 2018 ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ของพระเยซูเจ้า

บทอ่านจากหนังสือซามูเอลฉบับที่หนึ่ง                           1 ซมอ 1:20-22,24-28
     นางฮันนาห์ก็ตั้งครรภ์และเมื่อถึงเวลากำหนดก็ให้กำเนิดบุตรชาย นางตั้งชื่อเขาว่าซามูเอล “เพราะนางเคยทูลขอบุตรนี้จากองค์พระผู้เป็นเจ้า” เมื่อเอลคานาห์สามีกับครอบครัวขึ้นไปถวายเครื่องบูชาประจำปีแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและแก้บน นางฮันนาห์ไม่ได้ขึ้นไปด้วย นางบอกสามีว่า “พอเด็กหย่านมแล้ว ดิฉันจะพาเขาไปอยู่เฉพาะพระพักตร์องค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะอยู่ที่นั่นตลอดไป”
     เมื่อเด็กหย่านมแล้ว นางก็พาเขาขึ้นไปที่วิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่เมืองชิโลห์ นำโคหนุ่มอายุสามปีตัวหนึ่ง แป้งประมาณสองถังและเหล้าองุ่นหนึ่งถุงหนังไปด้วย ขณะนั้นเขายังเด็กมาก บิดามารดาฆ่าโคถวายบูชาและพาเด็กไปพบเอลี นางฮันนาห์กล่าวแก่เอลีว่า “นายเจ้าขา จำดิฉันได้ไหม ดิฉันเป็นหญิงที่เคยยืนอธิษฐานทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าที่นี่ต่อหน้าท่าน ดิฉันทูลขอเด็กคนนี้ และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ประทานให้ดิฉันตามคำทูลขอ บัดนี้ ดิฉันจึงขอถวายเขาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้าตราบเท่าที่เขามีชีวิต” แล้วบิดามารดาก็นมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าที่นั่น

 

เพลงสดุดี                                                                   สดด 128:1-2,3,4-5
     ก) ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมเป็นสุข
เขาเดินอยู่ในมรรคาของพระองค์
ท่านจะมีอาหารกินจากงานที่ท่านทำ
ท่านจะเป็นสุขและเจริญรุ่งเรือง
    ข) ภรรยาของท่านจะเป็นดั่งเถาองุ่นที่มีผลดกภายในบ้านของท่าน
บุตรของท่านจะเป็นเหมือนหน่อต้นมะกอกเทศนั่งอยู่รอบโต๊ะอาหาร
     ค) บุรุษผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับพระพรเช่นนี้
ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระพรแก่ท่านจากศิโยน
ขอให้ท่านเห็นความรุ่งเรืองของกรุงเยรูซาเล็ม
ทุกวันตลอดชีวิตของท่าน

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์นฉบับที่หนึ่ง                     1 ยน 3:1-2,21-24
    จงดูเถิดว่า ความรักที่พระบิดาประทานให้เรานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด เพื่อทำให้เราได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้า และเราก็เป็นเช่นนั้นจริง โลกไม่รู้จักเรา เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์ ท่านที่รักทั้งหลาย บัดนี้ เราเป็นบุตรของพระเจ้าแล้ว แต่เราจะเป็นอย่างไรในอนาคตนั้นยังไม่ปรากฏชัดแจ้ง เราตระหนักดีว่า เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ เราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น
     ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าใจของเราไม่กล่าวโทษเรา เราย่อมมั่นใจได้เมื่ออยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และถ้าเราวอนขอสิ่งใด เราย่อมจะได้รับสิ่งนั้นจากพระองค์ เพราะเราปฏิบัติตามบทบัญญัติ และทำสิ่งที่พระองค์พอพระทัย นี่เป็นบทบัญญัติของพระองค์ คือ ให้เราเชื่อในพระนามพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรของพระองค์ และให้เรารักกัน ดังที่พระองค์ทรงบัญญัติให้เรา ผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติ ย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าทรงดำรงอยู่ในผู้นั้น เรารู้ว่าพระองค์ทรงดำรงอยู่ในเรา จากพระจิตเจ้า ซึ่งพระองค์ประทานให้เรา

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                 ลก 2:41-52
     โยเซฟพร้อมกับพระมารดาของพระเยซูเจ้าเคยขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มในเทศกาลปัสกาทุกปี เมื่อพระองค์มีพระชนมายุสิบสองพรรษา โยเซฟพร้อมกับพระมารดาก็ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มตามธรรมเนียมของเทศกาลนั้น เมื่อวันฉลองสิ้นสุดลง ทุกคนก็เดินทางกลับ แต่พระเยซูเจ้ายังประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็มโดยที่บิดามารดาไม่รู้ เพราะคิดว่า พระองค์ทรงอยู่ในหมู่ผู้ร่วมเดินทาง เมื่อเดินทางไปได้หนึ่งวันแล้ว โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ตามหาพระองค์ในหมู่ญาติและคนรู้จัก เมื่อไม่พบจึงกลับไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อตามหาพระองค์ที่นั่น
    ในวันที่สาม โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์พบพระองค์ในพระวิหารประทับนั่งอยู่ในหมู่อาจารย์ ทรงฟังและทรงไต่ถามพวกเขา ทุกคนที่ได้ฟังพระองค์ต่างประหลาดใจในพระปรีชาที่ทรงแสดงในการตอบคำถาม เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์เห็นพระองค์ก็รู้สึกแปลกใจ พระมารดาจึงตรัสถามพระองค์ว่า “ลูกเอ๋ย ทำไมจึงทำกับเราเช่นนี้ ดูซิ พ่อกับแม่ต้องกังวลใจตามหาลูก” พระองค์ตรัสตอบว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทำไม พ่อแม่ไม่รู้หรือว่า ลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก” โยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์ไม่เข้าใจที่พระองค์ตรัส
     พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดาและเชื่อฟังท่านทั้งสองคน พระมารดาทรงเก็บเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ไว้ในพระทัย พระเยซูเจ้าทรงเจริญขึ้นทั้งในพระปรีชาญาณ พระชนมายุ และพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์

 

ข้อคิด
     วันนี้เป็นวันอาทิตย์สุดท้ายของปีปฏิทินสากล พระศาสนจักรกำหนดให้ทุกคนร่วมส่วนในชีวิตของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ ที่มีพระเยซูเจ้าเป็นศูนย์กลางโดยมีพระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟร่วมบทบาทให้แบบฉบับแก่ครอบครัวต่างๆ
องค์พระผู้เป็นเจ้าต้องเป็นศูนย์กลางของชีวิตครอบครัว... จะทุกข์หรือสุข จะยากดีมีจน จะมีสุขภาพแข็งแรงหรือยามเจ็บไข้ได้ป่วย ยามตกอับหรือร่ำรวย... การมีองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นศูนย์กลาง ย่อมบรรเทาใจตลอดเวลา... จะขอบคุณ จะขอโทษ จะขอพระพรให้สิ่งดีเกิดขึ้นหรือสิ่งเลวร้านคลายหายไป ชีวิตยังคงผูกพันกับพระเสมอ ขอทุกครอบครัวมีสันติสุขเสมอ

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown