มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2022 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวฟีลิปปี                   ฟป 2:1-4

        พี่น้อง ถ้าท่านได้รับกำลังใจจากการเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า ถ้าท่านได้รับกำลังใจจากความรัก ถ้าท่านเป็นหนึ่งเดียวกันในพระจิตเจ้า ถ้าท่านเห็นอกเห็นใจสงสารกัน ท่านจงทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยมโดยการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มีความรักแบบเดียวกัน มีความรู้สึกนึกคิดอย่างเดียวกัน อย่าทำการใดเพื่อชิงดีกันหรือเพื่อโอ้อวด แต่จงถ่อมตนคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว จงเห็นแก่ผลประโยชน์ของผู้อื่นด้วย

 

สดด 131:1,2,3

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                       ลก 14:12-14

         เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับผู้ที่เชิญพระองค์ว่า

       “เมื่อท่านจัดเลี้ยงอาหารกลางวันหรืออาหารค่ำ อย่าเชิญมิตรสหาย พี่น้องหรือเพื่อนบ้านที่มั่งมี เพราะเขาจะเชิญท่านและท่านจะได้รับการตอบแทน แต่เมื่อท่านจัดงานเลี้ยง จงเชิญคนยากจน คนพิการ คนง่อย คนตาบอด แล้วท่านจะเป็นสุข เพราะคนเหล่านั้นไม่มีสิ่งใดตอบแทนท่านได้ ท่านจะได้รับการตอบแทนจากพระเจ้าเมื่อผู้ชอบธรรมกลับคืนชีวิต”

 

ข้อคิด

         การให้โอกาสทำความดีด้วยการแสดงความรักต่อพระเจ้าผ่านทางเพื่อนมนุษย์  ย่อมเป็นเครื่องหมายของการมีชีวิตพระในตัวเรา  สมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิสได้ทรงตั้ง “วันคนยากจน”   เมื่อทรงเข้าดำรงตำแหน่งสมณประมุขของพระศาสนจักรเมื่อวันสมโภชพรคริสต์ทรงเป็นกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล  สัปดาห์สุดท้ายของปีพิธีกรรม  ทรงย้ำว่าคนยากจนเป็นเครื่องหมายของการขาดความรักของพระเยซูเจ้า  เพราะพระองค์เป็นกษัตริย์ของทุกคนั้นเอง

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2022 สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือปรีชาญาณ                                                 ปชญ 11:22-12:2

        ข้าแต่พระเจ้า เฉพาะพระพักตร์พระองค์ สากลจักรวาลเปรียบเสมือนฝุ่นผงบนตาชั่ง เหมือนน้ำค้างยามเช้าหยดหนึ่งที่ตกบนพื้นดิน แต่พระองค์ทรงพระเมตตาต่อทุกคน เพราะพระองค์ทรงกระทำได้ทุกอย่าง ทรงมองข้ามบาปของมนุษย์ เพื่อเขาจะได้เป็นทุกข์กลับใจ พระองค์ทรงรักทุกสิ่งที่มีอยู่ ไม่ทรงรังเกียจสิ่งใดที่ทรงเนรมิต เพราะถ้าพระองค์ทรงเกลียดสิ่งใด ก็คงจะไม่ทรงเนรมิตสิ่งนั้น หากพระองค์ไม่ทรงประสงค์สิ่งใด สิ่งนั้นจะดำรงอยู่ได้อย่างไร สิ่งนั้นจะคงอยู่ต่อไปได้อย่างไร ถ้าพระองค์ไม่ทรงเรียกให้เกิดขึ้น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงรักทุกสิ่งที่มีชีวิต พระองค์ทรงพระกรุณาต่อทุกสิ่ง เพราะทุกสิ่งเป็นของพระองค์

         พระจิตไม่รู้เสื่อมสลายของพระองค์อยู่ในทุกสิ่ง ดังนั้น ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จึงทรงลงโทษผู้ทำผิดทีละน้อย ทรงตักเตือนและชักชวนให้เขาระลึกถึงบาปที่เขากำลังทำอยู่ เขาจะได้ละทิ้งความชั่ว และมีความเชื่อในพระองค์

 

เพลงสดุดี                                                         สดด 145:1-2,8-9,10-11,13ข-14

         ก)     ข้าแต่พระเจ้า พระราชาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะเทิดพระเกียรติพระองค์

          และจะถวายพระพรแด่พระนามพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์

          ข้าพเจ้าจะถวายพระพรแด่พระองค์ทุกวัน

          จะสรรเสริญพระนามพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์

         ข)      องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดปรานและทรงพระเมตตากรุณา

          กริ้วช้าและทรงความรักมั่นคงอย่างเต็มเปี่ยม

          องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระทัยดีต่อทุกคน

          ความอ่อนโยนของพระองค์ครอบคลุมสิ่งสร้างทั้งมวล

         ค)     ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้สิ่งสร้างทั้งมวลสรรเสริญพระองค์

          ขอให้ผู้จงรักภักดีต่อพระองค์ถวายพระพรแด่พระองค์

          เขาจะพูดถึงพระสิริรุ่งโรจน์แห่งพระอาณาจักรของพระองค์

          และเล่าถึงพระอานุภาพของพระองค์

         ง)      องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงซื่อสัตย์ต่อพระสัญญาทุกถ้อยคำของพระองค์

          ทรงความรักมั่นคงในพระราชกิจทั้งหลาย

          องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงค้ำจุนทุกคนที่กำลังจะล้ม

          และทรงพยุงทุกคนที่ล้มให้ลุกขึ้น

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่สอง    2 ธส 1:11-2:2

         พี่น้อง ด้วยเหตุนี้ เราจึงอธิษฐานภาวนาเพื่อท่านทั้งหลายอยู่เสมอ ขอพระเจ้าของเราโปรดให้ท่านเหมาะสมกับการที่พระองค์ทรงเรียก และขอพระองค์ทรงบันดาลเจตจำนงที่ดีทุกอย่างของท่านรวมทั้งกิจการแห่งความเชื่อให้บรรลุผลสำเร็จ เดชะพระอานุภาพของพระองค์ เมื่อเป็นเช่นนี้ พระนามพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราจะได้รับเกียรติเพราะท่าน และท่านก็จะได้รับเกียรติเดชะพระองค์ ตามพระหรรษทานของพระเจ้าของเราและของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า

        พี่น้องทั้งหลาย เรื่องการเสด็จมาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเรื่องการชุมนุมของเราเพื่อพบกับพระองค์นั้น เราวอนขอท่านอย่ารีบด่วนหวั่นไหวหรือตกใจไม่ว่าเพราะคำพยากรณ์ที่อ้างว่ามาจากพระจิตเจ้า หรือเพราะคำพูด หรือจดหมายที่อ้างว่ามาจากเรา ประหนึ่งว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงแล้ว

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                       ลก 19:1-10

        เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าเมืองเยรีโคและกำลังจะเสด็จผ่านเมืองนั้น ชายคนหนึ่งชื่อศักเคียส เป็นหัวหน้าคนเก็บภาษี เป็นคนมั่งมี เขาพยายามมองดูว่าใครคือพระเยซูเจ้า แต่ก็มองไม่เห็นเพราะมีคนมากและเพราะเขาเป็นคนร่างเตี้ย เขาจึงวิ่งนำหน้าไป ปีนขึ้นต้นมะเดื่อเทศ เพื่อให้เห็นพระเยซูเจ้า เพราะพระองค์กำลังจะเสด็จผ่านไปทางนั้น

         เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงที่นั่น ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นทอดพระเนตรตรัสกับเขาว่า “ศักเคียส รีบลงมาเถิด เพราะเราจะไปพักที่บ้านท่านวันนี้” เขารีบลงมาต้อนรับพระองค์ด้วยความยินดี ทุกคนที่เห็นต่างบ่นว่า “เขาไปพักที่บ้านคนบาป” ศักเคียสยืนขึ้น ทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครึ่งหนึ่งให้แก่คนจน และถ้าข้าพเจ้าโกงสิ่งใดของใครมา ข้าพเจ้าจะคืนให้เขาสี่เท่า”

          พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วันนี้ ความรอดพ้นมาสู่บ้านนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นบุตรของอับราฮัมด้วย บุตรแห่งมนุษย์มาเพื่อแสวงหาและช่วยคนเลวทรามให้รอดพ้น”

 

ข้อคิด

        การกลับใจเป็นพระพรที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานให้ทุกคน เมื่อทำบาปผิดทั้งต่อพระเจ้าและต่อเพื่อมนุษย์  พระวรสารวันนี้ยืนยันความสำคัญนี้  เมื่อศักเคียสได้แจ้งให้พระเยซูเจ้ารับทราบว่า  เขากลับใจจริง “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะยกทรัพย์สมบัติครั้งหนึ่งให้คนจน  และถ้าโกงใครมา  ข้าพเจ้ายินดีคืนให้สี่เท่า”  ชีวิตของเราคริสตชนรับพระพรจากพระ  แต่เมื่อเราไม่รักษาพระพรนั้นไว้ เราทำบาป จงรีบขอพระเมตตา  และชดเชยความผิด

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2022 ฉลอง น.ซีโมน และ น.ยูดาห์ อัครสาวก

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเอเฟซัส                             อฟ 2:19-22

            พี่น้อง ท่านจึงไม่เป็นคนต่างด้าวหรือผู้อาศัยอีกต่อไป แต่เป็นเพื่อนร่วมชาติกับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า ถูกสร้างขึ้นเป็นอาคารโดยมีบรรดาอัครสาวกและประกาศกเป็นรากฐาน มีพระคริสตเยซูทรงเป็นศิลาหัวมุม พระคริสตเจ้าทรงทำให้อาคารทุกส่วนต่อกันสนิทเจริญขึ้นเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ในพระคริสตเจ้า ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกันกำลังถูกก่อสร้างร่วมกันขึ้นเป็นที่ประทับของพระเจ้าเดชะพระจิตเจ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                       ลก 6:12-19

          ครั้งนั้น พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นไปบนภูเขาเพื่ออธิษฐานภาวนาและทรงอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าตลอดทั้งคืน ครั้นรุ่งเช้า พระองค์ทรงเรียกบรรดาศิษย์เข้ามาแล้วทรงคัดเลือกไว้สิบสองคน ประทานนามว่า “อัครสาวก” คือซีโมน ซึ่งเรียกว่าเปโตร อันดรูว์น้องชายของเขา ยากอบ ยอห์น ฟิลิป บาร์โธโลมิว มัทธิว โธมัส ยากอบบุตรอัลเฟอัส ซีโมนผู้มีสมญาว่า “ผู้รักชาติ” ยูดาส บุตรของยากอบ และยูดาส อิสคาริโอท ต่อมายูดาสผู้นี้จะเป็นผู้ทรยศ

          พระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากภูเขาพร้อมกับบรรดาศิษย์และทรงหยุดอยู่ ณ ที่ราบแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีศิษย์กลุ่มใหญ่และประชาชนจำนวนมากจากทั่วแคว้นยูเดีย จากกรุงเยรูซาเล็ม จากเมืองไทระ และจากเมืองไซดอนซึ่งอยู่ริมทะเล มาฟังพระองค์ และรับการรักษาให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บของตน บรรดาผู้ที่ถูกปีศาจรบกวนได้รับการรักษาด้วย ประชาชนทุกคนพยายามสัมผัสพระองค์ เพราะมีพระอานุภาพออกจากพระองค์ รักษาทุกคนให้หาย

 

ข้อคิด

         เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฤทธิ์  ทำไมต้องมีอัครสาวกเป็นผู้ช่วยเหลือล่ะ นักบุญเปาโลให้คำตอบในบทอ่านแรกของวันฉลองนี้คือ  อาศัยศีลล้างบาป  ทุกคนเป็นสมาชิกในครอบครัวของพระเจ้า  และเป็นที่ประทับของพระเจ้าเดชะพระจิตเจ้า ดังนั้น ต้องนับเป็นเกียรติที่คริสตชนทุกคนภูมิใจที่ช่วยงานพระศาสนจักรทุกระดับชั้น  และช่วยกันขยายครอบครัวของพระศาสนจักรด้วยความสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว  ให้ทุกคนที่ยังไม่อยู่ในพระศาสนจักรได้รับข่าวดี  และเชื่อข่าวดีนี้ด้วย

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2022 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวฟีลิปปี                   ฟป 1:18ข-26

        พี่น้อง พระคริสตเจ้าก็ทรงได้รับการประกาศแล้ว เพราะเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงมีความยินดี และจะยินดีต่อไป ข้าพเจ้ารู้ว่า สิ่งนี้จะทำให้ข้าพเจ้ารอดพ้น ด้วยคำอธิษฐานภาวนาของท่านทั้งหลาย และด้วยความช่วยเหลือจากพระจิตของพระเยซูคริสตเจ้า ตามที่ข้าพเจ้ามุ่งมั่นรอคอยอย่างกระตือรือร้น และหวังว่าข้าพเจ้าจะไม่อับอายเลย แต่จะพูดอย่างกล้าหาญว่า พระคริสตเจ้าจะทรงได้รับเกียรติในร่างกายของข้าพเจ้า ณ บัดนี้ เหมือนกับในอดีต ไม่ว่าข้าพเจ้าจะเป็นหรือตายก็ตาม ข้าพเจ้าคิดว่าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสตเจ้า และการตายก็เป็นกำไร หากการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้เป็นโอกาสให้ข้าพเจ้าทำงานได้ผลแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะเลือกสิ่งใดดี ข้าพเจ้ารู้สึกลังเล คือปรารถนาจะพ้นจากชีวิตนี้ไปเพื่ออยู่กับพระคริสตเจ้า ซึ่งจะเป็นการดีกว่ามาก แต่การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ต่อไปก็จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับท่านทั้งหลาย เมื่อข้าพเจ้ามั่นใจเช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็รู้ว่าข้าพเจ้าจะอยู่ต่อไปและอยู่เคียงข้างท่านทุกคน เพื่อช่วยให้ท่านก้าวหน้าและชื่นชมในความเชื่อ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้ภูมิใจพระคริสตเยซูยิ่งขึ้น เพราะข้าพเจ้าได้กลับมาอยู่กับท่านอีกครั้งหนึ่ง

 

สดด 42:1,2,4

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                       ลก 14:1,7-11

         วันสับบาโตวันหนึ่ง พระเยซูเจ้าเสด็จไปเสวยพระกระยาหารที่บ้านของหัวหน้าชาวฟาริสีผู้หนึ่ง ผู้ที่อยู่ที่นั่นต่างจ้องมองพระองค์

         พระเยซูเจ้าทรงสังเกตเห็นผู้รับเชิญต่างเลือกที่นั่งที่มีเกียรติ จึงตรัสเป็นอุปมากับเขาว่า “เมื่อมีใครเชิญท่านไปในงานมงคลสมรส อย่าไปนั่งในที่ที่มีเกียรติ เพราะถ้ามีคนสำคัญกว่าท่านได้รับเชิญมาด้วย เจ้าภาพที่เชิญท่านและเชิญเขาจะมาบอกท่านว่า ‘จงให้ที่นั่งแก่ผู้นี้เถิด’ แล้วท่านจะต้องอับอายไปนั่งที่สุดท้าย แต่เมื่อท่านได้รับเชิญ จงไปนั่งในที่สุดท้ายเถิด เพื่อเจ้าภาพที่เชิญท่านจะมาบอกท่านว่า ‘เพื่อนเอ๋ย จงไปนั่งในที่ที่ดีกว่านี้เถิด’ แล้วท่านจะได้รับเกียรติต่อหน้าผู้ร่วมโต๊ะทั้งหลาย เพราะทุกคนที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง แต่ทุกคนที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”

 

ข้อคิด

        การเจริญชีวิตในสังคมของคนหมู่มาก ย่อมมีความแตกต่างให้เห็น แต่วันนี้พระเยซูเจ้าทรงสอนให้ยอมรับและแสดงตนเป็นพี่น้อง  พร้อมที่จะรับใช้กันและกัน เอื้อเฟื้อประโยชน์ดีให้กันและกันด้วยโอกาสของคนรับใช้อย่างใจซื่อตรง  ไม่ใช่เป็นการแสดงโดยมีเจตนาแอบแฝงที่เอาประโยชน์หรือเกียรติเข้าตัวเอง  เพื่อให้ผู้อื่นยอมรับ  ซึ่งจะทำให้คำสอน “จงรักผู้อื่นเหมือนตนเอง” ผิดเพี้ยนไป

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม 2022 สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเอเฟซัส                 อฟ 6:10-20

         พี่น้อง สุดท้ายนี้ ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้เข้มแข็งในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงตักตวงพลังจากพระพลานุภาพของพระองค์ จงสวมใส่อาวุธครบชุดของพระเจ้า เพื่อท่านจะยืนหยัดต่อต้านเล่ห์กลของปีศาจได้ เพราะเรามิได้ต่อสู้กับพลังมนุษย์ แต่ต่อสู้กับเทพนิกรเจ้า และเทพนิกรอำนาจ ต่อสู้กับผู้ปกครองพิภพแห่งความมืดมนนี้ ต่อสู้กับบรรดาจิตแห่งความชั่วร้ายที่อยู่บนท้องฟ้า เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงสวมใส่อาวุธครบชุดของพระเจ้า เพื่อจะต้านทานทุกสิ่งได้ในวันเลวร้าย และยืนหยัดอยู่ได้จนถึงที่สุด

          จงยืนหยัดมั่นคง จงคาดสะเอวด้วยความจริง จงสวมความชอบธรรมเป็นเสื้อเกราะ จงสวมความกระตือรือร้นที่จะประกาศข่าวดีแห่งสันติเป็นรองเท้า จงถือความเชื่อเป็นโล่ไว้เสมอ เพื่อใช้ดับธนูไฟของมาร

      จงใช้ความรอดพ้นเป็นเกราะป้องกันศีรษะ จงถือดาบของพระจิตเจ้าคือพระวาจาของพระเจ้าไว้ จงอธิษฐานภาวนาอยู่เสมอ ขอพระจิตเจ้าทรงดลใจคำอธิษฐานวอนขอต่างๆ ทุกโอกาส จงตื่นเฝ้า อย่าท้อถอยที่จะวอนขอเพื่อบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงอธิษฐานภาวนาเพื่อข้าพเจ้าด้วย พระองค์จะได้ประทานถ้อยคำให้ข้าพเจ้ามีโอกาสเปิดปากพูด และประกาศธรรมล้ำลึกของข่าวดีได้อย่างองอาจ ข้าพเจ้าเป็นทูตที่ถูกจองจำเพราะข่าวดีนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญที่จะพูดอย่างเหมาะสมด้วยเถิด

 

สดด 144:1,2,9-11ก

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                       ลก 13:31-35

        เวลานั้น ชาวฟาริสีบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าว่า “ท่านจงเดินทางออกไปจากที่นี่เถิด เพราะกษัตริย์เฮโรดต้องการจะฆ่าท่าน” พระองค์ตรัสตอบว่า “จงไปบอกเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนั้นว่า เราขับไล่ปีศาจและรักษาโรค วันที่สาม เราจะบรรลุถึงเป้าหมาย แต่วันนี้ พรุ่งนี้ และมะรืนนี้ เราจะต้องเดินทางต่อไป เพราะประกาศกจะตายนอกกรุงเยรูซาเล็มไม่ได้”

          “เยรูซาเล็มเอ๋ย เยรูซาเล็ม เจ้าฆ่าประกาศก เอาหินทุ่มผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมาหาเจ้า กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เราต้องการรวบรวมบุตรของเจ้าเหมือนดังแม่ไก่รวบรวมลูกไว้ใต้ปีก แต่เจ้าไม่ต้องการ บัดนี้ บ้านของท่านทั้งหลายจะต้องถูกทิ้งร้าง เราบอกท่านทั้งหลายว่า ท่านจะไม่เห็นเราอีกจนถึงเวลาที่ท่านจะกล่าวว่า

           ‘ขอถวายพระพรแด่ผู้ที่มาในพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า’”

 

ข้อคิด

         วิถีชีวิตของพระเยซูเจ้า ทรงสอนให้เราคริสตชนพิสูจน์ตนเองว่าคุ้มค่ากับการเป็นศิษย์ของพระองค์เพียงใด  ภาษาสังคมในปัจจุบันการให้สติว่า  “ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป” ฟังเผินๆ ชวนให้รู้สึกท้อแท้  และส่งเสริมให้เห็นแก่ตัว  ไม่ยอมแบ่งปันวิถีชีวิตพิสูจน์คำสอนของพระองค์  ขอให้เรามั่นใจว่า  ต้องทำดีสม่ำเสมอ  และองค์พระผู้เป็นเจ้าจะตอบแทนให้รางวัลแน่นอน

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown