วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2021 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: มิถุนายน 2021
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 02 พฤษภาคม 2564 13:21
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 906
บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล ปฐก 12:1-9
ในครั้งนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสแก่อับรามว่า “จงออกจากแผ่นดินของท่าน จากญาติพี่น้อง จากบ้านของบิดา ไปยังแผ่นดินที่เราจะชี้ให้ท่าน เราจะทำให้ท่านเป็นชนชาติใหญ่ จะอวยพรท่าน จะทำให้ท่านมีชื่อเสียงเลื่องลือ ท่านจะนำพระพรมาให้ผู้อื่น เราจะอวยพรผู้ที่อวยพรท่าน เราจะสาปแช่งผู้ที่สาปแช่งท่าน บรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งสิ้นทั่วแผ่นดิน จะได้รับพรเพราะท่าน”
อับรามจึงออกเดินทางตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส โลทไปกับเขาด้วย อับรามมีอายุเจ็ดสิบห้าปีเมื่อเขาออกจากฮาราน อับรามพานางซาราย ภรรยาของตนกับโลท บุตรของน้องชายและทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่ได้สะสมไว้ รวมทั้งบรรดาผู้คนที่หามาได้ในเมืองฮาราน ออกเดินทางไปยังแผ่นดินคานาอัน
เมื่อเขาทั้งหลายมาถึงแผ่นดินคานาอันแล้ว อับรามก็เดินผ่านแผ่นดินนั้นจนถึงต้นโอ๊กของโมเรห์ ที่เชเคม ในเวลานั้นชาวคานาอันยังอยู่ในแผ่นดิน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่อับรามตรัสกับเขาว่า “เราจะให้แผ่นดินนี้แก่ลูกหลานของท่าน” อับรามจึงสร้างพระแท่นบูชาที่นั่นถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้สำแดงพระองค์แก่เขา แล้วเดินทางต่อไปถึงภูเขาทางตะวันออกของเบธเอล และตั้งกระโจมที่นั่น ให้เบธเอลอยู่ทิศตะวันตก ให้อัยอยู่ทิศตะวันออก และยังได้สร้างพระแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่นั่น แล้วขานพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า อับรามย้ายกระโจมเดินทางเป็นระยะ ๆ ไปจนถึงดินแดนเนเกบ
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 7:1-5
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “อย่าตัดสินเขา และท่านจะไม่ถูกพระเจ้าตัดสิน ท่านตัดสินเขาอย่างไร พระเจ้าจะทรงตัดสินท่านอย่างนั้น ท่านใช้ทะนานใดตวงให้เขา พระเจ้าจะทรงใช้ทะนานนั้นตวงให้ท่าน
ทำไมท่านจึงมองดูเศษฟางในดวงตาของพี่น้อง แต่ไม่สังเกตเห็นท่อนซุงในดวงตาของตนเลย ท่านจะกล่าวแก่พี่น้องได้อย่างไรว่า ‘ปล่อยให้ฉันเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของท่านเถิด’ ขณะที่มีท่อนซุงอยู่ในดวงตาของท่าน ท่านคนหน้าซื่อใจคดเอ๋ย จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด แล้วจะได้เห็นชัดก่อนไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง”
ข้อคิด
พันธสัญญาคือความรักพิเศษ 1. พระเจ้าตรัสกับอาดัมและเอวาว่า ขอมอบสวนเอเดนให้ช่วยดูแล แต่อย่ากินผลไม้จากต้นกลางสวน 2. พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า จงออกจากแผ่นดินและพี่น้องของตน พระองค์จะให้แผ่นดินใหม่ และจะช่วยให้มีลูกหลานมากจนกลายเป็นชาติใหญ่ 3.พระเจ้าตรัสกับศิษย์ว่า อย่าตัดสินผู้อื่น และท่านจะไม่ถูกตัดสิน แต่ให้สนใจแก้ไขข้อบกพร่องของตนเอง พันธสัญญาของพระเจ้า คือความรักพิเศษที่มอบให้กับบางคน เพื่อเชื้อเชิญเขามาร่วมงานกับพระองค์ในการช่วยเหลือมวลมนุษย์คนอื่นๆ
วันอังคารที่ 22 มิถุนายน 2021 น.เปาลิน แห่งโนลา พระสังฆราช น.ยอห์น ฟิชเชอร์ น.โทมัส โมร์ มรณสักขี
- รายละเอียด
- หมวด: มิถุนายน 2021
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 02 พฤษภาคม 2564 13:20
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 1441
บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล ปฐก 13:2,5-18
ในครั้งนั้น อับรามมั่งมีมาก มีฝูงแพะแกะ เงินทอง โลทซึ่งไปกับอับรามมีฝูงแกะ โค และกระโจมของตนด้วย ที่ดินแถบนั้นไม่กว้างขวางพอที่จะให้เขาทั้งสองอยู่ร่วมกันได้ เพราะต่างคนต่างมีทรัพย์สมบัติมากมาย จึงอยู่รวมกันไม่ได้ คนเลี้ยงสัตว์ของอับรามกับคนเลี้ยงสัตว์ของโลทวิวาทกัน เวลานั้น ชาวคานาอันและชาวเปริสซียังอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้น อับรามจึงบอกแก่โลทว่า “เราอย่าวิวาทกันเลย อย่าให้คนเลี้ยงสัตว์ของท่านกับคนเลี้ยงสัตว์ของฉันวิวาทกัน เพราะเราเป็นญาติกัน แผ่นดินทั้งหมดอยู่ต่อหน้าท่านไม่ใช่หรือ จงแยกจากฉันเถิด ถ้าท่านไปทางซ้าย ฉันจะไปทางขวา ถ้าท่านไปทาง ขวา ฉันจะไปทางซ้าย”
โลทเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าตลอดลุ่มแม่น้ำจอร์แดนไปจนถึงโศอาร์ มีน้ำบริบูรณ์เหมือนอุทยานขององค์พระผู้เป็นเจ้าหรือเหมือนแผ่นดินอียิปต์ เวลานั้นองค์พระผู้เป็นเจ้ายังไม่ได้ทำลายเมืองโสโดมและโกโมราห์ ดังนั้น โลทจึงเลือกเอาลุ่มแม่น้ำจอร์แดนทั้งหมดไว้เป็นของตน แล้วย้ายกระโจมไปทางตะวันออก เขาทั้งสองจึงแยกกัน อับรามอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ส่วนโลทอาศัยอยู่ท่ามกลางหัวเมืองในลุ่มแม่น้ำตั้งกระโจมอยู่ใกล้ชานเมืองโสโดม ชาวเมืองโสโดมเป็นคนชั่วช้าทำบาปผิดต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นอันมาก
เมื่อโลทแยกไปแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับอับรามว่า “จงเงยหน้าขึ้นจากที่ที่ท่านอยู่ มองไปทางทิศเหนือทิศใต้ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก แผ่นดินทั้งหมดที่ท่านเห็นนี้ เราจะมอบให้ท่านและให้ลูกหลานของท่านตลอดไป เราจะทำให้ลูกหลานของท่านมีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเหมือนฝุ่นผงของแผ่นดิน ผู้ใดนับฝุ่นผงของแผ่นดินได้ ก็จะนับจำนวนลูกหลานของท่านได้เช่นกัน ท่านจงลุกขึ้นเดินทางไปให้ทั่วแผ่นดินนี้ ทั้งด้านยาวและด้านกว้างเถิด เพราะว่า เราจะมอบให้ท่าน”
อับรามจึงย้ายกระโจมมาอาศัยอยู่ที่หมู่ต้นโอ๊กของมัมเร ที่เฮโบรน แล้วสร้างพระแท่นบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่นั่น
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 7:6,12-14
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “อย่าให้ของศักดิ์สิทธิ์ แก่สุนัข อย่าโยนไข่มุกให้สุกรเพราะมันจะเหยียบย่ำทำให้เสียของ และหันมากัดท่านอีกด้วย”
“ท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด นี่คือธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศก”
“จงเข้าทางประตูแคบ เพราะประตูและทางที่นำไปสู่หายนะนั้น กว้างขวาง คนที่เข้าทางนี้มีจำนวนมาก แต่ประตูและทางซึ่งนำไปสู่ชีวิตนั้นคับแคบ คนที่พบทางนี้มีจำนวนน้อย”
ข้อคิด
สองเส้นทางชีวิต นี่เป็นเส้นทางชีวิตของคนสองคน...1. โลท เลือกพื้นที่อุดมสมบูรณ์ แต่ใกล้เมืองโสโดม เมืองคนชั่ว ทำบาปผิดต่อพระเจ้า เป็นเมืองสุขสบาย แต่บั้นปลายนำไปสู่หายนะ 2. อับราฮัม เลือกดินแดนที่พระจัดให้ ท่านซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญา และรักษาความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับพระเจ้า โดยสร้างแท่นบูชาถวายแด่พระองค์ ....ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นนานแล้ว เป็นประจักษ์พยานสอนคนรุ่นปัจจุบันให้เลือกการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง กล่าวคือ ยึดอับราฮัมเป็นคนต้นแบบ มีพระเยซูเจ้าเป็นพระศาสดา และนักบุญอีกจำนวนมากที่ยึดคำสอนพระคัมภีร์เพื่อเสวงหาชีวิตที่ยั่งยืนเป็นอมตะ
วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2021 สมโภชนักบุญยอห์น บัปติสต์
- รายละเอียด
- หมวด: มิถุนายน 2021
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 02 พฤษภาคม 2564 13:14
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 891
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 49:1-6
ดินแดนชายทะเลและเกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด ประชาชนที่อยู่สุดแดนไกล จงตั้งใจฟังเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าเกิด ทรงขานชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
พระองค์ทรงทำให้ปากข้าพเจ้าเป็นเสมือนดาบคม ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาพระหัตถ์ของพระองค์ ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นเสมือนลูกศรแหลมคม และทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งเก็บลูกศรของพระองค์
พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลเอ๋ย ท่านเป็นผู้รับใช้ของเรา เราจะแสดงสิริรุ่งโรจน์ของเราโดยทางท่าน” แต่ข้าพเจ้ากลับคิดว่า “ข้าพเจ้าได้ทำงานเหนื่อยเปล่า ข้าพเจ้าเสียแรงไปเปล่าๆ ไร้ประโยชน์” ถึงกระนั้น รางวัลของข้าพเจ้าอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่นอน และค่าตอบแทนของข้าพเจ้าก็อยู่กับพระเจ้าของข้าพเจ้า
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างข้าพเจ้ามาในครรภ์มารดาให้เป็นผู้รับใช้พระองค์ เพื่อนำยาโคบกลับมาหาพระองค์ และรวบรวมอิสราเอลมาอยู่กับพระองค์ บัดนี้ พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รับเกียรติเฉพาะพระพักตร์พระองค์ พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า พระองค์ตรัสว่า “เป็นการน้อยไปที่ท่านจะเป็นผู้รับใช้ของเรา เพื่อสถาปนาเผ่าพันธุ์ของยาโคบขึ้นใหม่ และรวบรวมอิสราเอลที่เหลืออยู่อีกครั้งหนึ่ง เราจะให้ท่านเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ เพื่อความรอดพ้นที่เรานำมาให้จะได้แผ่ไปจนสุดปลายแผ่นดิน”
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 13:22-26
เมื่อทรงปลดกษัตริย์ซาอูลจากตำแหน่งแล้ว ก็ทรงแต่งตั้งดาวิดให้เป็นกษัตริย์ปกครองประชากรอิสราเอล ดังที่มีคำยืนยันในพระคัมภีร์ว่า “เราพบดาวิดบุตรของเจสซี เขาเป็นคนที่เราพอใจ เขาจะทำตามความประสงค์ของเราทุกประการ” จากเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิดนี้ พระเจ้าประทานพระเยซูเจ้าเป็นผู้ช่วยอิสราเอลให้รอดพ้นตามพระสัญญา ยอห์นเตรียมรับเสด็จพระองค์ ประกาศพิธีล้างให้ประชาชนอิสราเอลทั้งปวง กลับใจ ขณะที่ยอห์นกำลังทำภารกิจของตนให้สำเร็จไป เขากล่าวว่า “ข้าพเจ้ามิได้เป็นอย่างที่ท่านทั้งหลายคิด แต่บัดนี้ มีผู้หนึ่งกำลังมาภายหลังข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา”
พี่น้องทั้งหลาย ผู้เป็นบุตรจากเชื้อสายของอับราฮัมและท่านที่เคารพยำเกรงพระเจ้า พระเจ้าทรงส่งข่าวเรื่องความรอดพ้นนี้แก่เรา
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 1:57-66,80
เมื่อครบกำหนดคลอด นางเอลีซาเบธให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เพื่อนบ้านและบรรดาญาติรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงพระกรุณายิ่งใหญ่ต่อนาง จึงมาร่วมยินดีกับนาง
เมื่อเด็กเกิดได้แปดวัน เพื่อนบ้านและญาติพี่น้องมาทำพิธีสุหนัตให้ เขาต้องการเรียก เด็กว่าเศคาริยาห์ตามชื่อบิดา แต่มารดาของเด็กค้านว่า “ไม่ได้ เขาจะต้องชื่อยอห์น” คนเหล่านั้นจึงพูดกับนางว่า “ท่านไม่มีญาติคนใดมีชื่อนี้” เขาเหล่านั้นจึงส่งสัญญาณถามบิดาของเด็กว่าต้องการให้บุตรชื่ออะไร เศคาริยาห์ขอกระดานแผ่นหนึ่งแล้วเขียนว่า “เขาชื่อยอห์น” ทุกคนต่างประหลาดใจ ทันใดนั้น เศคาริยาห์ก็กลับพูดได้อีก เขาจึงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า เพื่อนบ้านทุกคนต่างรู้สึกกลัว และเรื่องทั้งหมดนี้ได้เล่าลือกันไปทั่วแถบภูเขาของแคว้นยูเดีย ทุกคนที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างก็แปลกใจและถามกันว่า “แล้วเด็กคนนี้จะเป็นอะไร” เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับเขา
ข้อคิด
ท่านยอห์น แบปติสต์ เตรียมประชาชนให้รับเสด็จพระคริสต์ ด้วยคำสอน 3 ข้อ 1. กลับใจ คือ ละทิ้งชีวิตที่ไม่มีระเบียบ เปรียบเสมือนภูเขาที่สูงๆต่ำๆ ไม่มีความเรียบร้อยในการอยู่กันเป็นสังคม
2. ปฏิบัติความยุติธรรม คือสร้างระบบสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งทำให้ทุกคนได้รับส่วนแบ่งจากทรัพยากรโลกโดยไม่ต้องพึ่งทานจากผู้ใด ทุกคนได้รับสิ่งที่เป็นสิทธิ์ของเขา
3. ความรัก แสดงออกเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น แบ่งเสื้อ, แบ่งอาหาร, รักเพื่อน, รักพระเจ้า ความรักที่แสดงออกในรูปแบบต่างๆนั้น ในที่สุดคือ ความจริงมีสิ่งเดียว หรือ คำพูดมีคำเดียว คือ “รักกันและกัน”
วันพุธที่ 23 มิถุนายน 2021 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: มิถุนายน 2021
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 02 พฤษภาคม 2564 13:18
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 901
บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล ปฐก 15:1-12,17-18
หลังจากนั้น พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้มาถึงอับรามในนิมิตว่า “อับรามเอ๋ย อย่ากลัวเลย เราเป็นโล่ป้องกันท่าน บำเหน็จรางวัลของท่านจะยิ่งใหญ่มาก”
แต่อับรามทูลว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า พระองค์จะประทานสิ่งใดแก่ข้าพเจ้าเล่า ถ้าข้าพเจ้ายังคงไม่มีบุตร เอลีเอเซอร์ชาวดามัสกัสก็จะเป็นผู้รับมรดกของข้าพเจ้า อับรามทูลอีกว่า “พระองค์ไม่ได้ประทานบุตรให้แก่ข้าพเจ้า เพราะฉะนั้นบ่าวที่เกิดในบ้านของข้าพเจ้าก็จะได้รับมรดก” แล้วพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงอับรามอีกว่า “บ่าวผู้นี้จะไม่เป็นผู้รับมรดกของท่าน แต่บุตรชายที่เกิดจากท่านเท่านั้นจะเป็นผู้รับมรดก” พระองค์ทรงพาอับรามออกไปข้างนอก แล้วตรัสว่า “จงมองดูท้องฟ้า นับจำนวนดวงดาวเถิด ถ้าท่านนับได้” พระองค์ทรงเสริมว่า “ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากมายเช่นนี้” อับรามเชื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์ทรงนับว่าความเชื่อนี้เป็นความชอบธรรมสำหรับเขา
พระองค์ตรัสกับเขาว่า “เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้พาท่านออกจากเมืองเออร์ของชาวเคลเดีย เพื่อจะมอบแผ่นดินนี้ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน” อับรามทูลตอบว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะทราบได้อย่างไรว่า แผ่นดินนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของข้าพเจ้า” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงนำลูกโคตัวเมียอายุสามปี แพะตัวเมียอายุสามปี และแกะตัวผู้อายุสามปี นกเขาและนกพิราบอย่างละตัว มาให้เรา” อับรามก็ไปนำสัตว์เหล่านี้ทั้งหมดมา ผ่าครึ่งตัววางไว้ตรงกันเป็นสองแถว แต่ไม่ได้ผ่านก เมื่อแร้งบินลงมาที่ร่างสัตว์เหล่านี้ อับรามก็ไล่มันไป
ขณะที่ดวงอาทิตย์จวนจะตก อับรามก็หลับสนิท ความมืดมิดที่น่ากลัวอย่างยิ่งมาครอบคลุมเขาไว้ เมื่อดวงอาทิตย์ตกและมืดลงแล้ว ก็มีหม้อไฟที่มีควันพวยพุ่งและคบเพลิงที่ลุกอยู่ลอยผ่านระหว่างกลางสัตว์ที่ผ่าซีกเหล่านั้น ในวันนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาไว้กับอับรามว่า
“เรามอบแผ่นดินนี้ให้แก่ลูกหลานของท่าน ตั้งแต่แม่น้ำแห่งอียิปต์ไปจนถึงแม่น้ำใหญ่ คือแม่น้ำยูเฟรติส
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 7:15-20
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “จงระวังประกาศกเทียมซึ่งมาพบท่าน นุ่งห่มเหมือนแกะ แต่ภายในคือสุนัขป่าดุร้าย ท่านจะรู้จักเขาได้จากผลงานของเขา มีใครบ้างเก็บผลองุ่นจากต้นหนาม หรือเก็บผลมะเดื่อเทศจากพงหนาม ในทำนองเดียวกัน ต้นไม้พันธุ์ดีย่อมเกิดผลดี ต้นไม้พันธุ์ไม่ดีย่อมเกิดผลไม่ดี ต้นไม้พันธุ์ดีจะเกิดผลไม่ดีมิได้ และต้นไม้พันธุ์ไม่ดีก็ไม่อาจเกิดผลดีได้ ต้นไม้ทุกต้นที่ไม่เกิดผลดีย่อมถูกโค่นทิ้งในกองไฟ เพราะฉะนั้น ท่านจะรู้จักประกาศกเทียมได้จากผลงานของเขา”
ข้อคิด
ความเชื่อศรัทธาในพระเจ้า เป็นพระพรที่พระเจ้าประทานให้ ผู้มีความเชื่อต้องพัฒนาพระพรนั้น ให้เข้มแข็งมั่นคงขึ้น ... ความเชื่อในขั้นเริ่มต้น มักมีความชื่นชมยินดีกับพระสัญญาที่จะได้อยู่ใกล้ชิดพระเจ้าและกับกลุ่มคริสตชนที่ใจดี ... แต่ความเชื่อที่เป็นหน้าที่ต้องปฏิบัติ เช่น ต้องรักและรับใช้ผู้อื่น ต้องไปวัดวันอาทิตย์ขอบคุณพระเจ้า ความเชื่อเช่นนี้ เริ่มท้าทายความเสียสละและอดทน... ที่สุด เมื่อชีวิตประสบกับความเจ็บป่วย ธุรกิจล้มเหลว ผู้คนถ่อยห่างและทอดทิ้งเรา เราจะยังซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าหรือไม่ เป็นโอกาสที่ดี ที่เราจะกลับมาอ่านรำพึงบ่อยๆ ถึงความเชื่อของอับราฮัม บิดาแห่งความเชื่อ
วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2021 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: มิถุนายน 2021
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 02 พฤษภาคม 2564 13:12
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 1422
บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล ปฐก 17:1,9-10,15-22
เมื่ออับรามอายุเก้าสิบเก้าปี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่เขา ตรัสว่า “เราคือพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ จงดำเนินชีวิตตามความประสงค์ของเรา และเป็นคนดีพร้อมเถิด”
พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “ท่านและลูกหลานของท่านที่จะตามมาทุกรุ่นจะต้องรักษาพันธสัญญาของเราไว้ นี่คือพันธสัญญาของเราซึ่งท่านจะต้องรักษาไว้คือพันธสัญญากับท่านและกับลูกหลานของท่านที่จะตามมาภายหลัง ผู้ชายทุกคนจะต้องเข้าสุหนัต
พระเจ้าตรัสกับอับราฮัมว่า “ส่วนนางซาราย ภรรยาของท่านนั้น ท่านอย่าเรียกนางว่าซารายอีก แต่จงเรียกว่าซาราห์ เราจะอวยพรนาง เราจะให้นางมีบุตรแก่ท่านด้วย เราจะอวยพรนางและนางจะเป็นมารดาของชนหลายชาติ กษัตริย์ของชนหลายชาติจะมาจากนาง” อับราฮัมกราบลงกับพื้นดิน หัวเราะ คิดในใจว่า “ชายชราอายุหนึ่งร้อยปีจะมีบุตรได้หรือ นางซาราห์อายุเก้าสิบปีแล้วจะคลอดบุตรได้หรือ” อับราฮัมทูลพระเจ้าว่า “ขอให้อิชมาเอลมีชีวิตอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์เถิด” พระเจ้าตรัสว่า “ไม่ใช่ แต่นางซาราห์ ภรรยาของท่านจะคลอดบุตรชายคนหนึ่งให้ท่าน และท่านจะตั้งชื่อเขาว่าอิสอัค เราจะรักษาพันธสัญญาที่เราได้ให้ไว้กับเขาและกับลูกหลานของเขาที่จะตามเขามา เป็นพันธสัญญาที่คงอยู่ตลอดไป สำหรับอิชมาเอลนั้น เราฟังท่านแล้ว เราจะอวยพรเขา จะทำให้เขามีลูกหลานมาก เราจะทวีจำนวนเขายิ่ง ๆ ขึ้น เขาจะเป็นบิดาของเจ้าชายสิบสององค์ เราจะทำให้เขาเป็นชนชาติใหญ่ เราจะรักษาพันธสัญญาไว้กับอิสอัค นางซาราห์จะคลอดอิสอัคให้แก่ท่านในปีหน้า เวลาเดียวกันนี้” เมื่อพระเจ้าตรัสกับอับราฮัมแล้ว ก็เสด็จจากเขาไป
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 8:1-4
เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากภูเขา ประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ ทันใดนั้น คนโรคเรื้อนคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ กราบลงทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ก็ทรงรักษาข้าพเจ้าให้หายได้” พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” โรคเรื้อนก็หายไปทันที พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาอีกว่า “ระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เลย จงไปแสดงตนแก่สมณะและถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสกำหนด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแก่คนทั้งหลาย”
ข้อคิด
พันญสัญญาระหว่างพระผู้เป็นเจ้ากับอับราฮัม ฝ่ายพระเป็นเจ้า... ทรงมอบแผ่นดินคานาอัน ให้ครอบครอง ให้มีลูกหลานมากมายดุจดาวบนท้องฟ้า มีกษัตริย์หลายชนชาติเกิดมาจากตระกูลท่าน
ฝ่ายอับราฮัม... ต้องดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ จะเป็นคนดี และลูกชายทุกคนต้องเข้าสุหนัต
พันธสัญญาใหม่... พระบิดาทรงมอบพระเยซูเจ้าและพระจิตเจ้าประทับอยู่ท่ามกลางเรา ทรงนำเราไปสู่เส้นทางชีวิตอมตะ ฝ่ายเรา... ให้เชื่อศรัทธาในพระเจ้าด้วยการดำเนินชีวิตมหาบุญลาภ สู้ชีวิตในเส้นทางกางเขน มีความรักพระเจ้าและมนุษย์สุดดวงใจ