วันจันทร์ที่ 19 เมษายน 2021 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา
- รายละเอียด
- หมวด: เมษายน 2021
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 714
บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก กจ 6:8-15
ในครั้งนั้น สเทเฟนเปี่ยมด้วยพระหรรษทานและพระอานุภาพ ทำปาฏิหาริย์และเครื่องหมายอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ในหมู่ประชาชน บางคนจากศาลาธรรมที่เรียกกันว่าศาลาธรรมของเสรีชนที่เคยเป็นทาส คือชาวยิวจากเมืองไซรีน เมืองอเล็กซานเดรีย แคว้นซีลีเซียและเอเชีย เริ่มโต้เถียงกับสเทเฟน แต่เขาเหล่านั้นเอาชนะสเทเฟนไม่ได้ เพราะสเทเฟนพูดด้วยปรีชาญาณซึ่งมาจากพระจิตเจ้า คนเหล่านั้นจึงเสี้ยมสอนประชาชนบางคนให้ใส่ความว่า “พวกเราได้ยินเขาพูดดูหมิ่นโมเสสและพระเจ้า” เขาเหล่านั้นยุยงประชาชนบรรดาผู้อาวุโสและธรรมาจารย์ให้ปั่นป่วนวุ่นวาย แล้วจึงเข้าจู่โจมจับกุมสเทเฟนนำไปยังสภาซันเฮดริน ตั้งพยานเท็จกล่าวหาว่า “ชายคนนี้พูดดูหมิ่นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และธรรมบัญญัติอยู่เสมอ พวกเราได้ยินเขาพูดว่า เยซู ชาวนาซาเร็ธผู้นี้จะทำลายสถานที่นี้และจะเปลี่ยนแปลงขนบประเพณีที่โมเสสมอบให้เรา” ทุกคนที่นั่งอยู่ในสภาซันเฮดรินต่างเพ่งมองสเทเฟน เห็นใบหน้าของเขาสว่างรุ่งเรืองเหมือนกับใบหน้าของทูตสวรรค์
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 6:22-29
วันรุ่งขึ้น ประชาชนที่ยังอยู่บนฝั่งตรงข้าม สังเกตเห็นว่า มีเรืออยู่ที่นั่นเพียงลำเดียว และจำได้ว่าพระเยซูเจ้ามิได้เสด็จลงเรือไปกับบรรดาศิษย์ บรรดาศิษย์ไปกันตามลำพังเท่านั้น แต่เรือลำอื่นจากเมืองทิเบเรียสมายังสถานที่ที่พวกเขาได้กินขนมปัง เมื่อประชาชนเห็นว่าทั้งพระเยซูเจ้า และบรรดาศิษย์ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ก็ลงเรือ มุ่งไปที่เมืองคาเปอรนาอุมเพื่อตามหาพระเยซูเจ้า เมื่อพบพระองค์ที่ฝั่งตรงข้าม จึงทูลถามว่า “พระอาจารย์ ท่านมาที่นี่เมื่อไร” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านแสวงหาเรา มิใช่เพราะได้เห็นเครื่องหมายอัศจรรย์ แต่เพราะได้กินขนมปังจนอิ่ม อย่าขวนขวายหาอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้ อาหารนี้บุตรแห่งมนุษย์จะประทานให้ท่าน เพราะพระเจ้าพระบิดาทรงประทับตรารับรองบุตรแห่งมนุษย์ไว้แล้ว” เขาเหล่านั้นจึงทูลว่า “พวกเราจะต้องทำอะไรเพื่อให้กิจการของพระเจ้าสำเร็จ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้า ก็คือให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา”
ข้อคิด
พระเยซูเจ้าเป็นศาสดาที่มิได้สอนเพียงหลักศีลธรรมทั่วไปเท่านั้น พระองค์ยังสอนความจริงในระดับโลกุตระคือความจริงที่ลึกซึ้งกว่าเรื่องของชาวโลก คือเรื่องการกิน การอยู่เพื่อเอาชีวิตรอดไปวันๆ พระองค์พูดถึงอาหารแห่งความเป็นนิรันดร์ เมื่อศิษย์ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจ เพราะมันเป็นความลึกลับของชีวิต แต่ปัจจุบันเราทราบแล้วว่าอาหารที่นำชีวิตนิรันดร์มาให้นั้นหมายถึงการรับเอาพระวาจาและปังศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์มาไว้ในใจเรา อาหารจึงไม่ใช่เรื่องการกินแต่เป็นเรื่องความทรงจำ การคิดถึงและการรักพระองค์ในปัจจุบัน ....ความรักทำให้ความทรงจำถึงพระองค์เป็นปัจจุบันเสมอ ก้าวข้ามผ่านมิติของกาลเวลาไปสู่อนาคต นี่คือความหมายของคำว่านิรันดร์