วันพุธที่ 24 มีนาคม 2021 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต
- รายละเอียด
- หมวด: มีนาคม 2021
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 938
บทอ่านจากหนังสือประกาศกดาเนียล ดนล 3:14-20,24-25,28
กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตรัสถามเขาว่า “ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก เป็นความจริงหรือไม่ ที่ท่านไม่ยอมรับใช้เทพเจ้าของเรา และไม่ยอมนมัสการรูปปั้นทองคำที่เราตั้งไว้ บัดนี้ เมื่อท่านได้ยินเสียงเป่าเขาสัตว์ เสียงปี่ เสียงพิณเขาคู่ พิณสี่สาย พิณใหญ่ ปี่ถุงและเครื่องดนตรีทุกชนิด จงเตรียมพร้อมที่จะกราบนมัสการรูปปั้นที่เราสร้างขึ้น ถ้าท่านไม่ยอมทำเช่นนี้ ท่านจะต้องถูกโยนทันทีเข้าไปในเตาที่มีไฟลุกโพลง แล้วพระเจ้าใดจะช่วยท่านให้พ้นจากมือของเราได้”
ชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโกกราบทูลกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายไม่จำเป็นจะต้องทูลตอบพระองค์ในเรื่องนี้ ข้าแต่พระราชา ขอทรงทราบเถิดว่า พระเจ้าที่ข้าพเจ้าทั้งหลายรับใช้จะทรงช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้พ้นจากเตาที่มีไฟลุกโพลง และให้พ้นพระหัตถ์ของพระองค์ได้ แม้พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลายจะไม่ทรงช่วย ข้าแต่พระราชา ขอพระองค์ทรงทราบเถิดว่าข้าพเจ้าทั้งหลายก็จะไม่ยอมรับใช้เทพเจ้าของพระองค์ และจะไม่ยอมนมัสการรูปปั้นทองคำที่พระองค์ทรงตั้งขึ้น”
กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์กริ้วมาก พระพักตร์ของพระองค์เปลี่ยนเป็นดุดันต่อชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก รับสั่งให้เพิ่มไฟในเตาให้ร้อนจัดกว่าเดิมอีกเจ็ดเท่า และรับสั่งให้ทหารบางคนที่แข็งแรงที่สุดในกองทัพมามัดชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก โยนเข้าไปในเตาที่มีไฟลุกโพลง
กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ทรงประหลาดพระทัยมาก ทรงลุกขึ้นทันที ตรัสกับบรรดาข้าราชบริพารว่า “พวกเรามัดชายสามคนโยนลงไปในไฟมิใช่หรือ” เขาทั้งหลายทูลตอบว่า “ใช่แล้ว พระเจ้าข้า”พระองค์ตรัสต่อไปว่า “แต่เราเห็นชายสี่คนไม่ถูกมัดกำลังเดินอยู่กลางเปลวไฟโดยไม่ได้รับอันตรายเลย ใบหน้าของชายคนที่สี่นั้นคล้ายกับใบหน้าของเทพบุตร”
กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์ตรัสว่า “ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าของชัดรัค เมชาค และอาเบดเนโก พระองค์ทรงส่งทูตสวรรค์มาช่วยกอบกู้ผู้รับใช้ที่วางใจในพระองค์ เขายอมละเมิดคำสั่งของเรา และยอมพลีร่างกายดีกว่าที่จะรับใช้และนมัสการเทพเจ้าอื่นนอกจากพระเจ้าของตน
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 8:31-42
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับชาวยิวที่เชื่อในพระองค์ว่า“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง ท่านจะรู้ความจริง และความจริงจะทำให้ท่านเป็นอิสระ”
คนเหล่านั้นจึงตอบว่า “พวกเราเป็นเชื้อสายของอับราฮัม และไม่เคยเป็นทาสของใคร ท่านพูดได้อย่างไรว่า ‘ท่านทั้งหลายจะเป็นอิสระ’”
พระเยซูเจ้าตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ‘ทุกคนที่ทำบาปก็เป็นทาสของบาป ทาสย่อมไม่พำนักอยู่ในบ้านตลอดไป แต่บุตรพำนักอยู่ตลอดไป ดังนั้น ถ้าพระบุตรทำให้ท่านเป็นอิสระ ท่านก็จะเป็นอิสระอย่างแท้จริง เรารู้ว่าท่านทั้งหลายเป็นเชื้อสายของอับราฮัม แต่ท่านพยายามจะฆ่าเรา เพราะวาจาของเราไม่ซึมซาบเข้าไปในท่าน เราบอกสิ่งที่เราได้เห็นเมื่อเราอยู่เฉพาะพระพักตร์พระบิดา ท่านทั้งหลายก็ทำตามที่ท่านได้ยินจากบิดาของท่านด้วย’”
คนเหล่านั้นตอบพระองค์ว่า “บิดาของพวกเราคืออับราฮัม”
พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของอับราฮัม ท่านจงทำกิจการของอับราฮัมเถิด แต่บัดนี้ ท่านกำลังพยายามจะฆ่าเรา ซึ่งเป็นคนบอกความจริงที่เราได้ยินมาจากพระเจ้าให้ท่านฟัง อับราฮัมไม่เคยทำเช่นนี้เลย ท่านไม่ทำกิจการของอับราฮัม แต่ทำกิจการของบิดาของท่าน”
คนเหล่านั้นเถียงว่า “เราไม่ใช่ลูกไม่มีพ่อ บิดาเดียวที่เรามีคือพระเจ้า” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “ถ้าพระเจ้าทรงเป็นบิดาของท่านจริง ท่านคงจะรักเรา เพราะเรามาจากพระเจ้า เราไม่ได้มาตามใจตนเอง แต่พระองค์ทรงส่งเรามา”
ข้อคิด
ชายหนุ่มสามคนในหนังสือดาเนียลเป็นบรรยากาศเดียวกับเรื่องนางสุสันนา ที่คนซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ถูกเบียดเบียน บรรยากาศยังสะท้อนพระทรมานของพระเยซูเจ้าที่พระองค์ถูกใส่ร้ายและจับไปตรึงกับไม้กางเขนทั้งๆที่ไม่มีความผิด แต่การช่วยให้รอดพ้นไฟร้อนในเตาไฟของชายหนุ่มทั้งสามและมีบุคคลใบหน้าเหมือนเทพบุตรมาร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าอยู่ด้วยเป็นการสะท้อน การเสด็จคืนพระชนมชีพอย่างรุ่งโรจน์หลังความตายของพระเยซูเจ้าในวันอาทิตย์ปัสกาที่ใก้ลเข้ามา ชาวยิวภาคภูมิใจกับการเป็นลูกของอับราฮัมแต่ไม่ฟังพระเยซูเจ้าอาจคล้ายเราที่ได้รับศีลล้างบาปแต่ไม่ปฏิบัติตามที่พระเยซูเจ้าทรงสอน