วันศุกร์ที่ 29กรกฎาคม 2016 ระลึกถึง น.มาร์ธา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนกรกฎาคม 2016
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
- ฮิต: 813
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยอห์น ฉบับที่หนึ่ง 1 ยน 4:7-16
ท่านที่รักทั้งหลายเราจงรักกัน เพราะความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่มีความรักย่อมเกิดจากพระเจ้าและรู้จักพระองค์ผู้ไม่มีความรักย่อมไม่รู้จักพระเจ้า เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรักความรักของพระเจ้าปรากฏให้เราเห็นดังนี้คือพระเจ้าทรงส่งพระบุตรเพียงพระองค์เดียวมาในโลก เพื่อเราจะได้มีชีวิตโดยทางพระบุตรนั้นความรักอยู่ที่ว่าพระเจ้าทรงรักเราและทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเพื่อชดเชยบาปของเรา มิใช่อยู่ที่เรารักพระเจ้า
ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราเช่นนี้ เราก็ควรจะรักกันด้วย ไม่มีผู้ใดเคยเห็นพระเจ้าแต่ถ้าเรารักกันพระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเรา และความรักของพระองค์ในเราก็จะสมบูรณ์ เรารู้ว่าเราดำรงอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงดำรงอยู่ในเรา เพราะพระองค์ประทานพระพรของพระจิตเจ้าให้เรานั่นเอง เราเห็นและเราเป็นพยานได้ว่าพระบิดาทรงส่งพระบุตรของพระองค์มาเป็นพระผู้ไถ่โลก ผู้ใดยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าพระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขาและเขาย่อมอยู่ในพระเจ้าเรารู้และเชื่อในความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเราพระเจ้าทรงเป็นความรัก ผู้ใดดำรงอยู่ในความรักย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้า และพระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขา
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน11:19-27
เวลานั้น ชาวยิวจำนวนมากมาหามารธาและมารีย์เพื่อปลอบใจนางในการตายของพี่ชาย เมื่อมารธารู้ว่าพระเยซูเจ้ากำลังเสด็จมา นางก็ออกไปรับเสด็จ ส่วนมารีย์ยังคงนั่งอยู่ที่บ้าน มารธาทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์ทรงอยู่ที่นี่พี่ชายของดิฉันคงไม่ตาย แต่บัดนี้ดิฉันรู้ดีว่าสิ่งใดที่พระองค์ทรงวอนขอจากพระเจ้า พระเจ้าจะประทานให้” พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า “พี่ชายของท่านจะกลับคืนชีพ” มารธาทูลว่า “ดิฉันรู้ว่าเขาจะกลับคืนชีพเมื่อมนุษย์ทุกคนจะกลับคืนชีพในวันสุดท้าย”
พระเยซูเจ้าตรัสกับนางว่า“เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิตใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิตและทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ”
มารธาทูลตอบว่า “เชื่อ พระเจ้าข้า ดิฉันเชื่อว่าพระองค์เป็นพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าที่จะต้องเสด็จมาในโลกนี้”
หรือ
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 10:38-42
ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธามารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”
ข้อคิด
ประกาศกเยเรมีย์ถูกจับกุมและถูกพิจารณาคดี เพราะได้ตักเตือนชาวยูดาห์ว่าพระเจ้าทรงใช้อาณาจักรบาบิโลนลงโทษยูดาห์ ขอให้กลับใจละทิ้งความประพฤติชั่วของตน แล้วพระเจ้าจะเปลี่ยนใจไม่ลงโทษ
เยเรมีย์คือประกาศกแท้ พูดเตือนตรงๆ จึงถูกประชาชนมาจับกุมในพระวิหาร ทำให้เราเข้าใจว่าเยเรมีย์เป็นรูปแบบล่วงหน้าถึงพระเยซูเจ้า คือ เทศน์สอนทำความดี แต่ถูกจับกุม ดูถูกเหยียดหยาม
คริสตชนบางแห่งก็ถูกเบียดเบียน ให้เราภาวนาและหาทางช่วยเหลือพวกเขา