พระสังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 สอนว่า “คริสตชนทุกคนต้องมีโอกาสเข้าถึงพระคัมภีร์ได้โดยสะดวก” (DV 22) และให้ “คริสตชนทั้งหลาย...อ่านพระคัมภีร์บ่อยๆ ...ทางพิธีกรรม...หรือทางการอ่านบำรุงศรัทธา หรือวิธีการอื่นที่เหมาะสม ... การอ่านพระคัมภีร์จะต้องมีการภาวนาควบคู่อยู่ด้วยเสมอ” (DV 25) เพื่อให้การอ่านพระคัมภีร์มิใช่เป็นเพียงการอ่านประวัติศาสตร์ (Hiatory) เรื่องราวของคนในสมัยก่อน แต่เป็นการอ่านเรื่องราวของฉัน (My Story) พระเจ้าตรัสกับฉัน ตามสภาพของฉันวันนี้ และฉันจะสนองต่อพระองค์อย่างไร ทั้งด้วยคำพูด (คำภาวนา) และด้วยกิจการ (กลับใจเปลี่ยนแปลงชีวิต เปลี่ยนทัศนคติ)

     ในชีวิตของวิถีชุมชนวัด พระวาจาของพระเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้ทั้งในการประชุม และในชีวิต การแบ่งปันพระวาจาในกลุ่มคริสตชนเป็นเครื่องหมายว่าเรามีความสัมพันธ์กับพระเจ้า เราเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและชุมชนเพื่อนบ้าน เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เศรษฐกิจและการเมือง ในมุมมองที่กว้างใหญ่ออกไป ดังนั้น

แนวทางในการแบ่งปันพระวาจาจึงแบ่งออกเป็น 3 แนวทางใหญ่ๆ โดยแต่ละแนวทางก็ยังมีรูปแบบที่น่าสนใจหลายๆ แบบ

     1.แนวทางการดำเนินชีวิตอย่างนอบน้อมถ่อมตนกับพระเจ้า เริ่มด้วยพระวาจา รำพึงไตร่ตรองชีวิตส่วนตัว และนำไปสู่การกลับใจส่วนบุคคล รูปแบบในการแบ่งปันพระวาจาในแนวทางนี้ เช่น Lection Divina การแบ่งปันพระวาจา 7 ขั้นตอน ฯลฯ

     2. แนวทางรักเมตตาด้วยความอ่อนโยน เริ่มด้วยเหตุการณ์ในชีวิตในชุมชนใกล้ตัว พิจารณาดูว่าในสภาพดังกล่าวสะท้อนว่า พระเจ้าเรียกเราให้ทำอะไร เพื่อใครในละแวกบ้านของเรา มีใครในชุมชนที่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากการที่เป็นชุมชนคริสตชน รูปแบบในการแบ่งปันพระวาจาในแนวทางนี้ เช่น มองดู (ประสบการณ์) ฟัง (พระวาจา) รัก (ในภาคปฏิบัติ) (Look Listen Love) ฯลฯ

     3. แนวทางพระวาจากับการปฏิบัติความยุติธรรม เริ่มด้วยการพิจารณาเรื่องไกลตัว ปัญหาสังคม มีสาเหตุซับซ้อน แต่กระนั้น อาศัยแสงแห่งพระวาจา พระเจ้าเรียกเราให้ทำอะไร เราทำอะไรได้บ้าง ที่นี่ เวลานี้ เพื่อให้สังคมน่าอยู่ และแสดงว่าเราใส่ใจในปัญหาของพี่น้องร่วมโลก รูปแบบในการแบ่งปันพระวาจาในแนวทางนี้เช่น อาโมสโปรแกรม ฯลฯ

     จะเห็นว่าการแบ่งปันพระวาจาของพระเจ้ามีหลายรูปแบบ สุดแล้วแต่ละชุมชนจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างไร จึงอยากเชิญชวนพี่น้องให้ศึกษาพระวาจาร่วมกันและแบ่งปันสิ่งดีๆ ให้แก่กันและกัน เพื่อชุมชนของเราจะได้น่าอยู่ และจะได้เป็นประจักษ์พยานให้พี่น้องที่อยู่รอบๆ ชุมชนของเรา เป็นแบบอย่างให้แก่เขา เพื่อเขาจะได้เห็นศิษย์พระคริสต์ในตัวเราและมาร่วมเป็นประจักษ์พยานร่วมกันกับเรา