จิตตารมณ์ของคณะกับภารกิจในสังคมไทย
หนังสือพิมพ์ อุดมสาร ปีที่ 40 ฉบับที่ 5 ประจำวันที่ 24-30 มกราคม 2016 หน้า 3

คุณแม่เทเรซีตาแห่งพระกุมารเยซู อธิการิณีคณะคาร์เมไลท์ กรุงเทพฯ

     คณะคาร์แมล มีชื่อเต็มๆ คือ คณะพระนางมารีย์ พรหมจารีแห่งภูเขาคาร์แมล ตั้งแต่เริ่มต้น พระศาสนจักรได้มีขนบธรรมเนียมต่อกันมาของบรรดาสตรีผู้อุทิศชีวิตรับใช้พระเป็นเจ้าโดยรับภารกิจผูกมัดตัวเองตลอดชีวิตระหว่างศตวรรษที่ 13 และ 14 มีสตรีใจศรัทธาจำ นวนหนึ่งอาศัยคำแนะนำ ของภราดาคาร์แมล จึงได้เริ่มต้นถือพระวินัยของคณะคาร์แมล แต่ละคนหรือรวมกันเป็นกลุ่มๆ พวกเขาขังตัวเองอยู่คนเดียวตามลำ พัง และสวดภาวนาไม่หยุดหย่อนอีกหลายคนอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะมีชีวิตผูกพันกันอย่างหลวมๆ โดยไม่มีการถวายปฏิญาณ
     กระทั่งปี ค.ศ. 1452 สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัส ที่ 5 ได้ให้คำ รับรองแก่บุญราศียอห์น โซแร็ธ อัคราธิการเจ้าณะคาร์แมล ที่จะจัดรวมสตรีใจศรัทธาเหล่านี้เข้าเป็นคณะนักบวชคาร์แมลชั้น 2 ดังนั้นเท่ากับทำ ให้เขาได้รับฐานะทางกฎหมายของพระศาสนจักร นี่คือการเริ่มต้นที่ซื่อๆ และสงบเสงี่ยมของคณะภคินีคาร์แมลชุดแรกๆ ซึ่งได้ค่อยๆ เจริญทวีจำ นวน จนถึงเกือบ13,000 ท่าน อยู่ในอารามที่ตั้งกระจายตามจุดต่างๆ ทั่วโลกในปัจจุบันนี้
จิตตารมณ์ของคณะจะถือหลักความยากจน ความนบนอบ ชีวิตของ ภคินีจึงดำ เนินไปด้วยความสมถะเรียบง่าย ปราศจากสมบัติใดๆ ในโลก ภายในอารามทุกแห่งจะไม่มีกระจกสำ หรับส่อง ภายในห้องส่วนตัวของภคินีแต่ละท่านมีเพียงเก้าอี้และตู้เล็กๆ สำ หรับใส่หนังสือ เครื่องใช้ในห้องพักมีเตียง ผ้าห่มนอนเสื่อ ผ้าคลุมเตียง ไม่นอนฟูกแต่จะนอนบนเตียงโบราณ มีแผ่นกระดานโดยมีเสื่อปูทับ
     ในแต่ละวันจะมีชั่วโมงหย่อนใจ 2 ครั้ง คือหลังอาหารกลางวันและหลังอาหารเย็น ครั้งละ 1 ชั่วโมง โดยทำ งานฝีมือหรืองานที่ตัวเองมีอยู่ เช่น ปักผ้า ทำ ดอกไม้ทำสายประคำ สายจำ พวก และในแต่ละวันเราจะดำ เนินชีวิต เช่นนักพรตทั่วไปคือ สวดภาวนา ศึกษาพระคัมภีร์ ศูนย์รวมชีวิตประจำวัน อยู่ที่พิธีบูชาขอบพระคุณ การรับพระองค์ในศีลมหาสนิทจะทำ ให้เราสามารถดำ รงอยู่ในความรักและชิดสนิทกับพระองค์มากที่สุด
การจำ ศีลของคณะ จะจำ ศีลประมาณ 7 เดือน โดยเริ่มจากวันที่ 14 กันยายน เป็นต้นไป ซึ่งเป็นวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขน เป็นการจำ ศีลของคณะ และต่อเนื่องไปจนมหาพรต สิ้นสุดวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์
     หน้าที่แรกของภคินีคาร์เมไลท์ คือ การแสวงหาพระเป็นเจ้า และเราจะได้มาก็ต่อเมื่อเรามอบพระให้กับผู้อื่น และที่สำ คัญที่สุดคือคณะของเราเป็นคณะแห่งการสวดภาวนาและการพลีกรรม เราไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องออกไปสอนเรียน หรือแพร่ธรรม ดังนั้นหน้าที่หลักของเราคือการสวดภาวนาเพื่อชาวโลก ประเทศชาติ สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งพระสงฆ์ นักบวช และสำ หรับทุกคนที่ต้องการคำ ภาวนา และประกอบการพลีกรรม เพื่อให้ผลของการภาวนาบรรลุ ผลมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันนี้มีอารามคาร์แมลในประเทศไทย 4 แห่ง ได้แก่ อารามคาร์แมล กรุงเทพฯ อารามคาร์แมล จันทบุรีอารามคาร์แมล สามพราน และอารามคาร์แมล นครสวรรค์