ในวันศุกร์ที่ 13-วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม 2017 ณ บ้านผู้หว่าน คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อศาสนสัมพันธ์และคริสตศาสนจักรสัมพันธ์ ภายใต้สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ร่วมกับคณะกรรมการสัมมนาศึกษาข้อเชื่อศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนท์ จัดสัมมนาเป็นครั้งที่ 14 โดยมีคณะเข้าร่วมทั้งหมด 5 สถาบัน ดังนี้ วิทยาลัยแสงธรรม ,วิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารี ม.พายัพ , สถาบันกรุงเทพคริสตศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน ,พระคริสตธรรมลูเธอร์ ,โรงเรียนกรุงเทพคริสตศาสนศาสตร์แบ๊บติสต์ และจากผู้สังเกตุการณ์ศาสนสัมพันธ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพ รวมทั้งสิ้น 109 ท่าน การจัดโครงการสัมมนาศึกษาข้อเชื่อนั้นสำคัญประการแรกคือกรอบแนวคิด ซึ่งบาทหลวงเสนอ ดำเนินสดวก ซึ่งเป็นประธานสัมมนาศึกษาข้อเชื่อฯได้วางกรอบแนวคิดสำหรับผู้เข้าร่วมสัมมนาโดยนำแนวคิดหลักจากพระคัมภีร์ "ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนา เพื่อให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า และข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ เพื่อให้เขาทั้งหลายอยู่ในพระองค์และในข้าพเจ้า โลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา" (ยน 17:21) โดยการสัมมนาข้อเชื่อเป็นหนึ่งในการปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเยซูคริสต์ การสัมมนาไม่มีแนวคิดให้แต่ละคณะเปลี่ยนความเชื่อของตน แต่ต้องเปลี่ยนทัศนคติของตน เพื่อเข้าใจพี่น้องคณะอื่นๆ บนพื้นฐานความรักในพระเยซูคริสต์ และไม่มีวาระแอบแฝง (hidden agenda) จุดประสงค์ของการจัดสัมมนาศึกษาข้อเชื่อฯนั้นคือเพื่อรู้ข้อเชื่อของคณะอื่น และแลกเปลี่ยนแนวคิดเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีต่อกัน ไม่ใช่เปรียบเทียบว่าใครดีกว่ากัน หรือเพื่อเอาชนะกัน(ไม่เอาความเชื่อและการปฏิบัติของตนไปตัดสินความเชื่อและการปฏิบัติของคณะอื่น) ระหว่างสัมมนา สายตาที่ใช้ในการสัมมนา คือสายตาแห่งความรัก ความเข้าใจของพระเยซูคริสต์ เมื่อมาเข้าร่วมสัมมนาศึกษาข้อเชื่อศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกและโปรเตสแตนท์แล้วนั้น เราจะได้เรียนรู้จักกันผ่านทางพิธีกรรมทางศาสนา กิจกรรมสร้างความรู้จัก กีฬาเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกัน และเนื้อหาที่ทำให้ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มแรกสำหรับเนื้อหาที่ 1 ข้อเชื่อฯสัญลักษณ์อัครสาวก บรรยายโดย บาทหลวงเกรียงยศ ปิยวัณโณ จากวิทยาลัยแสงธรรม เนื้อหาที่ 2 พิธีบูชาขอบพระคุณ(คาทอลิก)/พิธีนมัสการ (โปรเตสแตนท์) บรรยายโดย บาทหลวงไพศาล ยอแซฟ /ศจ.มานิตย์ มณีวงศ์ เนื้อหาที่ 3 ฉลอง 500 ปี ของการปฏิรูปความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน (เทียบ 2 คร.5:14-20) และเข้าสู่กิจกรรมอธิษฐานเพื่อความเป็นหนึ่งเดียว (เทเซ่) โดยพระคริสตธรรมลูเธอร์ เนื้อหาที่ 4 พระคัมภีร์ โดย บาทหลวงสมเกียรติ ตรีนิการ ,คศ.ดร.ชนันภรณ์ ใจเสาร์ดี เนื้อหาที่ 5 เกี่ยวกับข้อเชื่อ เรื่องพระแม่มารีย์ และความสัมพันธ์ของผู้ศักดิ์สิทธิ์ และทุกท่านได้ไปเยี่ยมศาสนสถานจากอารามคาเมนไลท์ จากศูนย์ฝึกอาชีพคนตาบอด จากคามิลเลียน โซเชียล เซ็นเตอร์ และนำมาแบ่งปันกัน เนื้อหาที่ 6 การเป็นพยานในชีวิตประจำวัน โดย ศจ.ประถม ไทอุตส่าห์ และกิจกรรมที่นักศึกษามีความตั้งใจมากเป็นพิเศษคือ Unity Night เพราะนักศึกษาจะออกมาแสดงสอดคล้องกับหัวข้ออธิษฐานภาวนาเพื่อเอกภาพคริสตชน คือ ความรักพระคริสตเจ้าผลักดันเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งทุกคนแสดงได้ดีมาก ในวันสุดท้ายจะเป็นการตอบปัญหาโดยคณาจารย์ ซึ่งนักศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นโปรเตสแตนท์ที่จะซักถามเป็นส่วนใหญ่ เพราะนักศึกษาของคาทอลิกปีนี้มีจำนวนน้อยประมาณ 20 คน รวมผู้สังเกตุการณ์ จึงมีผู้ถามน้อย และคณาจารย์สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ง่าย เพราะนักศึกษาให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นผู้แทนนักศึกษาแต่ละสถาบัน ได้ออกมาเสนอแนวทางการทำเอกภาพของคริสตชน ว่าอนาคตจะสร้างเอกภาพร่วมกันอย่างไร คำตอบที่ได้คือเราต้องมีกิจกรรมลองรับ และมีการแลกเปลี่ยนคณาจารย์ในการเรียนการสอน และที่สำคัญคือมีนักเรียนแลกเปลี่ยนเพื่อที่จะได้สัมผัสและศึกษาวัฒนธรรมของแต่ละสถาบันนั้น สุดท้าย ศจ.ดร.รุ่ง เริงสันติ์อาจิณ รองประธานสภาคริสตจักรในประเทศไทย ได้เป็นประธานมอบเกียรติบัตรแด่ผู้สัมมนาข้อเชื่อฯ สร้างความปราบปลื้มกับนักศึกษาเป็นอย่างยิ่ง แม้การจัดสัมมนา