เมื่อวันที่ 20-21 กันยายน 2016 เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานอภิบาลและฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เข้าเงียบร่วมกัน ณ วัดบุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง เขาใหญ่ โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม โดยมีคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายงานธรรมทูตฯ และคุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ ผู้จัดการแผนกเยาวชน เป็นผู้เทศน์

     วันแรกของการเข้าเงียบ เมื่อเดินทางถึงวัดบุญราศีนิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุงแล้ว ผู้อำนวยการสภาภิบาลวัด คุณธงชัย เบญจมิน และมาสเตอร์นันทชัย ปุณขันธุ์แนะนำสถานที่ประวัติความเป็นมาของวัด จากนั้นคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร เป็นประธานวจนพิธีกรรมเปิดการเข้าเงียบ และรับประทานอาหารว่างที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ ชมบรรยากาศรอบวัด จากนั้นสวดสายประคำร่วมกันและพิธีบูชาขอบพระคุณ โดยคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร และคุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ คุณพ่อสมเกียรติเทศน์ให้ข้อคิด พระเยซูเจ้าทรงบอกให้เราแบกไม้กางเขนติดตาม เราได้ยินบ่อย พ่อเคยแบกตอนมหาพรต แบกไปรอบหมู่บ้านห้ากิโล บางทีก็แบกคนเดียวไม่ได้ แต่ก็รู้สึกว่ามันเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่พี่น้องในหมู่บ้านช่วยกันแบก การแบกหมายถึงการอุทิศตน คือระลึกถึงตนเองน้อย เพราะฉะนั้นพระองค์ท้าทายเรา อุทิศตนเพื่อคนอื่น ไม่ใช่ทำเพื่อตนเอง สละน้ำใจตนเอง และมันก็จะมีอะไรที่ตอบแทนกลับมา การสละตนเองของพระองค์ไม่ได้หวังอะไรกลับมา ศิษย์ได้สัมผัสว่าพระองค์ได้ทำเพื่อเขาและทุกคน พระองค์ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง ศิษย์ก็ไม่กลัว ออกไปเพื่อประกาศพระองค์ พระเยซูให้ความหมายกับเรา พระองค์ยอมเอาชีวิตของพระองค์เพื่อให้เป็นพยานให้กับคนในโลกที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้ เราตัดน้ำใจของเรา เราฆ่าความเป็นตัวตนของเรา การมีชีวิตจึงเป็นการมีชีวิตที่มีคุณค่า มนุษย์จะได้ประโยชน์อะไร ถ้าได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร คนทั่วไปอยากได้ลาภยศเงินทอง แต่ต้องสุญเสียชีวิต วันนี้พระองค์บอกกับเราทำให้เรามั่นใจเข้าใจเรื่องกางเขนของพระเยซู และกางเขนช่วยให้เราพ้นการประจญ หลังพิธีแล้วรับประทานอาหารเย็นที่เคนซิงตัน อิงลิช การ์เดน รีสอร์ทเขาใหญ่ ช่วงค่ำเป็นภาวนาเทเซ่ ที่วัดบุญราศีนิโคลาส

วันที่สองของการเข้าเงียบหลังรับประทานอาหารเช้าแล้วภาวนาทำวัตรเช้าที่วัดฯ จากนั้นเทศน์ฟื้นฟูจิตใจโดยคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร คุณพ่อเทศน์เกี่ยวกับผู้ทำงานเป็นส่วนหนึ่งในพระศาสนจักร เมื่อเรารู้แล้วเราเข้าใจแล้วตามแบบฉบับของนักบุญ ก็มาถึงขั้นปฏิบัติ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ยาก แต่ถ้าเราทำได้เราจะกลับคืนดีกับพระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เราแต่ละคนแสวงหากระหายความรอด ยอห์น 14:6 พระองค์เป็นหนทางแห่งชีวิตไม่มีผู้ใดไปสวรรค์ได้นอกจากผ่านทางเรา พระองค์เป็นหนทางแห่งความรอด แห่งชีวิต เดินตามพระองค์ไป จงตามเรามา พระองค์เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต
เมื่อเราเชื่อแล้วเราต้องประกาศถึงการแบ่งปันชีวิตความเชื่อ  "มิใช่ท่านทั้งหลายได้เลือกเราแต่เราได้เลือกท่าน มอบภารกิจให้ท่านไปทำจนเกิดผล ผลของท่านจะคงอยู่" จงภูมิใจ พระเจ้าไว้ใจเราเลือกเราทำหน้าที่ประกาศข่าวดีขอให้เราไว้ใจในพระแม้จะเล็กน้อย แต่ผลของพระเจ้ายังคงอยู่

     พักทานอาหารว่างเสร็จแล้ว คุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ เทศน์ฟื้นฟูจิตใจช่วงสอง พ่อแบ่งปันเรื่องตอนไปโปแลนด์กับเยาวชน วันเยาวชนโลก บางครั้งเราไม่อยากทำแต่ด้วยภาระหน้าที่ที่จำเป็นต้องทำ พ่อจึงเลือกพระวรสารพระเยซูเจ้าทรงเข้าตรีทูต แต่ที่สุดแล้ว ก็ทำแล้วก็ผ่านมาได้ สิ่งที่เราได้รับเป็นสิ่งที่ซ่อนไว้อยู่ในประสบการณ์ ตอนที่พ่อไปโปแลนด์ คนในประเทศเชื่อในพระเจ้า เป็นคาทอลิก 90% เค้าดูแลเราดีมาก ไม่ว่าเราจะกลับดึกแค่ไหนเค้าก็รอ ในความลำบากเราร่วมทุกข์ร่วมสุข มีความรักกันมากขึ้นช่วยเหลือกันมากขึ้น ได้มิตรภาพเกิดขึ้น ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาได้ เหมือนพระสันตะปาปาฟรัสซิสบอกว่าพระให้พระพรพิเศษสำหรับเรามาไม่ใช่ให้เราเก็บไว้แต่เพื่อให้เราแบ่งปันสิ่งนั้นให้กับคนอื่นช่วยเหลือคนอื่น พระให้เราทำอะไรพระก็ไม่ทิ้งเรา พระก็ส่งคนมาช่วยเหลือเรา

    จากนั้นเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณปิดการเข้าเงียบโดยคุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ และคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ท้ายพิธีบูชาขอบพระคุณ คุณพ่อได้กล่าวขอบคุณผู้อำนวยการสภาภิบาลคุณธงชัย เบญจมินและมาสเตอร์นันทชัย ปุณขันธุ์ และคุณพ่อสุรชัย เจริญพงศ์ เจ้าอาวาสวัด ที่อำนวยความสะดวกอาหารและสถานที่ ถ่ายภาพร่วมกันบริเวณหน้าวัดและเดินทางกลับอาคารคาทอลิกแพร่ธรรม