วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2015 เวลา 09.00-14.30น. ฝ่ายงานอภิบาล นำโดยคุณพ่อปิยะชาติ มะกรครรภ์ และฝ่ายงานธรรมทูต โดยคุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร จัดเข้าเงียบ เจ้าหน้าที่ เรื่องพระพักตร์แห่งความเมตตา โดยเชิญคุณพ่อพรศักดิ์ ชื่นจิตอภิรมย์เป็นผู้เทศน์เข้าเงียบ ณ บ้านผู้หว่าน สามพราน 

สำหรับการเข้าเงียบ คุณพ่อแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงที่ 1 เป็นช่วงเตรียมจิตใจ ปิดดวงตา เปิดดวงใจ ช่วงที่ 2 พระพักตร์แห่งความเมตตา และช่วงที่ 3 ความรักใหญ่กว่าความบาปผิด 

ช่วงที่ 1 เป็นช่วงเตรียมจิตใจ ปิดดวงตา เปิดดวงใจ
     อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มุ่งเน้นพันธกิจการเป็นศิษย์ของพระคริสต์ โดยอาศัยพระวาจาศีลศักดิ์สิทธิ์ การอธิษฐานภาวนา และขบวนการอบรมทางความเชื่อ เพื่อจะได้สามารถดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ ความหวังและความรัก ตามกระแสเรียกที่พระเจ้าประทานให้ในชีวิตประจำวัน
     การเข้าเงียบ เป็นวิธีการหนึ่งที่ทำให้บรรดาคริสตชนได้มีเวลา ฟื้นฟูความเชื่อ ความศรัทธาต่อพระเจ้า มีเวลาอยู่ใกล้ชิด พระเจ้า อ่านและรำพุงพระวาจา อธิษฐานภาวนา สร้างความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นพิเศษ
การเข้าเงียบจึงไม่ใช่เวลาของการอบรมคุณธรรม เรียนหรือศึกษาตีความพระคัมภีร์หรือการค้นควีรูปแบบการภาวนา หรือการจัดสัมมนาระบบการทำงานการจัดการ เพิ่มพูนความรู้
     การเข้าเงียบการ ต้องอยู่ในความเงียบให้ได้เพื่อฟังพระเจ้า โดยเฉพาะปีนี้ ปีเมตตาธรรมฟังเสียงเมตตาของพระเจ้าที่ทรงมีต่อชีวิตของเรา

     สมณโองการ พระพักตร์แห่งความเมตตา พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ขอให้เรามีเวลาเงียบ ในข้อที่ 13 เราต้องการขับเคลื่อนปีศักดิ์สิทธิ์นี้ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า จงเมตตากรุณรเหมือนพระบิดา ผู้เขียนพระคัมภีร์เตือนใจเราให้ระลึกถึงคำสอนของพระเยซูเจ้าผู้ตรัสว่า “จงเป็นผู้เมตตากรุณาดังที่พระบิดาของท่านทรงเมตตากรุณาเถิด” (ลก 6:36) นี่เป็นแผนงานชีวิตดังที่เรียกร้องเพราะคำสอนนี้อุดมด้วยความชื่นชมยินดีและสันติสุข พระเยซูเจ้าทรงเผยบทบัญญัติแก่ผู้ที่ตั้งใจฟังเสียงของพระองค์ (เทียบ ลก 6:27) ดังนั้นเพื่อที่จะมีเมตตาได้นั้นเราจึงต้องสำรวมจิตใจฟังพระวาจาของพระเจ้าเสียก่อน เรื่องนี้หมายถึง การค้นพบคุณค่าของความเงียบสงบ อีกครั้งหนึ่ง เพื่อรำพึงตามพระวาจาที่มาถึงเรา วิธีนี้อาจช่วยให้เพ่งพิศพระเมตตาของพระเจ้า แล้วนำมาใช้เป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตของเรา