“มันทำให้พ่อได้คิดว่าพ่อมีอิสรภาพเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าหรือไม่”

• ผู้แสวงบุญคนหนึ่งที่ได้ทักทายพระสันตะปาปาต่อหน้าผู้เข้าเฝ้าทั่วไปประจำสัปดาห์เป็นเด็กชายคนนี้เอง พระสันตะปาปาทรงหยุดไปชั่วครู่กับหนูน้อย

• พระสันตะปาปาทรงอวยพรแก่เด็กหลายคน และเสกพระรูปพระกุมารของหนูน้อยที่เตรียมมาด้วย

• ในคำสอนของพระองค์ พระองค์ยังทรงไตร่ตรองพระบัญญัติสิบประการ แต่พระเอกกลับเป็นหนูน้อยคนนี้ ที่เดินผ่านเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขึ้นมาบนเวที

++ มารดาของหนูน้อย ++
“พวกเรามาจากอาร์เจนตินาค่ะ”

• พระสันตะปาปาทรงมีความสุขการขัดจังหวะนี้อย่างมาก เพราะทรงเข้าพระทัยอย่างที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้น

++ พระสันตะปาปาฟรังซิส ++
“พวกเขามาจากอาร์เจนตินา ไม่ค่อยมีวินัยเท่าไหร่”

• หนูน้อยเดินวิ่งไปทั่วและยังเรียกน้องสาวขึ้นมาสำรวจบนเวทีอีกคนหนึ่ง

• ภาพเหล่านั้นส่งผลในพระทัยพระสันตะปาปาอย่างมาก

++ พระสันตะปาปาฟรังซิส ++
“เด็กชายคนนี้พูดไม่ได้ เขาเป็นใบ้ แต่เขายังรู้จักสื่อสารกับเรา เขารู้จักวิธีแสดงตัวตนเอง

เขาทำให้พ่อคิดได้ว่าเขาช่างมีอิสรเสรี เสรีภาพที่ไม่มีวินัย... แต่เขาก็มีอิสรเสรี มันทำให้พ่อคิด ‘พ่อมีอิสรภาพเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าหรือไม่‘

เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่าเราต้องมีจิตใจเหมือนเด็กๆ พระองค์ทรงกำลังบอกเราว่า เราควรจะมีอิสรภาพเหมือนที่เด็กๆ มีต่อหน้าบิดาของเขา

พ่อคิดว่าหนูน้อยได้มอบบทเทศน์แก่เราทุกคน

ให้เราทูลขอพระหรรษทานให้เด็กคนนี้สามารถพูดได้“

• ในการสอนคำสอนนี้ พระสันตะปาปาทรงสรุปพระบัญญัติสิบประการว่าเป็นการแสดงออกว่าความรักของพระเจ้าทำให้มนุษย์มีอิสรเสรีมากเพียงใด

++ พระสันตะปาปาฟรังซิส ++
“โดยทำตัวเองให้มีเสรีภาพจากการเป็นทาสของความอยาก เราสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์กับผู้คนและสิ่งต่างๆ ด้วยความซื่อสัตย์ ใจกว้าง และความจริง“

• นี่เป็นการเข้าเฝ้าทั่วไปประจำสัปดาห์ในห้องประชุมครั้งแรก เพื่อหลบอากาศหนาวเย็นของกรุงโรม

อย่างไรก็ดีคณะนักขับร้องที่มาเข้าเฝ้าก็สามารถร้องเพลงให้ฟังได้อย่างชัดเจน มีพลัง ไม่มีเสียงรบกวน เป็นคณะนักร้องนี้เองที่เตรียมใจทุกคนด้วยจิตตารมณ์คริสต์มาสที่กำลังมาถึง