• ไม่นานหลังจากประธานาธิบดีของเธอได้มาเยือนประเทศที่เล็กที่สุดในโลก ซิสเตอร์มินา ควอน จากประเทศเกาหลีใต้ ก็เข้าร่วมประชุมซีโนด

ซิสเตอร์กล่าวว่าในส่วนลึกสุดของจิตใจเธอปรารถนาอยากให้มีสันติภาพ โดยเฉพาะในประเทศของเธอ

ซิสเตอร์มินา ควอน
“ดิฉันหวังว่าพระสันตะบิดรจะเสด็จเยือนประเทศเกาหลีเหนือ เพราะพระองค์ท่านเป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ แล้วไม่เพียงแต่สำหรับพวกเราในคาบสมุทรเกาหลีเท่านั้นแต่ทั้งโลก เพราะพระองค์ทรงสามารถก่อสันติภาพยิ่งขึ้นในพระศาสนจักร และเราก็หวังอย่างจริงจังที่จะรวมเกาหลีใต้และเหนือเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังนั้นเราจึงสวดภาวนาอย่างมากที่จะตั้งความหวังนี้ในประเทศของเราและทั่วทั้งโลกด้วย”

• ซิสเตอร์กล่าวว่าไม่มีการเบียดเบียนทางศาสนาในประเทศเกาหลีใต้ ดั่งเมื่อ 200 ปีก่อน มีเพียงการแบ่งแยกเป็นเหนือและใต้

• ความหวังนี้เป็นสิ่งที่เธอได้รับมาในชีวิต เมื่อเธอพบกระแสเรียกเป็นซิสเตอร์ในคณะเซนต์ปอลเดอชาร์ต เธอมาถึงซึ่งเสียงเรียกนี้หลังจากต้องดูแลคุณยายที่อยู่ในอาการโคม่า เธอรู้สึกว่าสามารถเข้าส่วนในความทรมานของคุณยายได้ เหมือนที่พระคริสตเจ้าทรงเข้ามาร่วมทุกข์กับมนุษยชาติ

ซิสเตอร์มินา ควอน
“ดิฉันตอบรับพระเจ้าด้วยความยินดี ว่าดิฉันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตและจะรับใช้พระเจ้าและประชากรของพระเจ้า โดยอุทิศตนไปในความรักรูปแบบเช่นนี้”

• ความรักเช่นนี้ไม่ใช่มีอยู่แต่ในเทพนิยาย แต่พบได้ตามถนน ท่ามกลางเพื่อนบ้าน และแม้แต่ระหว่างประเทศต่างๆ

เธอกล่าวว่า ความรักเช่นนี้อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สันติภาพ

ซิสเตอร์มินา ควอน
“ทุกคนมีความรับผิดชอบที่จะมอบวางสันติภาพในที่ที่เหมาะสมของตน ไม่สำคัญว่าต้องเป็นกรุงโรม หรือประเทศเกาหลี หรือที่อิรัก

เป็นความปรารถนาของดิฉันที่จะมอบวางสันติภาพในทุกสถานการณ์และในประชาชนทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดิฉันค้นพบที่นี่ เป็นดั่งความรับผิดชอบอันใหม่ที่ได้รับมาในชีวิต“

• พร้อมกับความรับผิดชอบใหม่นี้ เธอได้กลับไปยังประเทศเกาหลีเพื่อก่อสร้างความเข้มแข็งกับความคิดนี้ และแบ่งปันฤทธิ์กุศลที่เธอได้รับมาจากกรุงโรมให้กับสมาชิกในคณะของเธอ