• พระคาร์ดินัลลีโอโพลโด เบรเนส เดินทางมายังกรุงโรม เพื่ออธิบายแด่พระสันตะปาปาเป็นการส่วนตัวถึงความรุนแรงที่ประทุขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน ปกคลุมบรรยากาศประเทศนิคารากัว

รัฐบาลและกองทหารได้ใช้ความอดกลั้นอย่างยิ่งยวดในการประท้วงอย่างสงบของประชาชน อันเนื่องมาจากเรื่องการประกาศแก้ไขปรับปรุงเงินบำนาญพลเมือง

• พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ทรงให้ความสนใจต่อสถานการณ์เป็นพิเศษ และประชาชนชาวนิคารากัวก็รู้สึกได้

พระคาร์ดินัลลีโอโพลโด เบรเนส
(พระอัครสังฆราชแห่งมานากัว ประเทศนิคารากัว)
“เรารู้สึกได้ถึงพละกำลังของพระสันตะปาปา และประชาชนก็รับรู้ได้โดยเฉพาะชาวคาทอลิก แต่พ่ออยากกล่าวว่าแม้แต่คนเหล่านั้นไม่ว่าชายหรือหญิงผู้มีน้ำใจดีอย่างที่ได้รับเรียกมาเป็น คนเหล่านั้นที่ไม่ได้มีความเชื่อคาทอลิกแต่ก็ยังได้ยินเสียงของพระสันตะปาปาและรู้สึกได้ว่าพระองค์ทรงอยู่ใกล้ชิดกับชาวนิคารากัวในช่วงเวลาแห่งทุกข์ทรมานนี้”

• พระศาสนจักรประเทศนิคารากัวพยายามจะเป็นคนกลางเพื่อทำให้สถานการณ์สงบลง แต่ก็ยังมีบางอย่างมากกว่านั้น

ในวันที่ 21 มิถุนายน ในเมืองมาสายา บรรดาพระสังฆราชชาวนิคารากัวนำโดยพระคาร์ดินัลเบรเนส ได้ทำให้รอดพ้นการสังหารหมู่จากเจ้าหน้าที่ โดยเดินฝ่าแผงแนวกั้นพร้อมกับยกรัศมีอวยพรศีลมหาสนิท

พระคาร์ดินัลลีโอโพลโด เบรเนส
(พระอัครสังฆราชแห่งมานากัว ประเทศนิคารากัว)
“พวกเขาบอกพ่อว่ามีขบวนรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยทหารและตำรวจปราบจราจลและกลุ่มพลเรือน เดินทางมาเพื่อโจมตีเมืองมาสายา พ่อจึงจัดให้มีการสวดภาวนาในชั่วโมงแรกโดยเชื้อเชิญให้พระสงฆ์ทุกคนมาร่วมใจสมทบกับพ่อ ประชาชนรู้สึกได้ถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน เป็นสิ่งงดงามมากเพราะพวกเขาคุกเข่าลงบนถนนและชูมือขึ้นร้องว่า “ช่วยเราด้วย ช่วยให้รอดพ้นด้วย” ‘นั่นเป็นสิ่งที่พ่อประทับใจอย่างมาก’“

• ความรุนแรงที่เกิด ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 300 คน รวมทั้งทารก บาดเจ็บราวหนึ่งพันคน และพูดกันถึงบุคคลที่สูญหายแต่ก็ยังไม่มีรายงานจำนวนอย่างเป็นทางการ
.
พระคาร์ดินัลลีโอโพลโด เบรเนส
(พระอัครสังฆราชแห่งมานากัว ประเทศนิคารากัว)
“บรรดาแม่ผู้สูญเสียเหล่านี้หวาดผวาตลอดไป ทุกข์ทรมานเมื่อหวนคิดถึงลูกที่สูญเสียไป ต่อจากพวกที่เป็นแม่ก็บรรดาสามีของพวกเธอ และก็พวกเด็กๆ อื่นๆ เพื่อนบ้าน...

ความตายของสมาชิกในครอบครัวไม่เพียงแต่ทำร้ายผู้เป็นแม่แต่กับสภาพแวดล้อมทุกอย่าง พร้อมการตายของผู้เสียชีวิตกว่า 300 คนนั้นได้ทำร้ายทั้งประเทศ”

• พระคาร์ดินัลอธิบายว่าทุกเช้าและค่ำ ท่านจะโทรศัพท์ถามบรรดาพระสงฆ์ถึงสถานการณ์ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครต้องตกเป็นเหยื่ออีก

พระคาร์ดินัลลีโอโพลโด เบรเนส
(พระอัครสังฆราชแห่งมานากัว ประเทศนิคารากัว)
“เราได้เห็นในสงครามสองครั้งที่เรามี ซึ่งสูญเสียชีวิตไป 50,000 คน เป็นสงครามที่ประชาชนติดอาวุธกลุ่มหนึ่งต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ครั้งนี้กลับเป็นกลุ่มติดอาวุธต่อประชาชนมือเปล่าไม่มีปืนที่เดินอยู่ในถนน หรือต่อผู้ที่หลบอยู่หลังแผงกั้นถนน หรือมีแค่ก้อนซีเมนต์ในมือ ดังนั้นนี่เป็นเรื่องน่ากลัวยิ่งกว่าสงคราม”

• พระคาร์ดินัลเบรเนสเตือนว่าในสถานการณ์วิกฤตนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการเสวนา ในหนทางที่พระศาสนจักรพยายามจะเข้ามีส่วนร่วมเพราะความรักต่อประชาชนชาวนิคารากัว