พ่อรู้สึกว่าไม่มีใครใส่ใจ ผู้คนในประเทศของพ่อที่กำลังจะตายลง
- รายละเอียด
- หมวด: vatican news
- เขียนโดย คุณพ่อพงศ์เทพ ประมวลพร้อม
- ฮิต: 332
พระสังฆราชแห่งประเทศซูดานใต้ : พ่อรู้สึกว่าไม่มีใครใส่ใจ ผู้คนในประเทศของพ่อที่กำลังจะตายลง
• แม้ว่าพระสันตะปาปาฟรังซิสจะทรงประกาศว่าพระองค์อาจจะเสด็จเยือนประเทศซูดานใต้ เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงเยือนโบสถ์
ของนิกายแองคลีกันในกรุงโรม แต่ในความหมายแล้วพระองค์ไม่ทรงสามารถเสด็จไปที่นั่นได้ เนื่องจากไม่ปลอดภัย
• ไม่มีตัวเลขใดที่เชื่อถือได้ แต่ประมาณกันว่าประชาชนราว 2.5 ล้านคน ไม่มีที่อยู่อาศัย และอีกหลายหมื่นคนถูกฆ่า เนื่องจากสงครามกลางเมือง
ที่เกี่ยวพันกับการฆาตกรรม จนจะกลายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อยู่แล้ว อย่างไรก็ดีไม่ใช่แต่การต้องอยู่ในสนามสงครามเท่านั้น
ยังมีความอดอยาก ขาดแคลนอาหารร่วมเข้ากับความทุกข์ยากลำบากของสงครามกลางเมือง
มงซินญอร์ เออร์โกลาโน โลดู
(พระสังฆราชแห่งเยอี ประเทศซูดานใต้)
“ต้องหาหนทางทางใหญ่หลวงที่จะเยียวยาบรรเทาสถานการณ์ผู้คนล้มตาย
เราเป็นมนุษย์ เราทุกคน คนที่กำลังจะตายเขาก็เป็นมนุษย์
และพ่อคิดว่านั่นแหละคือสิ่งที่พ่อหมายถึง เราต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ด้วยกัน”
• พระคุณเจ้าเออร์โกลาโน โลดู พระสังฆราชแห่งสังฆมณฑลเยอี ประเทศซูดานใต้ ตรงระหว่างชายแดนประเทศอูกานดา
กับสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ท่านอธิบายว่าประเทศกำลังอยู่ปากห้วงเหวลึกมืดมน
มงซินญอร์ เออร์โกลาโน โลดู
(พระสังฆราชแห่งเยอี ประเทศซูดานใต้)
“นับเป็นสถานการณ์เนื่องด้วยสงคราม ก่อความขาดแคลนอาหาร ทุกข์ทรมาน และความหิวโหย เป็นสถานการณ์แห่งความหวาดกลัวแท้จริง
ผู้คนตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง จากการที่ประชาชนอพยพหนีจากประเทศซูดานใต้ไปยังประเทศใกล้เคียง เช่นอูกานดา คองโก
รวมทั้งประเทศซูดาน ที่ซึ่งซูดานใต้แยกประเทศออกมา”
• ความต้องการเป็นเอกเทศ ในปี ค.ศ.2011 เปิดขอบฟ้าใหม่ให้แก่ประชาชนที่มีจุดหมายร่วมกัน แยกตัวออกมาจากประเทศซูดาน
พวกเขาหวังจะมีสันติภาพที่พวกเขาโหยหาว่าจะมีได้ เพราะเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศซูดาน ช่วงระหว่างปี ค.ศ.1985 ถึง 2005
พระสังฆราชคร่ำครวญว่าบรรดาประชาชาติที่กระตือรือร้นสนับสนุนแนวคิดนี้ ต่างก็ลืมความคิดนี้กันไปหมดแล้ว
มงซินญอร์ เออร์โกลาโน โลดู
(พระสังฆราชแห่งเยอี ประเทศซูดานใต้)
“เราต้องการคนกลาง เราต้องการความช่วยเหลือจากบรรดาประชาชาติ ซึ่งไม่ได้แปลว่าเราไม่สามารถแก้ปัญหานี้
การแก้ปัญหาจะต้องออกมาจากพวกเรา แต่เราต้องการความช่วยเหลือเพื่อหาหนทาง
ดังนั้นจากแนวคิดนี้ อีกครั้งหนึ่งที่พ่อสามารถกล่าวว่า ‘ใช่’ เราถูกทอดทิ้ง พ่อไม่คิดว่าถูกต้องที่บรรดาประชาชาติ
จะรู้สึกเหนื่อยหน่ายจากการเข้าช่วยเหลือประเทศซูดานใต้ให้เป็นอิสรภาพด้วยความกระตือรือร้น แล้วจะทอดทิ้ง
ประเทศซูดานใต้ให้ตกในความน่าเวทนาที่ต้องต่อสู้เพียงลำพัง”
• มีประชาชนราว 120,000 คน เสี่ยงต่อการอดตายในประเทศ ทั้งๆ ที่อยู่ในศตวรรษที่ 21 พ่อแม่ถูกบังคับให้ยอมอดอาหาร
เพื่อเหลือไว้ให้ลูกของพวกเขาได้กิน มีคนมากมายตกในสภาพถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว คนที่ไม่สามารถอพยพหนีไปได้
และคนที่ต้องการอาหารที่ทิ้งมาจากเครื่องบิน
• อย่างไรก็ดี เสียงร้องด้านอื่นของนานาชาติดังแย่งความสนใจและแย่งกองทุนองค์กรเพื่อมนุษยธรรมไปเสีย ทำให้ประเทศซูดานใต้หายไปจากแผนที่
พระสังฆราชโลดูเรียกร้อง ขออย่าให้เราปล่อยให้ประชาชนของท่านต้องตายจากความอดอยาก และท่านก็จะได้รับโอกาสกลับ
สู่ความชื่นชมยินดีที่มีความหวังในสันติภาพซึ่งเคยมี ในประเทศที่เกิดใหม่มาได้เพียง 6 ปี