1.พระสันตะปาปาให้โอวาทประจำปีแก่สงฆ์สังฆมณฑลโรม และโปรดศีลอภัยบาปแก่พวกเขา (ตามภาพ) โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนว่า

- ความเชื่อในพระเจ้าไม่มีวันเติบโต ถ้าปราศจากการประจญล่อลวง เรื่องนี้เจอกันหมด ไม่ว่าจะเป็นนักบุญเปโตรหรือเราทุกคน

- พระสงฆ์หรือพระสังฆราชที่ไม่รู้สึกว่าตนเป็นคนบาป ไม่ไปแก้บาป เขาก็ปิดตัวเอง เขาไม่ได้ทำตัวเองเติบโตในความเชื่อ

2) มารี คอลลินส์ สตรีชาวไอริช ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเพื่อปกป้องผู้เยาว์ของวาติกัน (จากการถูกสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ)

ประกาศลาออกแบบสุดช็อกจากการเป็นคณะกรรมการดังกล่าว เพราะไม่พอใจที่มีบางคนในสมณกระทรวงเพื่อความเชื่อ ไม่ให้ความร่วมมือ

และขัดขวางการทำงานของคณะกรรมการกลุ่มนี้ การลาออกดังกล่าวถือว่า "หนักพอสมควร" เพราะ คอลลินส์ เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการรณรงค์ปกป้องเหยื่อที่ถูกสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ

ขณะที่ พระคาร์ดินัล ปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการนครรัฐวาติกัน (เปรียบได้กับ "นายกรัฐมนตรี" หรือเป็นเบอร์ 2 ของวาติกัน) กล่าวยกย่องคอลลินส์ในความตั้งใจทำงานอย่างหนัก

และบอกว่า "การลาออกของเธอ เหมือนกับการเขย่าต้นไม้ใหญ่ให้สั่นสะเทือนอย่างแรง"

3) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรง "ลดโทษแบบเงียบๆ" ให้กับสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศ นามว่า "เมาโร่ อินโซลี่" โดยให้เหตุผลเรื่องความเมตตา (อินโซลี่ ก่อคดีกับเด็กอายุ 12 ขวบ)

ข่าวนี้ น่าจะเป็น "จุดอ่อน" ให้พระสันตะปาปาฟรังซิสถูกโจมตีอย่างแน่นอน เพราะหลายฝ่ายกำลังตั้งคำถามว่าพระองค์คิดอะไรอยู่ นี่คือคดีอาญาและจุดยืนพระศาสนจักรคือต่อต้านเรื่องนี้อย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสมัยของพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 พระองค์ก็ถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับวิธีการแบบนี้เช่นกัน (ในกรณีของคุณพ่อมาร์เซียล ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพระศาสนจักรอย่างมาก)

ส่วนพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 พระองค์ทรง "เด็ดขาดกับเรื่องสงฆ์ล่วงละเมิดทางเพศอย่างมาก" ตลอด 8 ปีในสมณสมัย พระองค์สั่งปลดสงฆ์ไปกว่า 800 คนจากคดีล่วงละเมิดทางเพศ