พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสวรรคตเมื่อวันจันทร์อัฐมวารปัสกา อายุ 88 ปี (Pope Francis has died on Easter Monday aged 88)

     พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงสวรรคตเมื่อวันจันทร์อัฐมวารปัสกาที่ 21 เมษายน 2025 อายุ 88 ปี ณ ที่ประทับส่วนพระองค์ บ้านนักบุญมาร์ธา พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล อากอสติโน เจเมลลี่ โพลีคลินิก (Agostino Gemelli Polyclinic Hospital) เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 ด้วยโรคหลอดลมอักเสบติดต่อกันหลายวัน พระอาการโดยทั่วไปของพระองค์ค่อย ๆ แย่ลง แพทย์ได้วินิจฉัยว่า พระองค์เป็นโรคปอดบวมทั้งสองข้างเมื่อวันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลา 38 วัน พระองค์ได้เสด็จกลับไปยังที่ประทับของพระองค์ บ้านนักบุญมาร์ธา ในนครรัฐวาติกัน เพื่อพักรักษาร่างกายต่อไป

     ในปี 1957 ขณะที่พระองค์มีอายุประมาณ 20 ปี พระองค์เข้ารับการผ่าตัดที่ประเทศอาร์เจนตินา บ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์ เพื่อผ่าตัดเอาปอดส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อทางเดินหายใจรุนแรงออก เมื่อพระองค์มีพระชนมายุเพิ่มมากขึ้น ทรงประสบปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจอยู่บ่อยครั้ง ถึงขนาดทรงยกเลิกการเสด็จเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเดือนพฤศจิกายน 2023 เนื่องจากทรงเป็นไข้หวัดใหญ่และปอดอักเสบ

ทรงเตรียมจารีตพิธีฝังศพไว้ล่วงหน้าแล้ว

     ในเดือนเมษายน 2024 พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ทรงอนุมัติหนังสือพิธีกรรมฉบับปรับปรุงใหม่ สำหรับพิธีปลงศพของพระสันตปาปา ซึ่งยังไม่มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ มีชื่อว่า “พิธีฝังศพพระสันตะปาปาแห่งโรม” (Ordo Exsequiarum Romani Pontificis) ได้อธิบายขั้นตอนต่าง ๆ รวมถึงวิธีการจัดการกับร่างของพระสันตะปาปาหลังจากสิ้นพระชนม์แล้ว การพิสูจน์การเสียชีวิตจะเกิดขึ้นในวัดน้อย แทนที่จะเป็นในห้องที่พระองค์เสียชีวิต และร่างของพระองค์จะถูกบรรจุไว้ในโลงศพทันที ตามคำกล่าวของพระอัครสังฆราช ดิเอโก ราเวลลี (Archbishop Diego Ravelli) หัวหน้านายจารีตพิธีกรรมของสันตะสำนัก พระสันตะปาปาฟรังซิสผู้ล่วงลับ ได้ขอให้มีการจัดพิธีศพอย่างเรียบง่าย โดยเน้นไปที่การแสดงออกถึงความเชื่อของพระศาสนจักรในการกลับคืนชีพของร่างกายของพระเยซูคริสตเจ้า พระอัครสังฆราช ราเวลลี กล่าวว่า “พิธีปลงศพที่ปรับปรุงขึ้นใหม่นี้ ได้ให้ความสำคัญของการปลงพระศพของพระสันตะปาปา เปรียบเสมือนกับเป็นผู้อภิบาลและศิษย์คนหนึ่งของพระเยซูคริสตเจ้า ไม่ใช่บุคคลที่มีอำนาจในโลกนี้”