กลับไปหาพระเยซูเจ้าด้วยความเชื่อและความหวัง (Turn to Jesus with faith and hope)

     เมื่อตอนเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2024 ระหว่างการสวดบททูตสวรรค์แจ้งสาร จากพระวรสารของนักบุญมาระโกประจำวัน เรื่องพระเยซูเจ้าทรงรักษาชายขอทานตาบอดที่มีชื่อว่า “ #บารทิเมอัส ” พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงยืนยันว่า ความรักอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาของพระเยซูเจ้าสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา ให้แนวทางแก่เรา และทำให้เรามีความสุข ความเชื่อและความวางใจในพระเจ้า มีพลังที่จะช่วยเราทุกคนให้รอดพ้น...พระเยซูเจ้าทรงได้ยินเขา เห็นเขา และในที่สุด ทรงรักษาเขา เนื่องจากพระองค์ทรงตระหนักถึงความเชื่ออันยิ่งใหญ่และความเต็มใจของชายคนนั้น ที่จะละทิ้งทุกสิ่งที่เขามีไว้ข้างหลังเพื่อเข้าถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า ด้วยเหตุนี้ เราจึงพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ใน 3 มุมมองที่แตกต่างกัน คือ เสียงร้องตะโกน ความเชื่อ และการเดินทาง

การตะโกนออกมา (Crying out)

     เสียงร้องของบารทิเมอัสไม่ได้เป็นเพียงการร้องขอความช่วยเหลือ แต่เป็นการยืนยันถึงตัวเองว่า "ฉันมีอยู่จริง จงมองมาที่ฉัน ฉันไม่สามารถมองเห็นพระเยซูเจ้าได้ พระองค์ทรงเห็นฉันไหม" ... พระเยซูเจ้าทรง 'เห็น' เขาอย่างแน่นอน พระเยซูเจ้าไม่เพียงแต่ "เห็น" คนขอทานเท่านั้น แต่พระองค์ยัง "ทรงฟังเขาด้วยหูของร่างกายและหูของหัวใจด้วย"

พลังของความเชื่อช่วยเราให้รอด (Faith's power to save us)

     การที่พระเยซูเจ้าทรงบอกบารทิเมอัสว่า “ไปเถิด ความเชื่อของท่านได้ช่วยท่านให้รอดพ้นแล้ว” “บารทิเมอัสได้เห็นเพราะเขามีความเชื่อ พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างแห่งพระเนตรของพระองค์” พระสันตะปาปาฟรังซิสตรัสถามว่า "ฉันจะเห็นขอทานได้อย่างไร? ฉันเมินเฉยต่อเขาหรือไม่? ฉันมองเขาเหมือนที่พระเยซูเจ้าทรงมองหรือไม่?"

พระเจ้าประทานหนทางให้กับเรา (Offers us direction)

     เมื่อบารทิเมอัสหายดีแล้ว “ติดตามพระเยซูเจ้าไปตามทาง แต่เราแต่ละคนคือบารทิเมอัส เป็นคนตาบอดจากภายใน และติดตามพระเยซูเจ้าเมื่อเราถูกดึงเข้ามาใกล้พระองค์” ยิ่งกว่านั้น “เมื่อท่านเข้าไปใกล้ผู้ยากจน และทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดท่าน พระเยซูเจ้าคือผู้ที่ทำให้ท่านเข้าไปใกล้พี่น้องผู้ยากจนผู้นั้น...ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการให้ทาน คือผู้ที่ให้ เพราะกระทำภายใต้สายพระเนตรของพระเจ้า" ขอให้พระนางมารีย์ "ผู้เป็นรุ่งอรุณแห่งความรอดของเรา ... ปกป้องการเดินทางของเราในแสงสว่างของพระเยซูเจ้า"