พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงพบผู้ลี้ภัยและอธิษฐานภาวนาเพื่อกษัตริย์โบดวงแห่งเบลเยียมผู้ล่วงลับ (Pope meets group of refugees and pays tribute to late Belgian King Baudouin)

     โอกาสเสด็จเยือนเบลเยียมเมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2024 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเสด็จออกจากสถานเอกอัครสมณทูตวาติกัน ในเขตเทศบาลโวลูเว-แซงต์-ปิแอร์ (municipality of Woluwe-Saint-Pierre) ในกรุงบรัสเซลส์ เพื่อพบกับพระสงฆ์และนักบวชชาวเบลเยียม ณ มหาวิหารพระหฤทัยแห่โคเอลเคลเบิร์ก (Basilica of the Sacred Heart of Koelkelberg) ทรงทักทายเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปกลุ่มหนึ่งเป็นระยะเวลาสั้น ๆ กลุ่มนี้ประกอบด้วย มาร์การิติส ชินาส (Margarítis Schinás) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป,  ดูบราฟกา ซูอิกา (Dubravka Šuica) รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อประชาธิปไตยและประชากรศาสตร์, โอซานา โดเมนติ (Oxana Domenti) ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำสหภาพยุโรป, และ ฮันส์ คลูจ (Hans Kluge) ผู้อำนวยการภูมิภาคของ WHO สำหรับยุโรป จากนั้น พระองค์ทรงหยุดทักทายฝูงชนที่มารวมตัวกันรอบสถานเอกอัครสมณทูตวาติกัน โดยเฉพาะบรรดาเด็กและเยาวชน

อาหารเช้าพร้อมกับผู้ลี้ภัยที่วัดนักบุญกิลส์ (Breakfast with refugees at Church of Saint-Gilles)

     ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังพระวิหารพหฤทัยแห่งโคเคลเบิร์ก (Basilica of the Sacred Heart of Koelkelberg) พระองค์ทรงรับประทานอาหารเช้าร่วมกับกลุ่มผู้ยากจนและผู้ลี้ภัยที่วัดนักบุญกิลส์ (Church of Saint-Gilles) ซึ่งให้ความช่วยเหลือพวกเขา ผู้ลี้ภัยจากเมืองโตโก (Togo) ชื่อคริส (Chris) เล่าถึงการข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อไปยังเกาะลัมเปดูซา (Lampedusa) ของอิตาลี และการขับร้องเพลงของแม่พระในช่วงเวลาแห่งความหวาดกลัวที่เลวร้ายที่สุดระหว่างการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายในครั้งนั้น พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงได้รับการต้อนรับด้วยเบียร์ “บิช แซงต์ กิลล์” (Biche Saint Gille) ซึ่งเป็นเบียร์ที่ผลิตโดยวัดเพื่อเขายแล้วนำเงินมาใช้เพื่อการกุศล หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์สั้น ๆ พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมอบรูปปั้นของนักบุญลอว์เรนซ์ มรณสักขี ซึ่งมีข้อความว่า “ฉันดีใจที่ได้เห็นว่า ความรักเป็นพลังให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันและความคิดสร้างสรรค์ของที่นี่ได้อย่างไร นอกจากนั้นแล้ว คุณยังได้ผลิตเบียร์อีกด้วย! ฉันคิดว่ามันดีมาก ฉันจะบอกคุณบ่ายนี้”

กษัตริย์โบดวงเป็นกษัตริย์ผู้กล้าหาญ (King Baudouin was a courageous king)

     หลังจากการพบปะกับบรรดาบิชอป บาทหลวง นักบวช และผู้ทำงานอภิบาลของประเทศ พระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนสุสานใต้ดินของราชวงศ์ ใต้มหาวิหารแม่พระแห่งลาเคิน (Basilica of Our Lady of Laeken) พร้อมกับกับกษัตริย์และราชินีแห่งเบลเยียม ทรงหยุดอธิษฐานภาวนาต่อหน้าหลุมศพของกษัตริย์โบดวง ผู้ครองราชย์ตั้งแต่ปี 1951 ถึง 1993 พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงตรัสกับกษัตริย์ฟิลิปป์และผู้ที่อยู่ ณ ที่นั้น ถึงความกล้าหาญของกษัตริย์โบดวง ในการเลือก "สละตำแหน่งกษัตริย์ชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงการลงนามในกฎหมายฆาตกรรม" ซึ่งสนับสนุนการทำแท้งให้ถูกกฎหมายในปี 1990 โดยพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ตรัสให้ความหวังว่า กระบวนการแต่งตั้งให้กษัตริย์โบดวงได้เป็นบุญราศีกำลังก้าวหน้าต่อไป