มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

สำนักข่าววาติกันชื่นชมพระศาสนจักรไทยที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ (Church volunteers race to clear mud in wake of northern Thailand’s historic floods)

 

สำนักข่าววาติกันชื่นชมพระศาสนจักรไทยที่ช่วยผู้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ (Church volunteers race to clear mud in wake of northern Thailand’s historic floods)

     หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมทางภาคเหนือของประเทศไทยที่ผ่านมา บิชอปแห่งสังฆมณฑลเชียงราย พร้อมกับบรรดาสัตบุรุษ และอาสาสมัครหลายร้อยคนจากกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ได้ช่วยกันกำจัดโคลนหนาที่หลงเหลือจากน้ำท่วมฉับพลันในบริเวณวัดและบ้านเรือนต่าง ๆ น้ำท่วมได้ลดลงแล้ว แต่ผลกระทบที่ตามมาสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก บิชอปยอเซฟ วุฒิเลิศ แห่ล้อม ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไลแคส (LiCAS News) ว่า “เราต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ก่อนที่โคลนจะแห้ง ซึ่งจะทำให้การทำความสะอาดยากขึ้น”

 

 

น้ำลดลงแล้วเหลือแต่โคลนที่หนา

     บางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึงระดับคอ แต่เมื่อน้ำลดลงไปแล้ว เหลือแต่โคลนหนาเกือบ 1 ฟุตปกคลุมทั่วทั้งเมือง รถดับเพลิงทั้งหมดในเชียงรายและเชียงใหม่ ได้ช่วยกันระดมทำความสะอาดเพื่อล้างโคลนที่ปกคลุมถนน ขณะเดียวกัน ฝนที่ตกหนักยังทำให้เกิดน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้างในเขตสังฆมณฑลอุดรธานี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยอีกด้วย โดยเฉพาะในบริเวณที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง บางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึง 2 เมตร

 

 

น้ำท่วมมากในรอบหลายปีที่ผ่านมา

     ปริมาณน้ำฝนที่ตกอย่างหนักต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากพายุไต้ฝุ่นยางิ (Typhoon Yagi) ได้สร้างความเสียหายในบริเวณกว้ มีผู้เสียชีวิตหลายคนทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ตั้งแต่ฟิลิปปินส์ไปจนถึงเมียนมาร์ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยอุทกภัยในปีนี้ ถือเป็นอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมา

 

 

ฉลองวัดท่ามกลางน้ำท่วม

     แม้ว่าจะเกิดน้ำท่วม แต่การจัดฉลองวัดประจำปีในจังหวัดหนองคาย ก็ดำเนินต่อไปตามแผนเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว โดยพระสังฆราชยอแซฟ ลือชัย ธาตุวิสัย ได้เป็นประธานในพิธี พร้อมกับคณะสงฆ์ ท่ามกลางน้ำที่ท่วมอยู่รอบบริเวณวัด ในบางพื้นที่ ชาวบ้านได้ร้องขอความช่วยเหลือสำหรับการทำความสะอาดโคลนที่สูงกว่า 1 เมตรออกจากบ้านของตน พระสังฆราชวุฒิเลิศ แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายอย่างมากต่อโรงเรียนในท้องถิ่น ที่เกิดจากทั้งน้ำท่วมฉับพลันและระดับน้ำในแม่น้ำที่สูงขึ้น กล่าวว่า “เราไม่ทราบว่าจะต้องปิดโรงเรียนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักนี้ต่อไปอีกกี่วัน”

 

 

ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหาย

      เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2024 ทางการประเทศไทยประกาศผู้เสียชีวิตจำนวน 10 ราย และบ้านเรือนเสียหายมากกว่า 73,000 หลังคาเรือน โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือของประเทศไทย น้ำท่วมหนักส่งผลกระทบต่อ 27 จังหวัด โดยเฉพาะเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้รับผลกระทบหนักมากที่สุด อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประกาศว่าแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง ๆ ไม่ได้รับผลกระทบ ในเชียงราย มีรายงานน้ำท่วมอย่างหนัก

     ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย และครอบครัวได้รับผลกระทบ 43,329 ครอบครัว เชียงใหม่ เมืองที่เคยจัดการประชุมของพระศาสนจักรคาทอลิกในระดับเอเชียมาหลายครั้ง มีรายงานผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 3 ราย และครอบครัวได้รับผลกระทบ 14,216 ครอบครัว ตามรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่ สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ในขณะที่บางส่วนของอ่างทองและอยุธยา ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากระดับน้ำที่สูงขึ้นในแม่น้ำเจ้าพระยา

ขอขอบพระคุณ อ.ชัยณรงค์ มณเทียรวิเชียรฉาย จากสำนักข่าวไลแคส (LiCAS News)

 

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown