นครรัฐวาติกันเปิดตัวโครงการการเดินทางที่ยั่งยืน 'การเปลี่ยนแปลงเชิงนิเวศน์ 2023' (Vatican launches sustainable mobility programme 'Ecological Conversion 2023')

     นครรัฐวาติกันประกาศเปิดตัวชุดความคิดริเริ่ม และกลยุทธ์การประหยัดพลังงาน เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมภายใต้กรอบของ พระสมณสาส์น "ขอสรรเสริญองค์พระเจ้า" (Laudato Sì)
สมณลิขิตเตือนใจ สรรเสริญพระเจ้า (Laudate Deum) ของพระสันตะปาปาฟรังซิส รวมถึงการเปิดตัวกองรถยนต์ของรัฐเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ผ่านความร่วมมือกับบริษัทในเครือโฟล์คสวาเก้น (Volkswagen Group)
นครรัฐวาติกันมีความมุ่งมั่นเป็นเวลาหลายปี  ในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านนโยบายทางนิเวศน์ เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม และจัดทำกลยุทธ์การประหยัดพลังงาน
     การใช้หลักการของพระสมณสาส์น "ขอสรรเสริญองค์พระเจ้า" (Laudato Sì)  สมณลิขิตเตือนใจ สรรเสริญพระเจ้า (Laudate Deum) ทำให้รัฐนี้เป็นหนึ่งในรัฐแรก ๆ ในโลก ที่ดำเนินโครงการด้านความยั่งยืน โดยการแสวงหาแนวทางแก้ไขที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานไปพร้อม ๆ กับการดูแลรักษาการคุ้มครอง 'บ้านส่วนรวม' (Common Home) โดยการนำโครงการที่ใช้เทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ จะช่วยลดผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม
     การให้สัตยาบันอนุสัญญากรอบสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และข้อตกลงปารีส เป็นสะพานเชื่อมระหว่างนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม กับข้อบ่งชี้และข้อเสนอแนะของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส
     นครรัฐวาติกันมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศผ่านการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างรับผิดชอบ การดำเนินโครงการประสิทธิภาพพลังงาน การยกระดับสินทรัพย์ทางเทคโนโลยี การคมนาคมที่ยั่งยืน การกระจายความหลากหลาย และการจัดหาผลิตภัณฑ์พลังงานสะอาด หรือพลังงานทดแทนสำหรับการขนส่ง การกำจัดของเสีย และการพัฒนา ของโครงการปลูกป่าอย่างเป็นรูปธรรมในอนาคต

ยานพาหนะไฟฟ้าในกองยานพาหนะวาติกัน (Electric vehicles in the Vatican car fleet)

     การบรรลุความเป็นกลาง จะต้องมีการลงทุนในสิ่งอำนวยความสะดวกทางเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานหมุนเวียน การชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นในพื้นที่หนึ่ง และลดการปล่อยมลพิษในพื้นที่อื่น และเหนือสิ่งอื่นใดคือ การส่งเสริมการเคลื่อนย้ายด้วยไฟฟ้า และไฮบริด ด้วยเหตุนี้ นครรัฐวาติกันจึงได้เปิดตัวโครงการพัฒนาการเดินทางที่ยั่งยืนที่เรียกว่า 'การเปลี่ยนแปลงเชิงนิเวศน์ 2030' ซึ่งออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกลุ่มยานยนต์ของรัฐด้วย
     ด้วยเหตุนี้ จึงมีความตั้งใจที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนรถยนต์ของรัฐเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้กองยานยนต์ของตนปลอดคาร์บอนภายในปี 2030 ใช้เครือข่ายการชาร์จประจุใหม่ในรัฐ และพื้นที่นอกอาณาเขต และขยายการใช้งานไปยังพนักงาน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าความต้องการพลังงานมาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนโดยเฉพาะ

พันธมิตรเชิงกลยุทธ์เพื่อการขับเคลื่อนที่ยั่งยืน (A strategic partner for sustainable mobility)

     บริษัทในเครือโฟล์คสวาเก้น ซึ่งตั้งเป้าที่จะกลายเป็นบริษัทที่เป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030 และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของยานพาหนะลง 30% ภายในปี 2030 เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์รายแรกสำหรับโครงการที่จะต่ออายุกองรถยนต์ของรัฐด้วยรถยนต์ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้น และสโกด้า (Škoda) ผ่านสูตรการเช่าระยะกลางและระยะยาว
     วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2023) มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับบริษัทในเครือโฟล์คสวาเก้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาการเดินทางที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่นครรัฐวาติกันได้ดำเนินการเพื่อลดผลกระทบของกิจกรรมของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม