• บุคคลสำคัญท่านหนึ่งที่เข้าร่วมในการประชุมสุดยอดต่อต้านการล่วงละเมิดนั่นคือ พระคาร์ดินัลโอ’มัลเลย์ ท่านได้นำลำดับเรื่องราวเกิดขึ้นที่สังฆมณฑลบอสตันหลังจากเกิดเรื่อง “เด่นชัดแจ้ง” แล้ว ท่านยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการวาติกันเพื่อปกป้องผู้เยาว์

• ท่านกล่าวว่านี่ป็นงานเร่งด่วนของพระศาสนจักร ที่จะเผชิญกับวิกฤตเรื่องการล่วงละเมิด ปกป้องผู้เยาว์ และช่วยเหลือเหยื่อผู้ถูกกระทำ

++ พระคาร์ดินัลฌอน โอ’มัลเลย์ ++
(ประธานคณะกรรมาธิการสันตะสำนักเพื่อการปกป้องผู้เยาว์)
“หลักการซึ่งกล่าวไว้อย่างชัดแจ้งโดยพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ‘ไม่มีที่อยู่ในหมู่คณะสงฆ์ สำหรับใครก็ตามที่ทำร้ายเด็กๆ’ และนั่นจึงต้องมีเส้นขีดคั่นบนพื้นทราย”

• ท่านคิดว่าเมื่อบรรดาพระสังฆราชตระหนักว่าพระสงฆ์อาจได้ทำการล่วงละเมิด นอกจากจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายพระศาสนจักรแล้ว เขาจะต้องแจ้งแก่ตำรวจด้วย

++ พระคาร์ดินัลฌอน โอ’มัลเลย์ ++
(ประธานคณะกรรมาธิการสันตะสำนักเพื่อการปกป้องผู้เยาว์)
“เราเชื่อว่ามีข้อผูกมัดทางศีลธรรมที่จะแจ้งข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเพื่อความปลอดภัยแก่เด็กๆ พ่อคิดว่าความน่าหวั่นกลัวสำหรับวิกฤตที่เรามีประสบการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นชัดเจน เพราะเป็นเวลานานมากที่ไม่มีการแจ้งรายงานเรื่องเหล่านี้ ดังนั้นการรายงานมายังพ่อเป็นส่วนสำคัญของหนทางในภายหน้าที่เราจะปกป้องเด็กได้“

• ยังมีประเด็นที่นำมาตรวจสอบในการประชุมสุดยอดนี้ คือจะปรักปรำพระสังฆราชอย่างไรที่ท่านไม่ทำตามมาตรฐานของการปกป้องผู้เยาว์และใส่ใจต่อผู้ตกเป็นเหยื่อ

++ พระคาร์ดินัลฌอน โอ’มัลเลย์ ++
(ประธานคณะกรรมาธิการสันตะสำนักเพื่อการปกป้องผู้เยาว์)
“สิ่งที่จะได้ออกมาจากการประชุมครั้งนี้ สามารถประกาศกับทุกพื้นที่เรื่องความรับผิดชอบของพระสังฆราชผู้ปกครองอันเกี่ยวข้องกับฆราวาส และฟื้นฟูความมั่นใจแก่สัตบุรุษ เพื่อเปิดทางให้เขาได้รายงานความเลินเล่อหรือประสงค์ร้ายของบรรดาพระสังฆราช และเปิดหนทางสะดวกที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นในภายภาคหน้า”

• ในความคิดของพระคาร์ดินัลโอ’มัลเลย์ กุญแจไขเรื่องนี้คือความโปร่งใส : สิ่งนี้รวมถึงบุคคลที่ถูกประณามเหล่านั้น ว่าบางทีก็ไม่กระทำให้เป็นที่รับรู้สำหรับสาธารณะและทำให้การต้องเป็นแบบอย่างที่ดีของพวกท่านหละหลวม