มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

กิจกรรมการเข้าเงียบช่วงมหาพรตของนักศึกษาไทยในอิตาลี


     ณ ประเทศอิตาลี ที่เมืองปาดัว ให้กำเนิดนักบุญที่มีชื่อเสียงสองท่านจากยุคสมัยที่ต่างกัน นั่นคือ นักบุญอันตน แห่งปาดัว (ค.ศ.1195-1231) และนักบุญเลโอปอลโด มานดิช (ค.ศ.1866-1942) ท่านทั้งสอง ต่างไม่ใช่ชาวอิตาเลียน แต่ได้มาใช้ชีวิต, จบชีวิตและฝังร่างกายอยู่ในเมืองนี้ และทั้งสองเป็นนักบวชใน สาขาของท่านนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี เพราะฉะนั้น ณ ดินแดนแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนเป็นแผ่นดิน ศักดิ์สิทธิ์ ที่เราได้เดินทางเข้ามาฟื้นฟูจิตใจ แสวงบุญและสวดภาวนากัน

     โอกาสเริ่มต้นเทศกาลมหาพรตปีนี้ (7-9 มีนาคม 2014) กลุ่มนักศึกษาไทยในอิตาลี ได้มาเยือน เมืองปาดัว แห่งนักบุญอันตน ได้รับประสบการณ์ด้านจิตใจต่างๆ และพวกเราได้รับความกรุณาจาก คุณพ่อลอเรนโซ่ ไบซิออน คุณเจ้าอาวาส(หนุ่ม)วัดซาน จอร์โจ เดลเล แปร์ติเค่) ซึ่งเป็นวัดสำคัญวัด หนึ่งของสังฆมณฑลปาดัว มีพระสงฆ์ไทยหลายท่านมาพึ่งพาคุณพ่อเจ้าวัดท่านนี้เป็นประจำ เพราะคุณพ่อ เจ้าวัดใจดี และเคยเป็นมิสชันนารีที่สังฆมณฑลเชียงใหม่ ถึง 10 ปี ซึ่งงานนี้ต้องขอบคุณคุณพ่อเป็น อย่างยิ่งที่ได้จัดเตรียมทุกอย่างสำหรับกลุ่มของเรา ขอย้ำว่าทุกอย่างจริงๆ ครับ (โปรแกรมการเข้าเงียบ, บ้านที่เข้าพักกับชาวบ้าน, คุณพ่อยังเป็นคนขับรถให้พวกเราด้วยนะครับ) ที่สำคัญคุณพ่อเป็นผู้นำเทศน์ และพาให้เราได้รับประสบการณ์อันน่าจดจำและมีคุณค่าอย่างยิ่งนี้ โดยมิได้รับค่าจ้างใดๆ เลย พวกเราตัวแทนคนไทยถือว่ามาเยี่ยมเยียนคุณพ่อแทนคนอื่นๆ ที่ท่านรู้จักก็แล้วกันครับพี่น้องที่เคารพ
ผมขอแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นสักหน่อยครับ

    


      นักบุญอันตน แห่งปาดัว (1195-13มิ.ย.1231) เกิดในครอบครัวที่มีฐานะดี ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เดิมชื่อว่า เฟอร์นานโด (Fernando) ได้เข้าเป็นนักบุญคณะฟรังซิสกัน ตั้งแต่อายุ 15 ปีและในฐานะนักบวชได้เลือกชื่อใหม่ว่า “อันโตนิโอ” (Antonio) หรืออันตน และเป็นที่รู้จักตามนามนี้ เสมอมา ท่านได้มาใช้ชีวิตสั้นๆ ของท่าน, เทศน์สอนชาวเมืองและทำอัศจรรย์ต่างๆมากมาย รวมทั้งได้พบ พระกุมารเยซูในนินิต ในชีวิตบั้นปลายด้วย อยู่ที่เมืองปาดัว ท่านเสียชีวิตเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน ค.ศ.1231 ขณะมีอายุเพียง 36 ปี เท่านั้น
เรามักจะได้ยินอัศจรรย์ที่ปลามาฟังการเทศน์สอนของท่าน หรือ อัศจรรย์ที่พบว่าลิ้นของท่านยังสด อยู่หลังจากตายไปแล้วถึง 30 ปี หรือบางท่านอาจเคยได้ฟังหรือเคยได้อ่านเรื่องอัศจรรย์อื่นๆ ซึ่งยังมีอีก มากมาย เช่น การทำให้คนตายกลับคืนชีพ, อัศจรรย์เรื่องศีลมหาสนิท และอัศจรรย์ที่ตามมาจากการเทศน์ สอนของท่านนักบุญอันตน
ซึ่งโดยส่วนตัวผมแล้วเห็นว่าเป็นพระพรของพระเจ้าจริงๆ ที่ทำให้คนของพระองค์ได้รับเกียรติ เหล่านี้ และแน่นอนว่าอัศจรรย์ต่างๆ ช่วยให้ประชากรของพระองค์ หลายคนได้กลับใจ ได้ทบทวนชีวิต และช่วยให้ความเชื่อเข้มแข็งขึ้นได้ด้วย เพราะอัศจรรย์เหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับชีวิตคริสตชนของเรานั่นเอง
      นักบุญอันตน ได้ชื่อว่าเป็น อัครสาวกแห่งพระวาจา, สันติภาพ และความดี (pax et bonum) ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นนักบุญหลังจากเสียชีวิตแล้วเพียง 10 เดือน เท่านั้น พระสันตะปาปาเกรโกรี่ ที่ 9 ได้กล่าวว่าเพราะตั้งแต่มีชีวิตมีเครื่องหมายอัศจรรย์มากมายอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องรอเวลานานเพื่อประกาศว่าท่านเป็นนักบุญ เราไม่ทราบแน่ชัดว่า ทำไม??? ชื่อเสียงของท่านนักบุญอันตน แห่งปาดัว จึงกระจาย ไปทั่วโลก ทุกท้องถิ่น แม้ในหมู่คนต่างศาสนา อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าท่านคือผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า และภาวนาเพื่อเราคริสตชนอย่างแน่นอน, วันที่ 13 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันฉลองนักบุญอันตน แห่ง ปาดัว
        

 

     พวกเราได้มีโอกาสเยี่ยมเยียนสักการสถานสำคัญ 3 แห่งที่มีความเกี่ยวข้องสำคัญในชีวิตของท่าน นักบุญอันตน นั่นคือ 1.สักการสถานอันโตนิอานี่ คัมโปซัมปิเอโร่ (สถานที่ที่ท่านได้ขึ้นไปสวดภาวนา ,รำพึงและเทศน์สอนจากบนต้นไม้ (ต้นโนเช) และห้องที่ท่านได้พบนิมิตพระกุมาร) 2.สักการสถานที่สร้าง ขึ้นครอบจุดที่ท่านเสียชีวิต 3.บาสิลิกา เดล ซานโต (วัดที่ฝังศพของท่านปัจจุบันและที่เก็บพระธาตุต่างๆ)
     นักบุญเลโอปอลโด มานดิช (12 พ.ค.1866- 30 ก.ค.1942) เกิดที่เมืองกัสแตล นูโว่ ปัจจุบันคือ ประเทศบอสเนีย ท่านเป็นนักบุญร่วมสมัยกับเราจริงๆ ท่านนักบุญไม่ใช่บุรุษที่สง่างามด้วยรูปร่างน่าตา เพราะท่านสูงราวๆ เพียง 135 ซม. ร่างกายไม่แข็งแรง แต่ท่านมีจิตใจที่สุภาพอ่อนโยนและสวยงาม ท่านไม่ใช่คนมีความรู้โดดเด่น แต่มีความศรัทธามากๆ เป็นต้นความศรัทธาต่อพระแม่มารีย์ ท่านได้เข้า เป็นนักบวชคณะภราดาน้อยกาปูชิน เมื่อได้บวชเป็นพระสงฆ์แล้ว พวกสมาชิกในคณะต่างเห็นว่าท่านไม่ใช่ คนเก่งและอีกทั้งร่างกายก็ไม่แข็งแรง ก็เลยมอบหมายหน้าที่ที่ดูธรรมดาๆ ให้ นั่นคือให้เป็นผู้ฟังแก้บาป เพราะฉะนั้นท่านใช้ชีวิตพระสงฆ์ส่วนใหญ่อยู่ในที่ฟังแก้บาป (ห้องฟังแก้บาปจึงเป็นที่ทำงานเพื่อความรอด ของวิญญาณ) ท่านได้ชื่อว่าเป็นองค์อุปถัมภ์แห่งการคืนดี (ผ่านทางศีลอภัยบาป และท่านภาวนาเพื่อ เอกภาพของพระศาสนจักร) ท่านมีชีวิตที่ยืนยาว และแม้ว่ามีชีวิตเรียบง่ายและไม่ได้ทำสิ่งใดๆ ที่ยิ่งใหญ่ต่อสายตามนุษย์ แต่ยิ่งใหญ่ในสายตาของพระเจ้าอย่างแน่นอน เพราะท่านคือผู้ศักดิ์สิทธิ์
ในเมืองปาดัว มีสักการสถานนักบุญเลโอปอลโด มานดิช ซึ่ง ณ ที่แห่งนี้ จะได้พบกับหลุมฝังศพ ของท่าน ห้องฟังแก้บาปที่ท่านเคยนั่ง บริเวณที่ถูกทิ้งระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ห้องฟังแก้บาปนี้ กลับไม่ถูกทำลายอย่างอัศจรรย์, มือขวาของท่าน (มือที่อภัยบาป) และพระธาตุและของใช้อื่นๆ ของท่าน (ซึ่งมีไม่มาก เพราะพวกภราดาถือความยากจน และเมื่อตายไปสมาชิกก็ได้เอาสิ่งที่ไม่จำเป็นทิ้งไปหมด)
     เมื่อพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 6 ประกาศให้ท่านเป็นบุญราศี และตั้งให้ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์หลัก ด้านคริสตสัมพันธ์ด้วย (ท่านได้รับเสียงเรียกพิเศษให้ทำงานด้านนี้ และแม้จะไม่เคยเดินทางไปตามเสียง เรียก เพราะอุปสรรคด้านสุขภาพและผู้ใหญ่ในคณะฯ ไม่อนุญาต แต่ท่านได้สวดภาวนาอย่างเงียบๆ ตลอดชีวิตเพื่อเอกภาพของคริสตชน) เพราะฉะนั้นพี่น้องครับเราสวดภาวนาเงียบๆ สงบๆ ส่วนตัวกันมาก น้อยแค่ไหนครับ? เพราะนี่คือการภาวนาแบบที่พระเยซูเจ้าสอนเราครับ ต่อมาเมื่อพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 ได้ประกาศท่านเป็นนักบุญและเป็นองค์อุปถัมภ์และแบบอย่างของศีลอภัยบาป (ร่วมกับนักบุญ ยอห์น มารีย์ เวียนเนย์) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ.1983 หลังจากท่านสิ้นชีวิตแล้ว 41 ปี ในวันที่ 12 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันฉลองนักบุญเลโอปอลโด มานดิช
ต่อไปนี้เป็นความรู้สึกที่อยากจะแบ่งปันของสมาชิกที่ได้ร่วมเข้าเงียบแสวงบุญกันในครั้งนี้ครับ 

   


     
     คุณพ่อคมทวน สุขสุทิพย์ “ชีวิตที่เรียบง่าย แต่เปี่ยมล้นไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ความศรัทธา และความเชื่อมั่นในองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านนักบุญอันตน แห่งปาดัว และนักบุญเลโอปอลโด มานดิช พระเจ้าองค์เดียวกันกับที่พวกเราคริสตชนได้เชื่อ ศรัทธา รัก ติดตาม ประกาศพระนามของพระองค์ในชีวิต ประจำวันนั้น ยังคงตอกย้ำความมั่นใจให้พวกเราได้สัมผัสถึงความรัก และพระอาณาจักรของพระองค์ มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ผ่านทางการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่างซื่อๆ เรียบง่าย แต่ทุ่มเททั้งหมดของชีวิตไป ที่องค์พระผู้เป็นเจ้า โดยมีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางของการดำเนินชีวิตของเราแต่ละคนนั่นเอง”

     

     คุณพ่อสิริชัย บุหงาสวรรค์ “ความประทับใจที่ได้รับคือพระประสงค์ที่ให้เราได้มาพบกันและเตรียมตัวเตรียมจิตใจเข้าสู่เทศกาล มหาพรต โดยการเดินตามแบบอย่างท่านนักบุญอันตน ที่จะเข้าใกล้กับพระองค์อาศัยพระวาจาใน การหล่อเลี้ยงชีวิตทุกวัน ด้วยความรัก และความเสียสละตนเองแม้กระทั่งชีวิต ทำให้เข้าใจความรัก ของพระ มายังเราเสมอ แม้ช่วงเวลาที่ยากลำบากก็ตาม พระองค์ไม่ได้ทอดทิ้งเราดูแลเราเสมอเป็นพิเศษ ในชีวิตต่างแดน ขอบคุณพระองค์”

 

     คุณพ่อศราวุธ แฮทู “ขอชื่นชมผู้ที่ได้ริเริ่มโครงการนี้ และขอบคุณทุกท่านที่ทำให้การพบปะกัน ในครั้งนี้ได้เกิดขึ้น เพราะว่า "การพบปะกันในครั้งทำให้เห็นและสัมผัสถึงความรัก ความเป็นพี่น้องกัน การแบ่งปัน และกำลังใจอย่างมากมาย" แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยคุณค่าและ ความหมายมากมายอย่างแท้จริง จากประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เข้าใจมากขึ้นว่า "ทำไมแม่พระจึงเสด็จ เยี่ยมนางเอลิซาเบ็ธ ทำไมนักบุญเปาโลถึงเขียนจดหมายถึงบรรดาคริสตชนของท่าน และทำไมการ เยี่ยมเยียนถึงมีความสำคัญ”

     คุณพ่อสุพัฒน์ หลิวศิริ “ขอบอกว่าได้รับความรู้ กำลังใจ และแบบอย่างการดำเนินชีวิตจาก บุคคลต่างๆ ที่ไปอยู่ด้วย เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ จริงๆ และที่สำคัญ... พระเจ้าทรงเดินทาง ไปกับเราด้วยเสมอ”

     อาจารย์พุฒิพงศ์ พุฒตาลศรี "ประทับใจในการได้ไปเยี่ยมสถานที่สำคัญในชีวิตของ นักบุญอันตน และรวมถึงการได้สัมผัสจิตตารมณ์ของนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี จากบรรดาภราดาและ ซิสเตอร์ในครอบครัวฟรังซิสกันที่ได้พบในการเดินทางครั้งนี้"

     คุณพ่อสุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ "ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งเดียวกับพระสงฆ์ไทยที่มาเรียนที่อิตาลี ในโอกาสเข้าเงียบและแสวงบุญที่ปาดัว รวมถึงได้ซึมซับรูปแบบชีวิตสงฆ?ในการไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์แบบ
นักบุญอันตนและนักบุญเลโอปอลโด อีกทั้งได้เห็นแบบอย่างที่ดีในการทำงานอภิบาลสัตบุรุษของคุณพ่อ ลอเรนโซ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในสังฆมณฑปาดัว และเห็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของสัตบุรุษในความ ศรัทธาต่อพระเป็นเจ้า และการมีน้ำใจต่อพวกเราชาวไทย ทำให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเองมาก"

ขอท่านนักบุญอันตน แห่งปาดัว และนักบุญเลโอปอลโด มานดิช ช่วยวิงวอน ขอพระแม่มารีย์ ช่วยคุ้มครองและขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องชาวไทยทุกคนครับ

 

โดย Peppino Ta’ Martedi
ข่าว / ภาพ : พุฒิพงศ์

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown