มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2025 สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา

     ในวัดแห่งหนึ่ง มีชายในกลุ่มนักขับร้องคนหนึ่ง ร้องเพลงไม่ค่อยดีนัก หัวหน้ากลุ่มแนะให้เขาลาออกจากกลุ่ม ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ เห็นว่ายังควรให้โอกาสเขาปรับปรุง แต่หัวหน้ากลุ่มตัดสินใจไปบ่นให้คุณพ่อเจ้าวัดฟัง พร้อมกับขู่ว่า “คุณพ่อต้องไล่คนนั้นออกนะ ไม่งั้นผมจะลาออกเอง” พ่อเจ้าวัดจึงไปหาชายคนนั้นและบอกว่า “พ่อคิดว่าคุณควรจะลาออกจากกลุ่มนักขับร้องนะ” ชายคนนั้นจึงถามว่า “ทำไมผมต้องลาออกด้วยล่ะครับ?” พ่อเจ้าวัดตอบว่า “คือมีสี่ห้าคนบอกพ่อว่าคุณร้องเพลงไม่ได้” ชายคนนั้นจึงตอบว่า “ถ้าอย่างนั้นเรื่องเล็กครับ เพราะมีคนตั้งสี่สิบห้าสิบคนบอกว่าคุณพ่อเทศน์ไม่ได้”
นี่เป็นเรื่องของคนที่ไม่น่าจะเหมาะกับงานทั้งนั้นเลย !
     พี่น้องครับ บทอ่านทั้งสามบทวันนี้แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าสามารถใช้คนที่ไม่น่าจะเหมาะสม ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพื่อทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จลุล่วงไปได้ !
บทอ่านแรกเป็นการเรียกประกาศกอิสยาห์ บทอ่านที่สองเป็นการเรียกนักบุญเปาโล และพระวรสารเป็นการเรียกนักบุญเปโตรและเพื่อนชาวประมง
     พี่น้องคิดว่าคนเหล่านี้รู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่ต่อหน้าพระเจ้า? ทุกคนต่างรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะสมด้วยกันทั้งนั้น
ประกาศกอิสยาห์พูดว่า “วิบัติจงเกิดแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากมีมลทิน อาศัยอยู่ในหมู่ชนชาติริมฝีปากมีมลทิน”
นักบุญเปาโลรู้สึกว่าตนเองไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นอัครสาวก เพราะท่านเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระเจ้า (1 คร 15:9)
ส่วนนักบุญเปโตรนั้นกราบลงที่พระชานุ (เข่า) ของพระเยซูเจ้า พูดว่า “โปรดไปจากข้าพเจ้าเสียเถิด พระเจ้าข้า เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป”
จะเห็นว่า ความรู้สึกแรกว่าตนเองไม่เหมาะสม คือเครื่องหมายที่แสดงว่าผู้นั้นได้พบปะกับพระเจ้าแล้ว ด้วยเหตุนี้ ความสุภาพถ่อมตนจึงเป็นคุณธรรมประการแรกและประการสำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่มีชีวิตภายในอย่างแท้จริง
     ส่วนคนที่คิดว่าตัวเองเหมาะสมหรือมีความสามารถ โดยเฉพาะคนที่คิดว่าตนเองเป็นคนดีเหนือคนอื่นแล้ว ก็เป็นเครื่องหมายเช่นเดียวกันว่าผู้นั้นยังไม่เคยพบปะกับพระเจ้าเป็นการส่วนตัว หรือยังไม่เคยรู้จักพระองค์มาก่อนเลย
     เมื่อใดก็ตามที่เรายอมรับว่าเราเป็นคนบาปและไม่เหมาะสมต่อหน้าพระเจ้า เมื่อนั้นพระองค์จะทรงยื่นพระหัตถ์มาหาเรา ยกบาปให้แก่เรา และทำให้เราสามารถรับใช้พระองค์ได้
     ในกรณีของประกาศกอิสยาห์ เสราฟตนหนึ่งถือคีมคีบถ่านที่ลุกอยู่มาจากแท่นบูชา มาสัมผัสปากของอิสยาห์ พูดว่า “ดูซิ สิ่งนี้สัมผัสริมฝีปากของท่านแล้ว ความผิดของท่านก็ถูกลบล้างแล้ว บาปของท่านก็ได้รับการอภัยแล้ว” (อสย 6:7)
     ในกรณีของนักบุญเปโตร พระเยซูเจ้าตรัสกับเปโตรว่า “อย่ากลัวเลย ตั้งแต่นี้ไป ท่านจะเป็นชาวประมงหามนุษย์” (ลก 5:10)
เราจะเห็นว่า คุณสมบัติที่ทำให้เราเหมาะสมกับงานของพระเจ้านั้น มิได้มาจากตัวเราเอง แต่เป็นเพราะพระหรรษทานของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ นักบุญเปาโลซึ่งเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรมาก่อน จึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นอย่างที่เป็นอยู่นี้ด้วยเดชะพระหรรษทานของพระเจ้า” (1 คร 15:10)
     นอกจากรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะสมแล้ว อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทั้งอิสยาห์ ทั้งเปาโล และทั้งเปโตร ซึ่งต่างก็ได้รับเรียกให้มาทำงานของพระเจ้า มีเหมือนกันก็คือ ความพร้อมที่จะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า และพร้อมที่จะปฏิบัติตามคำแนะนำของพระองค์
     ทันทีที่ประกาศกอิสยาห์ได้ยินเสียงของพระเจ้าถามว่า “เราจะส่งใคร ใครจะไปแทนเรา” ท่านทูลตอบทันทีว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด” (อสย 6:8)
ในกรณีของนักบุญเปโตรและเพื่อนร่วมงาน “พวกเขานำเรือกลับถึงฝั่ง แล้วละทิ้งทุกสิ่งติดตามพระองค์” (ลก 15:11)
     ส่วนนักบุญเปาโลนั้น ท่านอุทิศตนให้แก่งานของพระเจ้าด้วยความร้อนรน และทำงานหนักกว่าคนอื่น แต่ท่านก็ออกตัวด้วยว่า “มิใช่ข้าพเจ้า แต่เป็นเพราะพระหรรษทานของพระเจ้าซึ่งอยู่กับข้าพเจ้าที่ทำงาน” (1 คร 15:10)
ก็แปลว่า ลำพังความรู้สึกว่าตนเองไม่เหมาะสม ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เราเป็นผู้ที่พระเจ้าจะสามารถใช้งานได้ จำเป็นที่เราต้องพร้อมที่จะปฏิบัติตามที่พระองค์ทรงแนะนำเราด้วย
และเมื่อเราปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเจ้า สิ่งที่เราได้รับนั้นมันช่างยิ่งใหญ่จริงๆ อย่างเช่นในกรณีของนักบุญเปโตรที่จับปลาได้อย่างน่าอัศจรรย์
     เปโตรและเพื่อนชาวประมงทำงานหนักทั้งคืน แต่จับปลาไม่ได้เลย พวกเขาใช้ความชำนาญในอาชีพประมงของตนเอง หาแหล่งปลาและวิธีจับปลาด้วยตนเอง แต่ก็ต้องพบกับความล้มเหลว แต่เมื่อพวกเขาปฏิบัติตามคำแนะนำของพระเยซูเจ้า ซึ่งถ้าพูดกันตามประสามนุษย์ก็ต้องบอกว่าไม่มีเหตุผลเลยที่จะออกไปหาปลาตอนกลางวัน แต่ผลที่ได้รับนั้น เกินความคาดหวังจริงๆ พวกเขาจับปลาได้เต็มเรือทั้งสองลำ จนเรือเกือบจม
ทุกวันนี้ พระเจ้าก็ยังถามอยู่เสมอว่า “เราจะส่งใคร ใครจะไปแทนเรา” พระองค์ยังต้องการเราทุกคน ทั้งชายและหญิง ทั้งเด็กและเยาวชน เพื่อประกาศข่าวดีเรื่องความรักของพระเจ้าในวัดเช่นเดียวกับประกาศกอิสยาห์ หรือเพื่อประกาศข่าวดีในต่างแดนเช่นเดียวกับนักบุญเปาโล หรือเพื่อนำเพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน และทุกคนให้มารู้จักและติดตามพระเจ้าดังเช่นนักบุญเปโตร
      หากเรารู้สึกว่าตัวเราไม่เหมาะสมกับงานของพระเจ้า วันนี้ก็ขอให้รู้ไว้เถิดว่ากับคนที่รู้สึกเช่นนี้แหละที่พระเจ้าจะสามารถใช้งานได้ สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือความกล้าได้กล้าเสี่ยงที่จะตอบว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด” แล้วพระเจ้าจะทรงทำให้เราเป็นผู้ที่เหมาะสมสำหรับภารกิจของพระองค์ ดังที่พระองค์ทรงกระทำกับประกาศกอิสยาห์ กับนักบุญเปาโล และกับนักบุญเปโตร ดังที่เราได้ฟังในบทอ่านทั้งสามบทในวันนี้

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown