บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ที่ 31 ธันวาคม 2023 ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
- รายละเอียด
- หมวด: บทเทศน์สอน วันอาทิตย์ โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
- เขียนโดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
- ฮิต: 1042
พี่น้องครับ วันนี้พระศาสนจักรร่วมใจกันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 3 ท่านคือ พระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ และนักบุญโยเซฟ
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์แต่สมาชิกทุกคนก็ยังเป็นมนุษย์เหมือนเรา ต้องเผชิญกับปัญหาและความยากลำบากต่างๆ นานาเหมือนเรา ต้องแบกกางเขนเหมือนเรา
- เริ่มตั้งแต่แม่พระตั้งครรภ์ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า ก็เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกันจนนักบุญโยเซฟคิดจะถอนหมั้น
- เมื่อถึงเวลาจะต้องให้กำเนิดพระบุตรของพระเจ้า ก็ปรากฏว่าห้องพักในเบธเลเฮมเต็ม จนพระกุมารต้องไปเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์
- เมื่อพระกุมารบังเกิดมา ทั้งครอบครัวก็ต้องอพยพลี้ภัยหนีตายไปอียิปต์ ดินแดนซึ่งครั้งหนึ่งบรรดาบรรพบุรุษของตนเคยต้องตกเป็นทาส
- เมื่อพระกุมารอายุ 12 ขวบ พ่อกับแม่ก็ต้องตกอกตกใจสุดขีดเมื่อลูกหาย ต้องตามหาอยู่ 3 วันกว่าจะพบลูกอยู่ในพระวิหาร
- เมื่อเริ่มภารกิจ แม่พระก็ต้องเศร้าใจสุดขีดเมื่อญาติพี่น้องเห็นพระเยซูเจ้าอยู่กับประชาชนจนไม่เป็นอันกินอันนอน เลยกักตัวพระองค์ไว้เพราะคิดว่าพระองค์เสียสติ (เทียบ มก 3:20-21)
- แม่พระจะรู้สึกอย่างไรเมื่อลูกถูกกล่าวหาว่าเป็น “นักกินนักดื่ม เป็นเพื่อนกับคนเก็บภาษีและคนบาป” (ลก 7:34) และถูกบรรดาผู้นำของชาวยิวจ้องจะกำจัด
- ที่เศร้าที่สุดก็คือแม่พระต้องยืนดูลูกตายบนไม้กางเขน
เห็นไหมครับ ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องเผชิญกับปัญหาและความยากลำบากต่างๆ นานาเหมือนเรา แต่สิ่งที่ทำให้ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ยืนหยัดและฟันฝ่ากางเขนและความยากลำบากต่างๆ มาได้ก็คือ “รัก”
รักทั้งพระเจ้า และรักซึ่งกันและกัน
เราเห็นครอบครัวศักดิ์สิทธิ์รักพระเจ้าจากการนบนอบเชื่อฟังพระองค์
- แม่พระกล่าวกับทูตสวรรค์ของพระเจ้าว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก 1:38)
- นักบุญโยเซฟรับมารีย์มาเป็นภรรยาตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ (มธ 1:24) และพาพระกุมารกับพระมารดาหนีไปอียิปต์ (มธ 2:13-15)
- ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์พร้อมจะปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของพระเจ้าเช่นที่เราได้ฟังในพระวรสารวันนี้ นั่นคือ นำพระกุมารซึ่งเป็นบุตรชายคนแรกไปถวายแด่พระเจ้า และพาพระนางมารีย์ไปทำพิธีชำระมลทินหลังคลอดบุตรตามที่โมเสสได้บัญญัติไว้ (ลก 2:22-40)
- แม้แต่พระเยซูเจ้าเองก็ยังตรัสว่า “เราลงมาจากสวรรค์ มิใช่เพื่อทำตามใจของเรา แต่เพื่อทำตามพระประสงค์ของผู้ทรงส่งเรามา” (ยน 6:38)
เหล่านี้คือความรักที่ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์มีต่อพระเจ้า ซึ่งแสดงออกโดยการนบนอบเชื่อฟังพระองค์
นอกจากรักพระเจ้าแล้ว ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ยัง “รักซึ่งกันและกัน” อีกด้วย
- เมื่อแม่พระตั้งครรภ์ ทั้งคู่ต่างให้อภัยซึ่งกันและกันหลังจากเข้าใจกันผิดๆ
- ทั้งคู่ปกป้องคุมครองลูก ยอมละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อเห็นแก่ความปลอดภัยของบุตร
- ทั้งคู่ห่วงใยบุตร ตามหาบุตร ให้อภัยบุตร (พระมารดาทรงเก็บเรื่องทั้งหมดเหล่านี้ไว้ในพระทัย)
- อบรมสั่งสอนและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่บุตรในเรื่องความเชื่อ ความรัก และการปฏิบัติตามบัญญัติของพระเจ้า
(ทั้งพ่อและแม่รวมกันคือผู้มีส่วนสำคัญยิ่งในการเป็นแบบอย่างและเสริมสร้างความเชื่อให้แก่ผู้เป็นลูก หากพ่อแม่มีหน้าที่จัดหาสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตให้แก่ลูก เช่น อาหาร เสื้อผ้า ที่นอน ยารักษาโรค การศึกษา ฯลฯ แล้วยังจะมีสิ่งใดจำเป็นและสำคัญยิ่งยวดไปกว่าการปลูกฝัง “ความเชื่อในพระเจ้า” อันจะนำลูกไปสู่ชีวิตนิรันดรอีกเล่า ?!)
- ส่วนบุตรนั้นก็นบนอบเชื่อฟังบิดามารดา “พระเยซูเจ้าเสด็จกลับไปที่เมืองนาซาเร็ธกับบิดามารดาและเชื่อฟังท่านทั้งสอง” (ลก 2:51)
- ห่วงใยพระมารดา “เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเห็นพระมารดาและศิษย์ที่รักยืนอยู่ใกล้ๆ จึงตรัสกับพระมารดาว่า ‘แม่ นี่คือลูกของแม่’ แล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า ‘นี่คือแม่ของท่าน’” (ยน 19:26-27)
- ที่สำคัญ พระองค์ให้เวลากับครอบครัว 30 ปี และให้เวลากับภารกิจอันยิ่งใหญ่เพียง 3 ปี (10 ต่อ 1)
พี่น้องครับ ให้เราวอนขอครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ โปรดให้เราสามารถเอาชนะความยากลำบากต่างๆ และทำให้ครอบครัวของเราศักดิ์สิทธิ์ อาศัยความเชื่อและความรักในพระเจ้า รวมถึงความรักซึ่งกันและกันตามแบบอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเราร่วมใจกันฉลองในวันนี้ด้วยเทอญ