มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2023 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต

     เรื่องความหิวและกระหายนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งกับร่างกายและจิตใจเหมือนอย่างหญิงชาวสะมาเรียในพระวรสารวันนี้ ด้านร่างกาย นางกระหายน้ำจึงต้องมาตักน้ำที่บ่อน้ำของยาโคบทุกๆ วัน ส่วนด้านจิตใจนางก็กระหายมากด้วย นางมีสามีคนแล้วคนเล่าแต่ก็ยังไม่เคยพอใจ ตอนที่พบกับพระเยซูเจ้านั้น นางมีสามีแล้วหกคน แต่นางก็ยังบอกพระเยซูเจ้าว่า “ดิฉันไม่มีสามี” ซึ่งเป็นไปได้ว่านางกำลังหาคนที่เจ็ดอยู่
     ทั้งๆ ที่ชาวยิวกับชาวสะมาเรียมีเรื่องบาดหมางไม่ติดต่อกันมาเป็นเวลานานสี่ร้อยกว่าปี จนหญิงนางนั้นพูดกับพระเยซูเจ้าว่า “ท่านเป็นชาวยิว ทำไมจึงขอน้ำดื่มจากดิฉันซึ่งเป็นชาวสะมาเรียเล่า” แต่พระเยซูเจ้าทรงทำให้ข้อจำกัดเรื่องเชื้อชาติที่มนุษย์เราสร้างขึ้นมาให้หมดไป พระองค์ทรงสนทนากับหญิงผู้นี้ยาวที่สุดเท่าที่มีบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ จนบรรดาศิษย์ที่กลับจากซื้ออาหารยังรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามว่าพระองค์พูดอะไร หรือทำไมจึงพูดกับนาง
ที่น่าสังเกตก็คือ พระเยซูเจ้าไม่ได้ทรงตำหนิหรือว่ากล่าวนางเลย เมื่อนางบอกว่า “ดิฉันไม่มีสามี” พระองค์ก็ยอมรับนางอย่างที่นางเป็น “เธอพูดถูกแล้วที่ว่า ‘ดิฉันไม่มีสามี’”
     นอกจากไม่ตำหนิแล้ว พระองค์ยังทรงเพียรทนอธิบายข้อสงสัยเกี่ยวกับการนมัสการพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า “พระเจ้าทรงเป็นจิต ผู้ที่นมัสการพระองค์ จะต้องนมัสการด้วยจิตและตามความจริง” และที่สำคัญพระองค์บอกนางว่า “เราที่กำลังพูดอยู่กับเธอคือพระเมสสิยาห์”
     นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของนางที่ได้พบกับคนที่เข้าใจนางอย่างแท้จริงและสามารถดับความหิวกระหายฝ่ายจิตใจของนางได้ และด้วยความตื่นเต้นประทับใจอย่างสุดซึ้ง นางลืมไหน้ำ ลืมแม้กระทั่งความหิวกระหายน้ำ แล้ววิ่งกลับเข้าไปในเมือง ไปบอกชาวเมืองว่า “มาเถิด มาดูชายคนหนึ่งที่บอกทุกอย่างที่ดิฉันเคยทำ”
     พระเยซูเจ้าเป็นคนเดียวที่รู้จักนางจริงๆ และทรงยอมรับนางพร้อมกับให้อภัยนางอย่างไม่มีเงื่อนไข
ด้วยเหตุนี้ในจดหมายถึงชาวโรม นักบุญเปาโลจึงบอกว่า อาจมีบางคนยอมตายเพื่อคนดีจริงๆ ได้ แต่พระเยซูเจ้าทรงยอมตายเพื่อเราทั้งๆ ที่เราเป็นคนบาป
นี่คือความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า!
     สิ่งที่พอจะเปรียบเทียบกับความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าได้ก็คือความรักของแม่ที่มีต่อทารกน้อยของตน
ตอนเป็นทารก ไม่ว่าทารกนั้นจะอ้วน จะผอม จะขี้โรค หรือจะน่าเกลียดอย่างไร แม่ก็ยังคงรักและทะนุถนอมทั้งขณะหลับ ขณะตื่น ขณะหัวเราะ หรือขณะร้องไห้ก็ตาม
ในพระธรรมเก่า ประกาศกอิสยาห์ก็เปรียบความรักอันไม่มีเงื่อนไขที่พระเจ้าทรงมีต่อประชากรที่พระองค์ทรงเลือกสรรเหมือนแม่ที่มีต่อลูกเช่นกัน พระเจ้าตรัสผ่านอิสยาห์ว่า “หญิงคนหนึ่งจะลืมบุตรที่ยังกินนม และจะไม่สงสารบุตรที่เกิดจากครรภ์ของนางได้หรือ แม้หญิงเหล่านี้จะลืมได้ เราจะไม่มีวันลืมเจ้าเลย” (อสย 49:15)
     จะเห็นว่าพระเจ้าทรงรักเราแบบไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าเราจะมีคุณสมบัติอย่างไรหรือทำผิดอะไรก็ตาม แต่น่าเสียดายที่ความรักของเราส่วนใหญ่เป็นความรักที่มีเงื่อนไข
เพราะเมื่อทารกเริ่มโตเป็นเด็ก พ่อแม่ก็เริ่มรักลูกแบบมีเงื่อนไข แม่จะรักและให้รางวัลลูกก็ต่อเมื่อลูกทำความสะอาดและจัดห้องให้เป็นระเบียบ พ่อจะซื้อของขวัญให้ก็ต่อเมื่อลูกประพฤติดี เรียนเก่ง เป็นต้น
เราเริ่มเคยชินกับการให้และการรับความรักเมื่อมันเข้ากับเงื่อนไขของเรา และที่สุดมันก็เป็นการยากที่เราจะมีความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
     แต่ข่าวดีก็คือ พระเจ้าทรงรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข พระองค์ทรงส่งพระเยซูเจ้า พระบุตรของพระองค์ มาตายแทนเราเพื่อให้เราเป็นอิสระจากบาปและความตาย
     กระนั้นก็ตาม แม้ว่าพระเจ้าจะทรงรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่เราก็จำเป็นต้องกลับใจ ต้องสวดภาวนา ต้องทำพลีกรรม และต้องรักเพื่อนบ้าน ไม่ใช่เพื่อจะได้รับความรักจากพระองค์ แต่เพื่อแสดงความกตัญญูและตอบแทนความรักที่พระองค์ทรงมีต่อเรา
ในวันพุธรับเถ้า ระหว่างรับเถ้า เราได้ยินพระสงฆ์กล่าวว่า “จงกลับใจและเชื่อข่าวดีเถิด” วันนี้คือวันดีที่เราจะกลับใจ
     วันนี้คือวันดีที่เราจะเปิดหัวใจของเรายอมรับความรักอันไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้า และหากวันนี้ใจของเราเปิดแล้ว ก็ขอให้เรายิ่งวันยิ่งกตัญญูต่อพระองค์ ด้วยการรักพระองค์ และรักทุกคนที่เราติดต่อสัมพันธ์ด้วยอย่างไม่มีเงื่อนไข เหมือนอย่างที่พระเยซูเจ้าทรงปฏิบัติต่อหญิงชาวสะมาเรียผู้นี้ด้วยเทอญ

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown