มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

บทเทศน์สอนวันอาทิตย์ สมโภชนักบุญทั้งหลาย

     วันนี้เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย พี่น้องคงสงสัยว่าทำไมต้องมีวันสมโภชนี้ด้วยเพราะตลอดทั้งปีเราก็มีวันฉลองนักบุญต่างๆ อยู่แล้ว อย่างเช่นเดือนตุลาคมที่พึ่งจะผ่านมา วันที่ 1 เราก็ฉลองนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู วันที่ 4 เราฉลองนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี วันที่ 15 เราฉลองนักบุญเทเรซาแห่งอาวีลา วันที่ 18 เราฉลองนักบุญลูกา ผู้นิพนธ์พระวรสาร และวันที่ 28 ที่ผ่านมาเราก็ฉลองนักบุญซีโมนและยูดาห์ อัครสาวก

     ทั้งๆ ที่มีวันฉลองนักบุญแต่ละองค์อยู่แล้ว แต่พระศาสนจักรก็ยังจัดให้มีวันสมโภชนักบุญทั้งหลายอีกด้วย คงเป็นเพราะเหตุผล 2 ประการด้วยกันคือ

     ประการแรก จำนวนนักบุญที่มีวันฉลองเฉพาะในแต่ละปีและมีรายชื่ออยู่ในทำเนียบทางการของพระศาสนจักรคาทอลิกจวบจนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2019 มีเพียงหยิบมือเดียวคือ 864 องค์ ในขณะที่ยังมีนักบุญและมรณสักขีอื่นๆ รวมถึงชายหญิงและเด็กๆ อีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้อยู่ร่วมกับพระเจ้าในสวรรค์แล้ว ซึ่งเราไม่ได้ฉลอง คนเหล่านี้อาจจะเป็นพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของเราเองก็ได้

     วันนี้เราจึงระลึกถึงบุคคลเหล่านี้ เราอาจจะเรียกวันสมโภชนี้ว่าเป็นวันสมโภชนักบุญนิรนามซึ่งมีอยู่มากมายก็ได้ ดังที่หนังสือวิวรณ์ในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้บอกว่า “ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษา กำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์ และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม” (วว 7:9)

     ประการที่สอง วันสมโภชวันนี้ ยังทำให้เราพอจะมองเห็นอนาคตของเรา และยังช่วยปลุกความหวังในอนาคตตลอดนิรันดรของเราให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งด้วย เพราะบรรดานักบุญทั้งที่ได้รับการแต่งตั้งและมีวันฉลองเฉพาะของตน รวมถึงที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งหรือไม่มีวันฉลองเฉพาะ ครั้งหนึ่งพวกเขาก็เป็นมนุษย์ชายหญิงเหมือนเรา สถานที่ที่เราอยู่ตอนนี้พวกเขาก็เคยอยู่ และสถานที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ เราก็หวังที่จะไปอยู่ด้วยสักวันหนึ่ง

     พี่น้องครับ ในฐานะที่เป็นคริสตชน เรารู้ดีว่าชีวิตของเรานั้นไม่ได้จำกัดอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่เราเกิดกับวันที่เราตายเท่านั้น แต่ว่ามันเริ่มตั้งแต่ก่อนเราเกิด ตอนที่เรายังอยู่ในครรภ์ของมารดา แล้วก็ต่อเนื่องเลยไปจากวันตายของเรา ไปสู่นิรันดร์กาลด้วย และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เราไม่ลืมบรรดาผู้ล่วงลับ เรามีมิสซาระลึกถึงผู้ล่วงลับทุกวันที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน และทุกวัดที่มีสุสานก็ยังจัดให้มีพิธีเสกสุสานเพื่อเราจะได้ระลึกถึงบรรดาบรรพบุรุษและญาติสนิทมิตรสหายของเราเป็นพิเศษอีกด้วย

      นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูบอกไว้ว่า ท่านจะใช้เวลาไม่ใช่เฉพาะในโลกนี้ แต่ตลอดนิรันดร เพื่อทำสิ่งดีๆ ให้กับโลก ในสายตาของผู้ไม่มีความเชื่ออาจจะบอกว่าท่านนักบุญตายจากเราไปแล้ว แต่ในสายตาของผู้มีความเชื่อ ท่านมีชีวิตมากกว่าอีก ท่านมีชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมในพระเจ้า เป็นชีวิตที่ไม่ต้องทนทุกข์ ไม่ต้องเจ็บป่วย ไม่ต้องทำบาป และไม่ต้องตายอีกต่อไป เป็นชีวิตแบบที่นักบุญยอห์นบอกเราในบทอ่านที่สองว่า “เราจะเป็นเหมือนพระเจ้า เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น” (1 ยน 3:2)

     แต่พี่น้องครับ ใช่ว่าการมีชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมเหมือนพระเจ้า จะเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติหลังรับศีลล้างบาป พระเยซูเจ้าตรัสว่า “คนที่กล่าวแก่เราว่า ‘พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้” (มธ 7:21)

ปัญหาคือเราจะดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าในสวรรค์ได้อย่างไร?

คำตอบอยู่ในพระวรสารวันนี้ !

     ในพระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงให้โรดแมปหรือหนทางที่จะนำเราไปสู่ความสุขตลอดนิรันดรแก่เรา นั่นคือหนทางของความสุขแท้จริงแปดประการ

      บรรดานักบุญที่เราสมโภชในวันนี้ต่างก็เลือกเดินตามทนทางแปดประการนี้ ซึ่งแม้จะแคบและยากลำบาก แต่หนทางนี้ก็นำพาพวกท่านไปสู่ความสุขนิรันดรในสวรรค์

     วันสมโภชนักบุญทั้งหลายจึงเป็นโอกาสดีที่จะเชิญชวนเราและกระตุ้นเราให้เดิน แล้วก็เดิน เดินตามหนทางที่นักบุญเหล่านี้เดิน ไม่ใช่แค่ฟังหรือพูดเท่านั้น

     หนทางที่เราต้องเดินก็คือ ให้เราเป็นผู้ที่เมตตาสงสารบรรดาคนยากจนและคนที่โศกเศร้า ให้เราเป็นผู้ที่มีใจสุภาพอ่อนโยนและหิวกระหายที่จะทำความดี ให้เราเป็นผู้ที่มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์และมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติในการติดต่อกับผู้อื่น กับคนในครอบครัวของเรา และกับทุกคนในสังคมของเราด้วย แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เราถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะหรือถูกเบียดเบียนก็ตาม

      พี่น้องครับ นักบุญทั้งหลายที่เราสมโภชในวันนี้ ไม่มีผู้ใดเลยที่ตั้งเป้าหมายชีวิตของตนไว้ว่าจะต้องมั่งคั่งร่ำรวย จะต้องมีชื่อเสียงและเกียรติยศ หรือจะต้องมีอำนาจยิ่งใหญ่คับฟ้า แต่ท่านเหล่านี้ล้วนตั้งเป้าหมายไว้ที่ความสุขแท้จริงและรางวัลในสวรรค์ที่พระเจ้าจะทรงโปรดประทานให้ในบั้นปลายชีวิต

     ในมิสซาวันนี้ ให้เราวอนขอพระเยซูเจ้าผ่านทางท่านนักบุญทั้งหลาย โปรดให้เราเดิน และเดินตามหนทางที่ท่านเหล่านี้ได้เดิน คือหนทางของความสุขแท้จริงทั้งแปดประการ แม้หนทางนี้จะแคบและยากลำบากก็ตาม ขอพระองค์โปรดประทานความเชื่อ ความหวัง และความกล้าหาญให้เราก้าวเดิน เพื่อว่าเมื่อชีวิตของเราในโลกนี้สิ้นสุดลง เราจะได้ไปอยู่ร่วมกับท่านนักบุญในสวรรค์ และได้ฟังพระสุรเสียงอันอ่อนโยนของพระองค์ที่ว่า “ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด” (มธ 25:21)

 

วันนี้เราสมโภชนักบุญทั้งหลาย พี่น้องคงสงสัยว่าทำไมต้องมีวันสมโภชนี้ด้วยเพราะตลอดทั้งปีเราก็มีวันฉลองนักบุญต่างๆ อยู่แล้ว อย่างเช่นเดือนตุลาคมที่พึ่งจะผ่านมา วันที่ 1 เราก็ฉลองนักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซู วันที่ 4 เราฉลองนักบุญฟรังซิส แห่งอัสซีซี วันที่ 15 เราฉลองนักบุญเทเรซาแห่งอาวีลา วันที่ 18 เราฉลองนักบุญลูกา ผู้นิพนธ์พระวรสาร และวันที่ 28 ที่ผ่านมาเราก็ฉลองนักบุญซีโมนและยูดาห์ อัครสาวก

ทั้งๆ ที่มีวันฉลองนักบุญแต่ละองค์อยู่แล้ว แต่พระศาสนจักรก็ยังจัดให้มีวันสมโภชนักบุญทั้งหลายอีกด้วย คงเป็นเพราะเหตุผล 2 ประการด้วยกันคือ

ประการแรก จำนวนนักบุญที่มีวันฉลองเฉพาะในแต่ละปีและมีรายชื่ออยู่ในทำเนียบทางการของพระศาสนจักรคาทอลิกจวบจนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2019 มีเพียงหยิบมือเดียวคือ 864 องค์ ในขณะที่ยังมีนักบุญและมรณสักขีอื่นๆ รวมถึงชายหญิงและเด็กๆ อีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้อยู่ร่วมกับพระเจ้าในสวรรค์แล้ว ซึ่งเราไม่ได้ฉลอง คนเหล่านี้อาจจะเป็นพ่อแม่หรือปู่ย่าตายายของเราเองก็ได้

วันนี้เราจึงระลึกถึงบุคคลเหล่านี้ เราอาจจะเรียกวันสมโภชนี้ว่าเป็นวันสมโภชนักบุญนิรนามซึ่งมีอยู่มากมายก็ได้ ดังที่หนังสือวิวรณ์ในบทอ่านที่หนึ่งวันนี้บอกว่า ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษา กำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์ และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม (วว 7:9)

ประการที่สอง วันสมโภชวันนี้ ยังทำให้เราพอจะมองเห็นอนาคตของเรา และยังช่วยปลุกความหวังในอนาคตตลอดนิรันดรของเราให้ลุกโชติช่วงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งด้วย เพราะบรรดานักบุญทั้งที่ได้รับการแต่งตั้งและมีวันฉลองเฉพาะของตน รวมถึงที่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งหรือไม่มีวันฉลองเฉพาะ ครั้งหนึ่งพวกเขาก็เป็นมนุษย์ชายหญิงเหมือนเรา สถานที่ที่เราอยู่ตอนนี้พวกเขาก็เคยอยู่ และสถานที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้ เราก็หวังที่จะไปอยู่ด้วยสักวันหนึ่ง

พี่น้องครับ ในฐานะที่เป็นคริสตชน เรารู้ดีว่าชีวิตของเรานั้นไม่ได้จำกัดอยู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่เราเกิดกับวันที่เราตายเท่านั้น แต่ว่ามันเริ่มตั้งแต่ก่อนเราเกิด ตอนที่เรายังอยู่ในครรภ์ของมารดา แล้วก็ต่อเนื่องเลยไปจากวันตายของเรา ไปสู่นิรันดร์กาลด้วย และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เราไม่ลืมบรรดาผู้ล่วงลับ เรามีมิสซาระลึกถึงผู้ล่วงลับทุกวันที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน และทุกวัดที่มีสุสานก็ยังจัดให้มีพิธีเสกสุสานเพื่อเราจะได้ระลึกถึงบรรดาบรรพบุรุษและญาติสนิทมิตรสหายของเราเป็นพิเศษอีกด้วย

นักบุญเทเรซาแห่งพระกุมารเยซูบอกไว้ว่า ท่านจะใช้เวลาไม่ใช่เฉพาะในโลกนี้ แต่ตลอดนิรันดร เพื่อทำสิ่งดีๆ ให้กับโลก ในสายตาของผู้ไม่มีความเชื่ออาจจะบอกว่าท่านนักบุญตายจากเราไปแล้ว แต่ในสายตาของผู้มีความเชื่อ ท่านมีชีวิตมากกว่าอีก ท่านมีชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมในพระเจ้า เป็นชีวิตที่ไม่ต้องทนทุกข์ ไม่ต้องเจ็บป่วย ไม่ต้องทำบาป และไม่ต้องตายอีกต่อไป เป็นชีวิตแบบที่นักบุญยอห์นบอกเราในบทอ่านที่สองว่า “เราจะเป็นเหมือนพระเจ้า เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น” (1 ยน 3:2)

แต่พี่น้องครับ ใช่ว่าการมีชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมเหมือนพระเจ้า จะเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติหลังรับศีลล้างบาป พระเยซูเจ้าตรัสว่า คนที่กล่าวแก่เราว่า พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้(มธ 7:21)

ปัญหาคือเราจะดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้าในสวรรค์ได้อย่างไร?

คำตอบอยู่ในพระวรสารวันนี้ !

ในพระวรสารวันนี้พระเยซูเจ้าทรงให้โรดแมปหรือหนทางที่จะนำเราไปสู่ความสุขตลอดนิรันดรแก่เรา นั่นคือหนทางของความสุขแท้จริงแปดประการ

บรรดานักบุญที่เราสมโภชในวันนี้ต่างก็เลือกเดินตามทนทางแปดประการนี้ ซึ่งแม้จะแคบและยากลำบาก แต่หนทางนี้ก็นำพาพวกท่านไปสู่ความสุขนิรันดรในสวรรค์

วันสมโภชนักบุญทั้งหลายจึงเป็นโอกาสดีที่จะเชิญชวนเราและกระตุ้นเราให้เดิน แล้วก็เดิน เดินตามหนทางที่นักบุญเหล่านี้เดิน ไม่ใช่แค่ฟังหรือพูดเท่านั้น

หนทางที่เราต้องเดินก็คือ ให้เราเป็นผู้ที่เมตตาสงสารบรรดาคนยากจนและคนที่โศกเศร้า ให้เราเป็นผู้ที่มีใจสุภาพอ่อนโยนและหิวกระหายที่จะทำความดี ให้เราเป็นผู้ที่มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์และมุ่งมั่นที่จะสร้างสันติในการติดต่อกับผู้อื่น กับคนในครอบครัวของเรา และกับทุกคนในสังคมของเราด้วย แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้เราถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะหรือถูกเบียดเบียนก็ตาม

พี่น้องครับ นักบุญทั้งหลายที่เราสมโภชในวันนี้ ไม่มีผู้ใดเลยที่ตั้งเป้าหมายชีวิตของตนไว้ว่าจะต้องมั่งคั่งร่ำรวย จะต้องมีชื่อเสียงและเกียรติยศ หรือจะต้องมีอำนาจยิ่งใหญ่คับฟ้า แต่ท่านเหล่านี้ล้วนตั้งเป้าหมายไว้ที่ความสุขแท้จริงและรางวัลในสวรรค์ที่พระเจ้าจะทรงโปรดประทานให้ในบั้นปลายชีวิต

ในมิสซาวันนี้ ให้เราวอนขอพระเยซูเจ้าผ่านทางท่านนักบุญทั้งหลาย โปรดให้เราเดิน และเดินตามหนทางที่ท่านเหล่านี้ได้เดิน คือหนทางของความสุขแท้จริงทั้งแปดประการ แม้หนทางนี้จะแคบและยากลำบากก็ตาม ขอพระองค์โปรดประทานความเชื่อ ความหวัง และความกล้าหาญให้เราก้าวเดิน เพื่อว่าเมื่อชีวิตของเราในโลกนี้สิ้นสุดลง เราจะได้ไปอยู่ร่วมกับท่านนักบุญในสวรรค์ และได้ฟังพระสุรเสียงอันอ่อนโยนของพระองค์ที่ว่า ดีมาก ผู้รับใช้ที่ดีและซื่อสัตย์ เจ้าซื่อสัตย์ในสิ่งเล็กน้อย เราจะให้เจ้าจัดการในเรื่องใหญ่ๆ จงมาร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด (มธ 25:21)

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown