มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED
HOT NEWS
ขอเรียนเชิญร่วมฉลองวัด วัดนักบุญยอแซฟ ห้: ขอเรียนเชิญร่วมฉลองวัด วัดนักบุญยอแซฟ ห้วยหวด จ.สกลนคร ในวันเสาร์ที่ 27 เมษายน 2024 เวลา 10.00 น. โดย พระอัครสังฆราชอันตน วีระเดช ใจเสรี ประธานในพิธี ขอเชิญพี่น้องคริสตชนไทยร่วมโมทนาคุณพระเจ: วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ "เสกวัด"  โดย พระสังฆราช ซิลวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี   วันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น.  พิธีเปิด โดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู ร่วมด้วย พระอัครสังฆราช ปีเตอร์ ไบรอัน เวลส์ เอกอัครสมณฑูตนครรัฐวาติกัน ประจำประเทศไทย   นพวารเตรียมฉลอง โดย พระสังฆราช ตามวันและเวลาที่ระบุ ขอเชิญพี่น้องทุกท่าน ร่วมพิธีบูชาขอบพระค: ขอเชิญพี่น้องทุกท่าน ร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณโอกาสขอบพระคุณ และอำลาคุณพ่อทั้ง 2 เพื่อไปประกอบพันธกิจหน้าที่ใหม่ตามประกาศโยกย้าย ( หลังมิสซาขอเชิญร่วมรับประทานอาหาร ณ ศาลายออากิม ) ขอเรียนเชิญร่วมโมทนาคุณพระเจ้าในพิธีบูชา: ขอเรียนเชิญร่วมโมทนาคุณพระเจ้าในพิธีบูชาขอบพระคุณ โอกาสเปิด-เสกวัด บ้านพักพระสงฆ์ และศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ ณ วัดพระหฤทัยพระเยซูเจ้าเขมราฐ จ.อุบลราชธานี ในวันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม 2024 ตั้งแต่เวลา 9.00 น. โดย พระสังฆราชสเตเฟน บุญเลิศ พรหมเสนา เป็นประธาน ขอเชิญร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ และแห่พระธาต: ขอเชิญร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ และแห่พระธาตุบุญราศีทั้ง 7 แห่งสองคอน ณ สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขี สองคอน วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม 2024 เวลา 15.00 น.  โดย คุณพ่อ ฉัตรชัย นิลเขต ประธานในพิธี

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2017 สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                              อสย 55:9-10
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ฝนและหิมะลงมาจากท้องฟ้า และไม่กลับไปที่นั่นถ้าไม่ได้รดแผ่นดิน ทำให้แผ่นดินอุดม ทำให้พืชงอกขึ้น เพื่อให้ผู้หว่านมีเมล็ดพันธุ์ และให้ผู้กินมีอาหารฉันใด ถ้อยคำที่ออกจากปากของเรา จะไม่กลับมาหาเราโดยไม่เกิดผล ไม่ทำตามที่เราปรารถนา และไม่บรรลุจุดประสงค์ที่เราส่งมาฉันนั้น”

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม      รม 8:18-23
     พี่น้อง ข้าพเจ้าคิดว่า ความทุกข์ทรมานในปัจจุบันเปรียบไม่ได้เลยกับพระสิริรุ่งโรจน์ที่จะทรงบันดาลให้ปรากฏแก่เรา เพราะสรรพสิ่งต่างกำลังรอคอยอย่างกระวนกระวาย เพื่อพระเจ้าจะได้ทรงบันดาลให้บรรดาบุตรของพระองค์ปรากฏในพระสิริรุ่งโรจน์ สรรพสิ่งต้องอยู่ใต้อำนาจของความไม่เที่ยงแท้มิใช่โดยสมัครใจ แต่ตามความประสงค์ของผู้ที่บังคับให้สรรพสิ่งต้องอยู่ในสภาพดังกล่าว ถึงกระนั้น สรรพสิ่งยังมีความหวังว่า จะได้รับการปลดปล่อยจากการเป็นทาสของความเสื่อมสลายเพื่อไปรับอิสรภาพอันรุ่งเรืองของบรรดาบุตรของพระเจ้า เรารู้ดีว่า จนถึงเวลานี้ สรรพสิ่งกำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดราวกับสตรีคลอดบุตร มิใช่เพียงแต่สรรพสิ่งเท่านั้น แม้แต่เราเองซึ่งได้รับผลิตผลครั้งแรกของพระจิตเจ้าแล้ว ก็ยังคร่ำครวญอยู่ภายใน ในเมื่อเรามีความกระตือรือร้นรอคอยให้พระเจ้าทรงรับเราเป็นบุตรบุญธรรม ให้ร่างกายของเราได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                 มธ 13:1-23
    วันเดียวกันนั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากบ้านมาประทับที่ริมทะเลสาบ ประชาชนจำนวนมากมาเฝ้าพระองค์ พระองค์จึงเสด็จไปประทับอยู่ในเรือ ส่วนประชาชนยืนอยู่บนฝั่ง พระองค์ตรัสสอนเขาหลายเรื่องเป็นอุปมา
พระองค์ตรัสว่า “จงฟังเถิด ชายคนหนึ่งออกไปหว่านเมล็ดพืช ขณะที่เขากำลังหว่านอยู่นั้น บางเมล็ดตกอยู่ริมทางเดิน นกก็จิกกินจนหมด บางเมล็ดตกบนพื้นหินที่มีดินเล็กน้อย ก็งอกขึ้นทันทีเพราะดินไม่ลึก แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น ก็ถูกแดดเผาและเหี่ยวแห้งไปเพราะไม่มีราก บางเมล็ดตกในพงหนาม ต้นหนามก็ขึ้นคลุมไว้ ทำให้เหี่ยวเฉาตายไป บางเมล็ดตกในที่ดินดี จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง ใครมีหู ก็จงฟังเถิด”
บรรดาศิษย์เข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “ทำไมพระองค์ตรัสแก่พวกเขาเป็นอุปมา” พระองค์ทรงตอบว่า “พระเจ้าประทานธรรมล้ำลึกเรื่องอาณาจักรสวรรค์ให้ท่านทั้งหลายรู้ แต่ไม่ได้ประทานให้แก่ผู้อื่น เพราะผู้ที่มีมากจะได้รับมากขึ้นจนเหลือเฟือ ส่วนผู้ที่มีน้อย จะถูกริบสิ่งเล็กน้อยที่มีไปด้วย ดังนั้น เรากล่าวแก่คนเหล่านี้เป็นอุปมา ถึงแม้พวกเขามองดู ก็ไม่เห็น แม้ฟังก็ไม่ได้ยินและไม่เข้าใจ สำหรับคนเหล่านี้ คำทำนายของประกาศกอิสยาห์ก็เป็นความจริง ที่ว่า
‘ท่านทั้งหลายจะฟังแล้วฟังเล่า แต่จะไม่เข้าใจ
จะมองแล้วมองเล่า แต่จะไม่เห็น
เพราะจิตใจของประชาชนนี้แข็งกระด้าง
เขาทำหูทวนลม และปิดตาเสีย
เพื่อไม่ต้องมองด้วยตา ไม่ต้องฟังด้วยหู
จะได้ไม่เข้าใจ
จะได้ไม่ต้องกลับใจ เราจะได้ไม่ต้องรักษาเขา’
ส่วนท่านทั้งหลาย ตาของท่านเป็นสุขที่มองเห็น หูของท่านเป็นสุขที่ได้ฟัง เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ประกาศกและผู้ชอบธรรม จำนวนมากปรารถนาจะเห็นสิ่งที่ท่านได้เห็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้เห็น ปรารถนาจะได้ฟังสิ่งที่ท่านฟังอยู่ แต่ก็ไม่ได้ฟัง
ดังนั้น จงฟังความหมายของอุปมาเรื่องผู้หว่านเถิด เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่านลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง เมล็ดที่ตกบนหินคือผู้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที เมล็ดที่ตกในพงหนามหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ เข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล ส่วนเมล็ดที่หว่านลงในดินดี หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาและเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”

 

ข้อคิด
     ตัวแปรสำคัญที่ทำให้พระวาจาของพระเจ้าไม่เติบโตในจิตใจ ก็คือจิตใจของผู้รับฟังนั่นเอง จริงอยู่ตัวแปรอาจเป็นว่าผู้อ่านอ่านไม่ดี เครื่องเสียงไม่มีคุณภาพ คุณพ่ออธิบายไม่กระจ่าง แต่พระวาจาของพระเจ้านั้นทรงฤทธิ์ เพียงแค่ฟังก็สามารถชำระล้างหู ชำระล้างจิตใจ เพียงแค่อ่านอย่างตั้งใจก็ชำระล้างริมฝีปากและเพียงแค่คิดตามก็ชำระดวงตาให้ มองเห็นทาง ชำระสติปัญญาให้สามารถเข้าใจ ปัญหาจึงอยู่ที่ความพร้อมของผู้ฟังว่าจะฟังหรือไม่ เมื่อมีข้าวของเงินทองมาบดบังสมาธิเราก็กลายเป็นพื้นดินที่มีวัชพืชปกคลุม ทันที แต่พระเป็นเจ้าทรงเรียกร้องว่าเราต้องฟังอย่างตั้งใจเพื่อจะได้บังเกิดผล มีบางคนไม่อยากฟัง ฟังแล้วต้องกลับใจ กลับใจแล้วทำให้ต้องเลิกทำบาปที่ตัวเองชอบ เราเป็นเช่นนั้นหรือไม่?

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown