มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED
HOT NEWS
ประกาศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เรื่องการแต่ง: ประกาศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เรื่องการแต่งตั้งพระสงฆ์เข้าดำรงตำแหน่งหน้าที่           สมโภชปัสกา ณ วัดดวงหทัยนิรมลของแม่พระ ปา: วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2025 สมโภชปัสกา ณ วัดดวงหทัยนิรมลของแม่พระ ปากลัด ภาพเพิ่มเติม... ขอเชิญร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณแด่ดวงพระวิญญ: ขอเชิญร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณแด่ดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ::ตั้งแต่วันที่ 23-27 เมษายน 2025 ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ หลังพิธีบูชาขอบพระคุณมีวจนพิธีกรรมอุทิศแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส งานแถลงข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสัน: งานแถลงข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสวันที่ 22 เมษายน 2025 ณ สำนักมิสซังโรมันคาทอลิก อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เวลา 17.30 น. สภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดงานแถลงข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2025 ด้วยพระชนมายุ 88 ปี.โดยการแถลงข่าวในครั้งนี้ นำโดยพระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ (ประธานสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย) ร่วมกับ ซิสเตอร์อันนา โรซา พระญาติ (น้องสาว) ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส, บาทหลวงสุวัฒน์ เหลืองสอาด รองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย, บาทหลวงอนุชา ไชยเดช ผู้อำนวยการสื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย และ ดร.ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย อดีตที่ปรึกษาสมณกระทรวงสื่อสารสังคม นครรัฐวาติกัน.ช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว พระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อา พิธีบูชาขอบพระคุณ สมโภชปัสกา อาสนวิหารอั: พิธีบูชาขอบพระคุณ สมโภชปัสกา วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2025 เวลา 08.30 น.ณ อาสนวิหารอัสสัมชัญ บางรักโดยพระอัครสังฆราช ฟรังซิสเซเวียร์ วีระ อาภรณ์รัตน์ เป็นประธาน

                                     

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน 2016 สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์                              อสย 2:1-5
     นิมิตที่ประกาศกอิสยาห์ บุตรของอามอสเห็นเกี่ยวกับยูดาห์และกรุงเยรูซาเล็ม ในยุคสุดท้าย ภูเขาแห่งพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะถูกตั้งขึ้นเหนือยอดภูเขาทั้งหลาย และจะสูงกว่าบรรดาเนินเขา นานาชาติจะหลั่งไหลมาที่ภูเขานี้ ชนหลายชาติจะมาและกล่าวว่า “มาเถิด เราจงขึ้นไปยังภูเขาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ไปยังพระวิหารพระเจ้าของยาโคบ แล้วพระองค์จะทรงสอนวิถีทางของพระองค์ให้เรา เราจะได้เดินตามมรรคาของพระองค์ เพราะว่าบทบัญญัติจะออกมาจากศิโยน และพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะออกมาจากกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จะทรงพิพากษาบรรดาประชาชาติ และจะทรงวินิจฉัยประชากรจำนวนมาก เขาทั้งหลายจะตีดาบให้เป็นผาลไถนา ตีหอกให้เป็นเคียว ชาติต่างๆ จะไม่ยกดาบขึ้นต่อสู้กันอีก จะไม่ฝึกฝนยุทธวิธีอีกต่อไป พงศ์พันธุ์ของยาโคบเอ๋ย จงมาเถิด เราจงเดินในความสว่างขององค์พระผู้เป็นเจ้า”

 

เพลงสดุดี                                                                    สดด 122:1-2,3-5, (6-7),8
     ก) ข้าพเจ้ายินดีเมื่อมีผู้บอกข้าพเจ้าว่า
"เราจงไปยังบ้านขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยกันเถิด"
บัดนี้ เยรูซาเล็มเอ๋ย เท้าของเรามายืนที่ประตูของเจ้าแล้ว
      ข) เยรูซาเล็มสร้างขึ้นเป็นนคร
มีกำแพงล้อมรอบอย่างมั่นคง
เผ่าพันธุ์ต่างๆ ขึ้นไปที่นั่น
เผ่าพันธุ์ทั้งหลายขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ตามที่ทรงกำหนดให้อิสราเอล
สรรเสริญพระนามพระองค์
ที่นั่นเป็นที่ตั้งบัลลังก์พิพากษา
บัลลังก์แห่งราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด
     ค) จงวอนขอสันติภาพเพื่อกรุงเยรูซาเล็มเถิด
ขอให้ผู้ที่รักเจ้าประสบความเจริญรุ่งเรือง
สันติสุขจงบังเกิดภายในกำแพงของเจ้า
ความเจริญรุ่งเรืองจงบังเกิดในป้อมปราการของเจ้า
     ง) เพราะเห็นแก่บรรดาพี่น้องและมิตรสหาย
ข้าพเจ้าจะกล่าวว่า "สันติสุขจงอยู่กับเจ้า"

บทอ่านจากจากหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม                 รม 13:11-14
     ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า เวลาที่จะประพฤติปฏิบัติเช่นนี้มาถึงแล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่จะต้องตื่นขึ้นจากความหลับ ขณะนี้ความรอดพ้นอยู่ใกล้เรามากกว่าเมื่อเราเริ่มมีความเชื่อ กลางคืนล่วงไปมากแล้ว กลางวันก็ใกล้จะมาถึง ดังนั้น เราจงละทิ้งกิจการของความมืดมนเสีย แล้วสวมเกราะของความสว่าง เราจงดำเนินชีวิตอย่างมีเกียรติเหมือนกับเวลากลางวัน มิใช่กินเลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใช่ปล่อยตัวเสพกามอย่างผิดศีลธรรม มิใช่วิวาทริษยา แต่จงดำเนินชีวิตโดยสวมพระเยซูคริสตเจ้าเป็นอาภรณ์ อย่าทำตามความต้องการของเนื้อหนัง

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                   มธ 24:37-44
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับอัครสาวกว่า “สมัยของโนอาห์เป็นเช่นไร เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้น ในสมัยก่อนน้ำวินาศนั้น ผู้คนกิน ดื่ม แต่งงานกันจนถึงวันที่โนอาห์เข้าไปในเรือ ไม่มีใครนึกระแวงว่าจะเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งน้ำวินาศมากวาดพวกเขาไปหมดสิ้น เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาก็จะเป็นเช่นนั้นด้วย เวลานั้น คนสองคนอยู่ในทุ่งนา คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้ หญิงสองคนที่กำลังโม่แป้งอยู่ คนหนึ่งจะถูกรับไป อีกคนหนึ่งจะถูกทิ้งไว้
     จงตื่นเฝ้าระวังเถิด เพราะท่านไม่รู้ว่านายของท่านจะมาเมื่อไร พึงรู้ไว้เถิด ถ้าเจ้าบ้านรู้ว่าขโมยจะมาในยามใด เขาคงจะตื่นเฝ้าไม่ปล่อยให้ขโมยงัดแงะบ้านของตนได้ ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน จงเตรียมพร้อมไว้ เพราะว่าบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในเวลาที่ท่านมิได้คาดหมาย”

 

ข้อคิด
     คำพูดที่ว่า “จงตื่นเฝ้าระวัง” (มธ 24:42) หรือ “จงเตรียมพร้อมไว้” (มธ 24:44) ในพระวรสารวันนี้ ถ้าอยู่ในบริบทของทหาร คำพูดทั้งสองนี้เป็นคำสั่งที่เด็ดขาดของผู้มีอำนาจ ซึ่งผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาเมื่อได้ยินแล้วต้องทิ้งทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่และให้ความสนใจเป็นพิเศษกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นหรือคำสั่งที่จะตามมา มิฉะนั้น ผลที่ตามมาอาจหมายถึงความตายของตนเอง หรือของเพื่อนทหารคนอื่น หรือความพ่ายแพ้ของกองทัพทั้งหมดก็ได้ เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ามีจุดประสงค์ที่จะบอกเราในทำนองเดียวกันนี้ บทอ่านในแต่ละสัปดาห์เตือนใจเราว่าเราต้องดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างตื่นตัวและระมัดระวัง เราต้องทำให้ตัวเองพร้อมอยู่เสมอที่จะพบกับพระเยซูเจ้าไม่ว่าเวลาใดก็ตาม เวลานั้นอาจเป็นเวลาที่เราต้องจากโลกนี้ไป หรืออาจเป็นเวลาที่พระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ในวาระสุดท้าย เพื่อสถาปนาพระอาณาจักรของพระเจ้าบนโลกนี้ก็ได้

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown