วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2024 สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา
- รายละเอียด
- หมวด: กันยายน 2024
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 889
บทอ่านจากหนังสือปรีชาญาณ ปชญ 2:12,17-20
คนอธรรมกล่าวว่า “เราจงดักซุ่มทำร้ายผู้ชอบธรรม เพราะเขาทำให้เรารำคาญใจ เขาต่อต้านกิจการของเรา เขาตำหนิเราว่าฝ่าฝืนธรรมบัญญัติ กล่าวหาว่าเราไม่ปฏิบัติตามการอบรมที่ได้รับ เราจงดูเถิดว่าคำพูดของเขาจะจริงหรือไม่ เราจงพิสูจน์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแก่เขาในวาระสุดท้าย ถ้าผู้ชอบธรรมเป็นบุตรของพระเจ้า พระองค์ก็จะทรงปกป้องเขา และทรงช่วยเขาให้พ้นเงื้อมมือของศัตรู เราจงสาปแช่งและทรมานลองใจเขา ให้รู้ว่าเขาอ่อนโยนเพียงใด และจงทดสอบว่าเขาอดทนเพียงใด เราจงตัดสินลงโทษให้เขาตายอย่างอัปยศ ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูด พระเจ้าจะทรงคอยดูแลเขา”
บทอ่านจากจดหมายนักบุญยากอบอัครสาวก ยก 3:16-4:3
พี่น้องที่รักยิ่ง ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด ส่วนปรีชาญาณที่มาจากเบื้องบน ประการแรกเป็นสิ่งบริสุทธิ์ แล้วจึงก่อให้เกิดสันติ เห็นอกเห็นใจ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา บังเกิดผลที่ดีงาม ไม่ลำเอียง ไม่เสแสร้ง ผู้ที่สร้างสันติย่อมเป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรม การต่อสู้และการทะเลาะวิวาทในหมู่ท่านนั้นมาจากที่ใด มิใช่มาจากกิเลสตัณหาซึ่งต่อสู้อยู่ภายในร่างกายของท่านหรือ ท่านอยากได้ แต่ไม่ได้ จึงฆ่ากัน ท่านอยากได้ แต่ไม่สมหวัง จึงทะเลาะวิวาทและต่อสู้กัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้วอนขอ ท่านวอนขอ แต่ไม่ได้รับ เพราะท่านวอนขอไม่ถูกต้อง คือวอนขอเพื่อนำไปสนองกิเลสตัณหาของท่าน
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก มก 9:30-37
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นพร้อมกับบรรดาศิษย์ผ่านแคว้นกาลิลี พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ผู้ใดรู้ ทรงสั่งสอนบรรดาศิษย์ และตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะถูกมอบในเงื้อมมือของคนทั้งหลาย เขาจะประหารชีวิตพระองค์ แต่เมื่อถูกประหารแล้ว ในวันที่สามพระองค์จะกลับคืนชีพ” บรรดาศิษย์ไม่เข้าใจพระวาจานี้ แต่ก็ไม่กล้าทูลถาม พระเยซูเจ้าเสด็จมาถึงเมืองคาเปอรนาอุมพร้อมกับบรรดาศิษย์ เมื่อเสด็จเข้าไปในบ้าน พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ท่านถกเถียงกันเรื่องอะไรขณะที่เดินทาง” เขาก็นิ่ง เพราะระหว่างทางเขาถกเถียงกันว่า ผู้ใดยิ่งใหญ่กว่ากัน พระองค์จึงประทับนั่ง แล้วทรงเรียกอัครสาวกสิบสองคนเข้ามา ตรัสว่า “ถ้าผู้ใดอยากเป็นคนที่หนึ่ง ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” ครั้นแล้วพระองค์ทรงจูงเด็กเล็กๆ คนหนึ่งมายืนกลางกลุ่มพวกเขา ทรงโอบเด็กนั้นไว้ ตรัสว่า “ผู้ใดที่ต้อนรับเด็กเล็กๆ เช่นนี้ในนามของเรา ก็ต้อนรับเรา และผู้ใดที่ต้อนรับเรา ก็มิใช่ต้อนรับเพียงเราเท่านั้น แต่ต้อนรับผู้ที่ทรงส่งเรามาด้วย”
ข้อคิด
พระเยซูเจ้าตรัสกับบรรดาศิษย์ว่า ”ถ้าผู้ใดอยากเป็นที่หนึ่ง ก็ให้ผู้นั้นทำตนเป็นคนสุดท้าย และเป็นผู้รับใช้ของทุกคน” มก 9.36
เจ้าของร้านคนหนึ่ง เขียนเตือนสติคนงานของร้านด้วยถ้อยคำดังนี้
1.ลูกค้าคือคนสำคัญสำคัญที่สุด
2. ลูกค้าไม่ขึ้นกับเรา แต่เราขึ้นกับเขา
3.ลูกค้าไม่ขัดจังหวะงานของเรา แต่เป็นเป้าหมายของงานของเรา
4.ลูกค้าทำผลประโยชน์ให้เราเมื่อเข้ามาในร้าน ไม่ใช่เราทำผลประโยชน์ให้เขา เมื่อเราคอยช่วยเขา
5.ลูกค้า ไม่ใช่เงินที่เขาจ่ายที่มีคุณค่า แต่เป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึกและสมควรที่จะได้รับการบริการด้วยดี
6. ลูกค้าเป็นเส้นเลือดของธุระกิจของเรา อย่าลืม.
มันช่างตรงกับพระวาจาของพระเยซูเจ้าวันนี้คือ คนที่ต้องการเป็นที่หนึ่ง จงเป็นคนใช้ของทุกคน.
นักบุญยากอบบอกเราว่า ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นจะมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด. มิน่าเล่า โลกเราจึงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้น