www.catholic.or.th

มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

การจัดพิธีกรรมและบทอ่านในวันอาทิตย์เทศกาลมหาพรต

สำหรับพิธีกรรมในวันอาทิตย์เทศกาลมหาพรต การจัดพระวาจาของพระเจ้านำเสนอเส้นทางสู่การสมโภชปัสกาเป็น 3 แนวดังนี้ คือ ในวันอาทิตย์ปี A เน้นเรื่องศีลล้างบาป, ในวันอาทิตย์ปี B เน้นเรื่องการเดินพร้อมกับพระเยซูเจ้าผ่านทางกางเขน เราจะพบพระสิริรุ่งโรจน์, ในวันอาทิตย์ปี C เน้นเรื่องการกลับใจใช้โทษบาป ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่พระเมตตาของพระเจ้า (ปี ค.ศ. 2007 นี้ เป็นปี C)

ในที่นี้ขอนำเสนออย่างย่อๆ ถึง ความหมายของพระวรสาร ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของพิธีมิสซาวันอาทิตย์เทศกาลมหาพรต ดังนี้

พระวรสารของวันอาทิตย์เทศกาลมหาพรต 

ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 และ สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต พระวรสารจะเป็นเรื่องเดียวกันทุกปี คือ วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต จะอ่านพระวรสารเรื่องพระเยซูเจ้ าทรงถูกประจญ และวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต จะอ่านพระวรสารเรื่องการสำแดงพระวรกายอย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า (ซึ่งเรื่องราวทั้งสองนี้ ในปี A จะอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว ในปี B จะอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก และในปี C จะ อ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา) 



พระวรสารที่พระศาสนจักรนำมาให้คริสตชนรำพึงในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 และ 2 เทศกาลมหาพรต ให้ภาพรวมของเทศกา ลมหาพรต    และธรรมล้ำลึกปัสกา ซึ่งหมายถึงการสิ้นพระชนม์และการกลับ คืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า พระวรสารเรื่องพระเยซูเจ้าทรงถูกประจญ ทำให้เราเห็นถึงการต่อสู้กับพลังของบาปและความชั่วร้าย ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงใช้พระทรมา นและการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระองค์ กอบกู้เราให้พ้นบาป แสดงถึงชัยชนะเหนือบาปของพระองค์ ซึ่งชัยชนะเหนือบาปนี้ เราเห็นภาพล่วงหน้าแล้วจากชัยชนะที่พระองค์ทรงมีต่อการประจญของปีศาจ พระวรสารเรื่องการสำแดงพระวรกา ยอย่างรุ่งโรจน์ของพระเยซูเจ้า สะท้อนให้เห็นภาพล่วงหน้าถึงสิริรุ่งโรจน์แห่งการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า ซึ่งแน่นอนว่าการจะบรรลุถึงความรุ่งโรจน์แห่งการกลับคืนชีพ ต้องผ่านหนทางแห่งพระทรมานและไม้กางเขนก่อน 

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่า พระวรสารในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต ช่วยให้คริสตชนได้รำพึงถึงภาพของการต่อสู้กับอำนาจของบาป โดยมีชีวิตของพระเยซูเจ้าเป็นแบบฉบับ และมีพระทรมานและกางเขนของพระคริสตเจ้าเป็นแนวทาง ส่ว นพระวรสารในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต ชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์รุ่งเรืองที่เกิดจากการยึดถือพระฉบับแบบของพระเยซูเจ้า และแนวทางแห่งไม้กางเขนของพระองค์

นอกจากนี้ สำหรับคริสตังสำรองที่เตรียมตัวจะรับศีลล้างบาปในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์หรือในเทศกาลปัสกาที่จะมาถึง พระศาสนจักรยังกำหนดให้มี “พิธีเลือกสรร” สำหรับพวกเขา ในมิสซาวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต โดยให้ทำพิธีนี้หลังจากบทเทศน์

ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3-5 เทศกาลมหาพรต พระวรสารจะนำเสนอเส้นทางสู่การสมโภชปัสกา ดังนี้

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3-5 เทศกาลมหาพรต ปี A เน้นเรื่องศีลล้างบาป ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี A อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์นเรื่อง “พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับหญิงชาวสะมาเรียที่บ่อน้ำของยาโคบ” (ยน. 4:5-42) ใ นพระวรสาร ชาวเมืองและหญิงคนนั้นประกาศว่า “พระองค์ทรงเป็นพระผู้กอบกู้โลก” พระองค์ประทาน “น้ำทรงชีวิต” ซึ่งนำชีวิตนิรันดรให้แก่มนุษย์ 

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต ปี A อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์นเรื่อง พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนตาบอดแต่กำเนิด  (ยน. 9:1-41) จากพระวรสารเราพบว่าคนตาบอดค่อย ๆ เปิดตารับ ความเชื่อในพระเยซูเจ้า (องค์ความสว่าง) ตอนแรกเขาพูดกับพระองค์ในฐานะบุคคลคนหนึ่ง ต่อมาในฐานะประกาศก และต่อมาในฐานะ “บุตรแห่งมนุษย์” เราพบความต่อเนื่องของเรื่องราวในพระวรสารกับศีลล้างบาป คือ พระศาสนจักรในยุคแรกเรียกศีลล้า งบาปว่า “การส่องสว่าง” และเรียกผู้เตรียมรับศีลล้างบาปว่า “ผู้ได้รับการส่องสว่าง” 

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี A อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์นเรื่อง “พระเยซูเจ้าทรงปลุกลาซารัสให้กลับคืนชีพ” (ยน.11:1-45) ในพระวรสารตอนนี้ พระเยซูเจ้าตรัสว่า  “เราเป็นการกลับคืนชีพ และเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย” 

จะเห็นว่าพระวรสารที่กล่าวถึงนี้สะท้อนให้คริสตชน โดยเฉพาะคริสตังสำรองที่เตรียมตัวจะรับศีลล้างบาปเห็นว่า การกลับใจเป็นการออกจากบาป (ความกระหาย) ไปสู่พระหรรษทาน (น้ำทรงชีวิต) การกลับใจเป็นการออกจากความมืด (ตาบอด) ไปสู่ความสว่าง (การมองเห็น) และการกลับใจเป็นการออกจากความตาย ไปสู่การกลับคืนชีพมีชีวิตใหม่ในองค์พระเยซูเจ้า

เนื่องจากพระวรสารในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 - 5 เทศกาลมหาพรต ปี A มีความหมายเป็นพิเศษเกี่ยวข้องกับพิธีรับเป็นคริสตชนใหม่ จึงอาจใช้พระวรสารเหล่านี้อ่านในพิธีมิสซาในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3-5 เทศกาลมห าพรต ปี B หรือปี C ได้ด้วย โดยเฉพาะในวัดที่มีคริสตังสำรองที่เตรียมตัวจะรับศีลล้างบาปในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ หรือในเทศกาลปัสกาที่จะมาถึง 

นอกจากนั้นพระศาสนจักรยังกำหนดให้มี “พิธีสอบถาม” สำหรับคริสตังสำรองที่เตรียมตัวจะรับศีลล้างบาปในคืนวันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์หรือในเทศกาลปัสกาที่จะมาถึง ในมิสซาวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3-5 เทศกาลมหาพรตด้วย โดยให้ทำพิธีนี้หลังจากบทเทศน์

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3-5 เทศกาลมหาพรต ปี B เน้นเรื่องการเดินพร้อมกับพระเยซูเจ้าผ่านทางกางเขน เราจะพบพระสิริรุ่งโรจน์ ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี B อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์นเรื่องพระเยซูเจ้าเส ด็จไปยังพระวิหารและทรงคว่ำโต๊ะของพวกพ่อค้าที่พระวิหาร (ยน. 2:13-25) พวกยิวถามพระองค์ว่า “ท่านจะแสดงอะไรเป็นเครื่องหมายว่าท่านมีอำนาจกระทำเช่นนี้ได้” พระองค์ทรงตอบว่า “จงทำลายพระวิหารนี้ แล้วภายในสามวันเราจะตั้ งขึ้นใหม่” นั่นคือพระเยซูเจ้าทรงทำนายล่วงหน้าถึงการกลับคืนชีพและชัยชนะของพระองค์เหนือบาปและความตาย

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต ปี B อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์น เรื่องการสนทนาระหว่างพระเยซูเจ้ากับนิโคเดมัส (ยน. 3:14-21) ซึ่งในการสนทนานั้นพระองค์ตรัสว่า “โมเสสได้ยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใ ด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อในพระองค์จะได้มีชีวิตนิรันดร” พระวาจาตอนนี้เป็นการทำนายล่วงหน้าว่าพระองค์จะถูกตรึงกางเขน แต่กางเขนของพระคริสตเจ้าไม่ใช่เครื่องหมายแ ห่งความอับอาย แต่เป็นท่อธารแห่งพระพรและเครื่องหมายแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา กางเขนของพระคริสตเจ้าจะถูกยกขึ้น และคริสตชนทุกคนจะนมัสการพระคริสตเจ้าบนไม้กางเขนนี้อย่าง สิ้นสุดจิตใจ เราเห็นภาพนี้อย่างชัดเจนในพิธีกรรมของวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ และแน่นอนสำนึกอันนี้จะคงอยู่ในชีวิตของคริสตชน โดยเฉพาะในเวลาที่เราเริ่มต้นบทภาวนาและกิจกรรมสำคัญๆ ในชีวิตของเราด้วยเครื่องหมายสำคัญมหากางเขน

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี B อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์น  (ยน. 12:20-33) พระเยซูเจ้าตรัสว่า “บัดนี้ เวลาที่บุตรแห่งมนุษย์จะได้รับเกียรตินั้นมาถึงแล้ว เราขอยืนยันความจริงกับท่านอย่างเปิดเผยว่า ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงไปในดินและเปื่อยเน่าไป ก็คงจะมีอยู่เพียงเมล็ดเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเปื่อยเน่าไปแล้ว ก็จะงอกขึ้นเก็บเกี่ยวได้ผลมากมาย” จะเห็นได้ว่าพระคริสตเจ้าทรงได้รับเกียรติจากการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อกอบกู้มนุษย์ให้พ้นบาป กิจการแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ นำพระหรรษทานนานัปการมาสู่มวลมนุษย์ จึงเป็นแบบอย่างที่ให้ความมั่นใ จแก่คริสตชนในการดำเนินชีวิตด้วยความรักและเสียสละเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า

วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3-5 เทศกาลมหาพรต ปี C เน้นเรื่องการกลับใจใช้โทษบาป ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่พระเมตตาของพระเจ้า (ปี ค.ศ. 2007 นี้ เป็นปี C) 

ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ปี C อ่านพระวรสารของนักบุญลูกาเรื่องที่มีผู้มาทูลถามพระเยซูเจ้าเรื่องชาวกาลิลีที่ถูกปีลาต สั่งประหารชีวิต และคนสิบแปดคนที่ตายจากก ารถูกหอสิโลอัมพังทับ (ลก. 13:1-9) คำตอบของพระเยซูเจ้า คือ “ถ้าพวกท่านไม่กลับใจเปลี่ยนทางดำเนินชีวิต พวกท่านจะต้องพินาศไปเช่นเดียวกัน”พระองค์ทรงสอ นเราให้จริงจังกับการกลับใจ ปรับปรุงความบกพร่องจากบาปที่ยังมีอยู่ในชีวิตของเรา มากกว่าจะไปตัดสินคนอื่นว่าเขาเป็นอย่างไร และเทศกาลมหาพรตก็เป็นโอกาสที่ดีที่คริสตชนจะกลับใจ และพัฒนาจิตใจของตนให้งดงามเหมื อนกับจิตใจของพระบิดาเจ้าในสวรรค์

ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลมหาพรต ปี C อ่านพระวรสารของนักบุญลูกาเรื่องลูกล้างผลาญ (ลก. 15:1-3, 11-32) การกลับบ้านของลูกคนเล็กจากนิทานเปรียบเทียบของพระเยซูเจ้า ให้ภาพของการกลับใจที่เป็นรูปธรรมและมีชีวิตชีวา การกลับใจของคริสตชนในเทศกาลมหาพร ต จึงเป็นการเดินทางสู่บ้านแท้ในเมืองสวรรค์ ที่มีพระเจ้าพระบิดาผู้พระทัยดีทรงรอคอยเรา “เราจะเลี้ยงกันให้ร่าเริงบันเทิงใจ เหตุว่า ลูกของเราซึ่งตายไปแล้ว ได้กลับมามีชีวิตใหม่ หายไปแล้ว แต่กลับมาพบกันอีก”

ในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ปี C อ่านพระวรสารของนักบุญยอห์น ที่กล่าวถึงธรรมาจารย์และฟาริสีที่ได้นำหญิงคนหนึ่งที่ถูกจับขณะล่วงประเวณีมาให้พระเยซูเจ้าทรงตัดสิน (ยน. 8:1-11) ซึ่งเราจะเห็นสารแห่งการให้อภัย โดยเรียกร้อง การกลับใจและใช้โทษบาปที่ส่งถึงเรา ผ่านทางพระวาจาของพระเยซูเจ้า ที่ตรัสกับหญิงคนบาปที่ว่า “กลับไปเถิด และอย่าทำบาปอีกเลย”