Logo

วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2018 น.เปาลิน แห่งโนลา พระสังฆราช น.ยอห์น ฟิชเชอร์ น.โทมัส โมร์ มรณสักขี

หมวด: เดือนมิถุนายน 2018
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 801

บทอ่านจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่สอง                       2 พกษ 11:1-4,9-18,20
      เมื่อพระนางอาธาลิยาห์ พระชนนีของกษัตริย์อาคัสยาห์ทรงทราบว่าพระโอรสถูกปลงพระชนม์ ก็ทรงฆ่าเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ทันที แต่เยโฮเชบาพระธิดาของกษัตริย์เยโฮรัมและพระขนิษฐาของกษัตริย์อาคัสยาห์ ทรงนำเยโฮอาช พระโอรสของกษัตริย์อาคัสยาห์ออกจากกลุ่มพระโอรสที่จะต้องถูกฆ่าไปซ่อนไว้พร้อมกับแม่นมในห้องนอนบริเวณพระวิหาร ให้พ้นจากพระนางอาธาลิยาห์ และหลบซ่อนอยู่กับแม่นมในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาหกปี ขณะที่พระนางอาธาลิยาห์ขึ้นครองแผ่นดิน
    ปีที่เจ็ด สมณะเยโฮยาดาส่งคนไปตามผู้บังคับบัญชาทหารชาวคารี และนายทหารองครักษ์มาพบตนในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทำสัญญากับเขา ให้ทุกคนสาบานในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วนำพระโอรสของกษัตริย์ออกมาให้เขาเห็น
บรรดานายทหารก็ปฏิบัติตามคำสั่งของสมณะเยโฮยาดา ต่างนำกำลังพลของตนมาด้วย ทั้งพวกที่เข้าประจำการในวันสับบาโต และพวกที่ออกจากประจำการในวันสับบาโต มาพบสมณะเยโฮยาดา สมณะนำหอกและโล่ของกษัตริย์ดาวิดที่เก็บไว้ในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาแจกให้ผู้บังคับบัญชา ทหารองครักษ์จึงถืออาวุธครบมือเข้าประจำที่ ตั้งแต่ด้านใต้ของพระวิหารไปจนถึงด้านเหนือของพระวิหาร รอบพระแท่นบูชาและอาคารพระวิหารเพื่อปกป้องกษัตริย์ แล้วสมณะเยโฮยาดานำพระโอรสของกษัตริย์ออกมาสวมมงกุฎและมอบม้วนพันธสัญญาให้ เขาทั้งหลายประกาศแต่งตั้งและเจิมพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ ทุกคนปรบมือโห่ร้องว่า “ขอพระราชาทรงพระเจริญ”
     พระนางอาธาลิยาห์ทรงได้ยินเสียงทหารองครักษ์และประชาชนโห่ร้องเสียงดัง ก็รีบเสด็จมาพบประชาชนในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อทอดพระเนตรเห็นกษัตริย์ทรงยืนอยู่ข้างเสาตามประเพณี นายทหารและพนักงานเป่าแตรยืนอยู่ข้างกษัตริย์ ประชาชนของแผ่นดินทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดีและเป่าแตร พระนางอาธาลิยาห์ทรงฉีกฉลองพระองค์ด้วยความขุ่นเคือง ทรงร้องตะโกนว่า “กบฏ กบฏ”
     สมณะเยโฮยาดาจึงสั่งผู้บัญชาการกำลังพลว่า “จงนำพระนางออกไประหว่างแถวทหาร ผู้ใดพยายามจะช่วยเหลือ ก็จงฆ่าผู้นั้น” เพราะสมณะได้บอกไว้แล้วว่า “อย่าฆ่าพระนางในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า” บรรดาทหารจึงจับกุมพระนาง คุมตัวผ่านประตูม้าของพระราชวัง แล้วปลงพระชนม์ที่นั่น
สมณะเยโฮยาดากระทำพันธสัญญา ระหว่างองค์พระผู้เป็นเจ้ากับกษัตริย์และประชาชน ว่า เขาจะเป็นประชากรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และทำพันธสัญญาอีกระหว่างกษัตริย์กับประชากร ประชาชนของแผ่นดินทุกคนเข้าไปในวิหารของพระบาอัลและรื้อวิหารนั้น ทุบแท่นบูชาและรูปเคารพจนแหลกละเอียด และฆ่ามัทธานสมณะของพระบาอัลที่หน้าแท่นบูชานั้น สมณะจัดยามรักษาการณ์เฝ้าพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า
ประชาชนของแผ่นดินทุกคนต่างปลื้มปีติ ตั้งแต่พระนางอาธาลิยาห์ถูกปลงพระชนม์ในพระราชวัง บ้านเมืองก็สงบ

 

สดด 132:11,12-14,17-18

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                  มธ 6:19-23
    เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายจงอย่าสะสมทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้เลย ที่นี่ทรัพย์สมบัติทั้งหลายถูกสนิมและตัวขมวนทำลาย ถูกขโมยเจาะช่องเข้ามาขโมยไปได้ แต่จงสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์เถิด ที่นั่นไม่มีสนิมและตัวขมวนทำลาย ขโมยก็เจาะช่องเข้ามาขโมยไปไม่ได้ เพราะทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด ใจของท่านก็จะอยู่ที่นั่นด้วย”
“ประทีปของร่างกายคือดวงตา ดังนั้น ถ้าดวงตาของท่านเป็นปกติดี ร่างกายของท่านก็จะสว่างไปด้วย แต่ถ้าดวงตาของท่านไม่ดี ร่างกายของท่านก็จะมืดไปด้วย ฉะนั้น ถ้าความสว่างในท่านมืดไปแล้ว ความมืดจะยิ่งมืดมิดสักเพียงใด”

 

ข้อคิด
     ทรัพย์สมบัติบนแผ่นดินนี้จำเป็นสำหรับดูแลชีวิตและมีไว้เพื่อแบ่งปันแสดงความรักแก่เพื่อนพี่น้อง พระเยซูเจ้ามิทรงปฏิเสธแต่ทรงเตือนว่าอย่าหลงกับการสะสมทรัพย์สมบัตินั้นเพราะสิ่งที่เป็นนิรันดร์คือพระอาณาจักรสวรรค์ คริสตชนจะต้องมีใจที่ไม่หันเหไปจากความรักขององค์พระเจ้า คริสตชนจะต้องมีตาที่ไม่ละจากแสงสว่างแท้จริงคือองค์พระคริสตเจ้า ผู้ที่เลือกและดำเนินชีวิตเช่นนี้ พระเจ้าจะทรงปกป้องคุ้มครอง นำทาง และเลี้ยงดูเช่นเดียวกับที่ทรงปกป้องกษัตริย์เยโฮอาชจากเงื้อมมือของพระนางอาธาลิยาห์ ทรงดูแลและทรงยกขึ้นให้มีเกียรติต่อหน้าประชากร