มีข้อผิดพลาด
  • JLIB_DATABASE_ERROR_FUNCTION_FAILED

                                     

วันพุธที่ 20 กันยายน 2023 ระลึกถึง น.อันดรูว์ กิม เตก็อน พระสงฆ์ น.เปาโล จง ฮาซัง และเพื่อนมรณสักขีชาวเกาหลี

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม                       รม 8:31ข-35,37-39

        พี่น้องถ้าพระเจ้าทรงอยู่ข้างเรา ใครจะสู้เราได้ พระองค์มิได้ทรงหวงแหนพระบุตรของพระองค์ แต่ทรงมอบพระบุตรเพื่อเราทุกคน แล้วพระองค์จะไม่ประทานทุกสิ่งให้เราพร้อมกับพระบุตรหรือ ใครจะฟ้องร้องผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้แล้วได้ พระเจ้าประทานความชอบธรรม ใครจะตัดสินลงโทษ พระคริสตเยซูสิ้นพระชนม์ ทั้งยังทรงกลับคืนพระชนมชีพ ประทับอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า ทรงวอนขอแทนเราอีกด้วย ใครจะพรากเราจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ ความทุกข์ลำเค็ญหรือ ความคับแค้นใจหรือ การเบียดเบียนข่มเหงหรือ การขาดอาหารและเครื่องนุ่งห่มหรือ ภยันตรายและคมดาบหรือ

         แต่ในการทดลองทั้งหมดนี้ เราชนะได้ง่ายอาศัยพระผู้ทรงรักเรา เพราะข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าความตายหรือชีวิต ไม่ว่าทูตสวรรค์หรือผู้มีอำนาจปกครอง ไม่ว่าปัจจุบันหรืออนาคต ไม่ว่าฤทธิ์อำนาจใดหรือความสูง ความลึก ไม่มีสรรพสิ่งใดๆ จะพรากเราได้จากความรักของพระเจ้า ซึ่งปรากฏในพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                 ลก 9:23-26

          หลังจากนั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับทุกคนว่า “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต ผู้นั้นจะต้องสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตเพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้ มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่จะได้โลกทั้งโลกเป็นกำไร แต่ต้องเสียชีวิตและพินาศไป ถ้าผู้ใดอับอายเพราะเราและเพราะถ้อยคำของเรา บุตรแห่งมนุษย์ก็จะอับอายเพราะเขา เมื่อเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ ของพระบิดา และของบรรดาทูตสวรรค์ผู้ศักดิ์สิทธิ์”

 

 

ข้อคิด
     การแบกไม้กางเขนของตน หมายถึงการพร้อมที่จะเผชิญหน้าและต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะร้ายกาจถึงขั้นต้องพลีชีพเป็นมรณสักขีก็ตามผู้ที่ดำเนินชีวิตแบบ "สุขนิยม" ด้วยการหลบหลีกปัญหาไปวันๆ พวกเขาจะติดตามพระเยซูเจ้าได้อย่างไรกัน ในเมื่อพระองค์เองยังทรงเลือกหนทางของไม้กางเขน! แน่นอนว่า พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งผู้ที่ติดตามพระองค์ (มธ 28:20) แต่จะทรงประทานพละกำลังและพระหรรษทานช่วยเหลืออย่างเกินพอ เพื่อให้เราเอาชนะปัญหาและอุปสรรค ไม่ว่าจะร้ายกาจหรือหนักหน่วงเพียงใดก็ตาม

 

วันอังคารที่ 19 กันยายน 2023 น.ยานูอารีโอ พระสังฆราชและมรณสักขี

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงทิโมธี ฉบับที่หนึ่ง        1 ทธ 3:1-13

         ลูกที่รักยิ่ง ต่อไปนี้เป็นถ้อยคำที่ท่านเชื่อถือได้ ผู้ใดใฝ่ฝันจะปกครองดูแล เขาก็ปรารถนากิจการที่ดีงาม ดังนั้น ผู้ปกครองดูแลจะต้องประพฤติดีไม่มีที่ตำหนิ แต่งงานเพียงครั้งเดียว รู้จักประมาณตน มีสติสัมปชัญญะ สุภาพเรียบร้อย มีอัธยาศัยไมตรีและรู้จักสอน ต้องไม่ใช่นักดื่มหรืออันธพาล แต่จะต้องมีใจเยือกเย็น ไม่ชอบทะเลาะวิวาท ไม่โลภทรัพย์สินเงินทอง ต้องเป็นผู้ที่รู้จักปกครองคนในบ้านของตนได้ดี มีความประพฤติดี อบรมบุตรหลานให้อยู่ในโอวาท ผู้ใดไม่รู้จักปกครองคนในบ้านของตน ผู้นั้นจะรับผิดชอบดูแลพระศาสนจักรของพระเจ้าได้อย่างไร เขาไม่ควรเป็นผู้ที่เพิ่งกลับใจ มิฉะนั้นเขาอาจเกิดคิดหยิ่งจองหอง และต้องรับโทษอย่างที่ปีศาจได้รับ เขาจะต้องเป็นผู้ที่บุคคลภายนอกยอมรับนับถือ เพื่อเขาจะได้ไม่ถูกตำหนิและไม่ตกในบ่วงแร้วของปีศาจ

        สังฆานุกรก็เช่นเดียวกัน จะต้องเป็นที่น่าเคารพนับถือ ไม่ปลิ้นปล้อน ไม่ดื่มจัด และไม่หาผลประโยชน์ที่น่ารังเกียจ เขาจะต้องยึดมั่นในธรรมล้ำลึกของความเชื่อด้วยมโนธรรมที่บริสุทธิ์ เขาจะต้องได้รับการตรวจสอบก่อน ถ้าไม่มีสิ่งใดขัดข้องจึงให้ทำหน้าที่สังฆานุกร สตรี ก็เช่นเดียวกัน จะต้องเป็นคนที่น่าเคารพนับถือ ไม่นินทาว่าร้าย ต้องรู้จักประมาณตนและเป็นที่วางใจได้ในทุกเรื่อง สังฆานุกรจะต้องแต่งงานเพียงครั้งเดียว และเป็นผู้ที่รู้จักปกครองบุตรหลานและคนในบ้านของตนได้ ผู้ทำหน้าที่สังฆานุกรได้อย่างดีก็จะได้รับเกียรติสูงสำหรับตน และพูดถึงความเชื่อในพระคริสตเยซูได้อย่างมั่นใจ

 

สดด 101:1ข-2กข,2คง-3กข,5,6

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                ลก 7:11-17

         หลังจากนั้นไม่นาน พระเยซูเจ้าเสด็จไปที่เมืองหนึ่งชื่อนาอิน บรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ไป เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ประตูเมือง ก็ทรงเห็นคนหามศพออกมา ผู้ตายเป็นบุตรคนเดียวของมารดาซึ่งเป็นม่าย ชาวเมืองกลุ่มใหญ่มาพร้อมกับนางด้วย เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นนางก็ทรงสงสารและตรัสกับนางว่า “อย่าร้องไห้ไปเลย” แล้วพระองค์เสด็จเข้าไปใกล้ ทรงแตะแคร่หามศพ คนหามก็หยุด พระองค์จึงตรัสว่า “หนุ่มเอ๋ย เราบอกเจ้าว่า จงลุกขึ้นเถิด” คนตายก็ลุกขึ้นนั่งและเริ่มพูด พระเยซูเจ้าจึงทรงมอบเขาให้แก่มารดา ทุกคนต่างมีความกลัวและถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า กล่าวว่า “ประกาศกยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นในหมู่เรา พระเจ้าได้เสด็จมาเยี่ยมประชากรของพระองค์” และข่าวเรื่องนี้ก็แพร่ไปทั่วแคว้นยูเดียและทั่วอาณาบริเวณนั้น

 

 

ข้อคิด
     ด้วยความสงสารหญิงม่ายจากกันบึ้งของหัวใจ พระเยซูเจ้าตรัสว่า "หนุ่มเอ๋ย เราบอกเจ้าว่า จงลุกขึ้นเถิด" เขาก็ "ลุกขึ้นนั่งและเริ่มพูด"(ลก 7:15) เท่ากับว่าความตายถูกพิชิตแล้ว!ถ้าพระองค์เป็นนายเหนือความตาย พระองค์ก็เป็นนายเหนือทุกสิ่ง ถ้าพระองค์ทำให้คนตายกลับเป็นขึ้นมาได้ พระองค์ก็ทำให้ทุกสิ่งที่ทรงสัญญาไว้เป็นจริงได้ให้เรากราบทูลปัญหาของเราให้พระองค์ทราบ แล้วความเมตตาสงสารของพระองค์จะมาถึงเรา และจะทรงทำให้เราพิศวงในวันนี้ เหมือนที่ทรงทำให้ชาวเมืองนาอินพิศวงในวันนั้น!

 

วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน 2023 สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากหนังสือบุตรสิรา                            บสร 27:30-28:7

          ความเคียดแค้นและความโกรธเป็นสิ่งน่ารังเกียจ แต่คนบาปกลับยึดไว้แน่น ผู้ใดแก้แค้นก็จะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแก้แค้น พระองค์จะทรงจดบัญชีบาปไว้อย่างเคร่งครัด จงให้อภัยเพื่อนบ้านที่ทำผิดต่อท่าน แล้วบาปของท่านจะได้รับการอภัย เมื่อท่านอธิษฐานภาวนา

          ถ้าผู้ใดสุมความโกรธต่อผู้อื่นไว้ เขาจะขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรักษาเขาให้หายได้อย่างไร ถ้าเขาไม่มีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจะกล้าอธิษฐานภาวนาขออภัยบาปของตนได้อย่างไร เขาเป็นเพียงมนุษย์ที่อ่อนแอ แล้วยังอาฆาตมาดร้าย ผู้ใดจะอภัยบาปแก่เขาได้ จงระลึกถึงบั้นปลายของท่าน แล้วเลิกเกลียดชังเถิด จงระลึกถึงความเน่าเปื่อยและความตาย แล้วท่านจะปฏิบัติตามบทบัญญัติอย่างซื่อสัตย์ จงระลึกถึงบทบัญญัติและอย่าเคียดแค้นเพื่อนบ้าน จงระลึกถึงพันธสัญญาของพระผู้สูงสุด  แล้วมองข้ามการล่วงเกินที่ท่านได้รับ

 

เพลงสดุดี                                                    สดด 103:1-2,3-4,9-10,11-12

       ก)    จิตใจข้าพเจ้าเอ๋ย จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

ส่วนลึกของข้าพเจ้า จงถวายพระพรแด่พระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

จิตใจข้าพเจ้าเอ๋ย จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเถิด

จงอย่าลืมพระคุณต่างๆ ที่พระองค์ประทานให้

       ข)    พระองค์ประทานอภัยความผิดทั้งหลายของท่าน

ทรงรักษาโรคภัยทั้งหมดของท่าน

ทรงช่วยชีวิตท่านให้พ้นจากเหวลึก

ประทานความรักมั่นคงและพระเมตตาเป็นดังมงกุฎแก่ท่าน

       ค)    พระองค์ไม่ทรงกล่าวโทษเราตลอดไป

ไม่ทรงเคืองแค้นเป็นเวลานาน

พระองค์ไม่ทรงปฏิบัติต่อเราตามที่บาปของเราสมควรจะได้รับ

ไม่ทรงตอบแทนเราให้สาสมกับความผิดของเรา

       ง)     ท้องฟ้าสูงกว่าแผ่นดินเพียงใด

ความรักมั่นคงของพระองค์ต่อผู้ยำเกรงพระองค์ก็ยิ่งใหญ่เพียงนั้น

ตะวันออกห่างไกลจากตะวันตกเท่าใด

พระองค์ก็ทรงกันความผิดของเราออกไปห่างไกลจากเราเท่านั้น

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม               รม 14:7-9

          พี่น้อง ไม่มีพวกเราคนใดที่มีชีวิตอยู่เพื่อตนเอง และไม่มีผู้ใดตายเพื่อตนเองเช่นเดียวกัน ถ้าเรามีชีวิตอยู่ ก็มีชีวิตอยู่เพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเราตาย เราก็ตายเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ดังนั้น ไม่ว่าเรามีชีวิตอยู่หรือตาย เราก็เป็นขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะเหตุนี้เอง พระคริสตเจ้าจึงสิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนมชีพ เพื่อจะเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งของผู้ตายและของผู้เป็น

 

บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว         มธ 18:21-35

          เวลานั้น เปโตรเข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือไม่” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราไม่ได้บอกท่านว่าต้องยกโทษให้เจ็ดครั้ง แต่ต้องยกโทษให้เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง

          อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับกษัตริย์พระองค์หนึ่ง ทรงประสงค์จะตรวจบัญชีหนี้สินของผู้รับใช้ ขณะที่ทรงเริ่มตรวจบัญชีนั้น มีผู้นำชายผู้หนึ่งเข้ามา ชายผู้นี้เป็นหนี้อยู่หนึ่งหมื่นตะลันต์ เขาไม่มีสิ่งใดจะชำระหนี้ได้ กษัตริย์จึงตรัสสั่งให้ขายทั้งตัวเขา บุตร ภรรยาและทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อใช้หนี้ ผู้รับใช้กราบพระบาททูลอ้อนวอนว่า ‘ขอทรงพระกรุณาผัดหนี้ไว้ก่อนเถิด แล้วข้าพเจ้าจะชำระหนี้ให้ทั้งหมด’ กษัตริย์ทรงสงสารจึงทรงปล่อยเขาไปและทรงยกหนี้ให้ ขณะที่ผู้รับใช้ออกไป ก็พบเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกันซึ่งเป็นหนี้เขาอยู่หนึ่งร้อยเหรียญ เขาเข้าไปคว้าคอบีบไว้แน่น พูดว่า ‘เจ้าเป็นหนี้ข้าอยู่เท่าไร จงจ่ายให้หมด’

          เพื่อนคนนั้นคุกเข่าลงอ้อนวอนว่า ‘กรุณาผัดหนี้ไว้ก่อนเถิด แล้วข้าพเจ้าจะชำระหนี้ให้’ แต่เขาไม่ยอมฟัง นำลูกหนี้ไปขังไว้จนกว่าจะชำระหนี้หมด เพื่อนผู้รับใช้อื่นๆ เห็นดังนั้นต่างสลดใจมาก จึงนำความทั้งหมดไปทูลกษัตริย์ พระองค์จึงทรงเรียกชายผู้นั้นมา ตรัสว่า ‘เจ้าคนสารเลว ข้ายกหนี้สินของเจ้าทั้งหมดเพราะเจ้าขอร้อง เจ้าต้องเมตตาเพื่อนผู้รับใช้ด้วยกัน เหมือนกับที่ข้าได้เมตตาเจ้ามิใช่หรือ’ กษัตริย์กริ้วมาก ตรัสสั่งให้นำผู้รับใช้นั้นไปทรมานจนกว่าจะชำระหนี้ทั้งหมด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะทรงกระทำต่อท่านทำนองเดียวกัน ถ้าท่านแต่ละคนไม่ยอมยกโทษให้พี่น้องจากใจจริง”

 

ข้อคิด

     พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราว่า เรารู้จักต้นไม้ว่าดีหรือไม่ดีก็จากผลของมันฉันใดมนุษย์ก็ไม่อาจถูกตัดสินด้วยวิธีอื่นใดได้นอกจากจากผลแห่งการกระทำของตนฉันนั้นเพราะฉะนั้น การเทศน์ การสอน รวมทั้งการประกาศข่าวดีของเรา จึงต้องเป็นความจริงที่เห็นได้จากบุคลิกภาพและชีวิตของเราเอง เราต้องไม่ลืมว่า หนทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่าศาสนาคริสต์เหนือกว่าศาสนาอื่น ก็ตรงที่สามารถผลิตคนที่เหนือกว่านั่นเอง

วันจันทร์ที่ 18 กันยายน 2023 สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงทิโมธี ฉบับที่หนึ่ง        1 ทธ 2:1-8

          ลูกที่รักยิ่ง ในขั้นแรกนี้ ข้าพเจ้าขอร้องให้วอนขอ อธิษฐาน อ้อนวอนแทนและขอบพระคุณพระเจ้าเพื่อมนุษย์ทุกคน เพื่อกษัตริย์และเพื่อผู้มีอำนาจ เราจะได้มีชีวิตที่สงบสุขราบรื่น เป็นชีวิตที่มีเกียรติด้วยความเคารพเลื่อมใสพระเจ้า การกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ดีงามและเป็นที่พอพระทัยพระเจ้าพระผู้ไถ่ของเรา พระองค์มีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น และรู้ความจริงที่สมบูรณ์ ทั้งนี้เพราะมีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียว และพระเจ้ากับมนุษย์ก็มีคนกลางแต่เพียงผู้เดียวซึ่งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง คือพระคริสตเยซู ผู้ทรงมอบพระองค์เป็นสินไถ่สำหรับมนุษย์ทุกคน การมอบพระองค์ดังกล่าวนี้คือการเป็นพยานยืนยันที่ทรงให้ไว้ตามเวลาที่กำหนด และข้าพเจ้าก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ประกาศการเป็นพยานยืนยันนี้ เป็นอัครสาวก เป็นผู้สอนคนต่างชาติเรื่องความเชื่อและความจริง ข้าพเจ้ากำลังพูดความจริง มิได้พูดความเท็จ

           ข้าพเจ้าปรารถนาให้บุรุษยกมือที่บริสุทธิ์ขึ้นอธิษฐานไม่ว่าจะอยู่ที่ใด อย่าให้มีความโกรธหรือการโต้เถียงใดๆ ระหว่างกัน

 

สดด 28:2,7,8-9

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                ลก 7:1-10

         เวลานั้น เมื่อพระเยซูเจ้าตรัสพระวาจาทั้งหมดนี้ให้ประชาชนฟังจบแล้ว พระองค์เสด็จเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม ผู้รับใช้ของนายร้อยคนหนึ่งกำลังป่วยใกล้จะตาย นายรักเขามาก เมื่อนายร้อยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า จึงส่งผู้อาวุโสบางคนของชาวยิวมาอ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จไปช่วยชีวิตของผู้รับใช้ คนเหล่านั้นมาเฝ้าพระเยซูเจ้า อ้อนวอนรบเร้าพระองค์ว่า “นายร้อยผู้นี้สมควรที่ท่านจะช่วยเหลือ เพราะเขารักชนชาติของเรา และได้สร้างศาลาธรรมให้เรา” พระเยซูเจ้าจึงเสด็จไปกับคนเหล่านั้น เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้จะถึงบ้าน นายร้อยใช้เพื่อนบางคนไปทูลพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า อย่าลำบากไปเลย ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่อาจเอื้อมที่จะออกมาพบกับพระองค์ แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียว ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรคข้าพเจ้าเป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาด้วย ข้าพเจ้าบอกคนหนึ่งว่า ‘ไป’ เขาก็ไป บอกอีกคนหนึ่งว่า ‘มา’ เขาก็มา ข้าพเจ้าบอกผู้รับใช้ว่า ‘ทำสิ่งนี้’ เขาก็ทำ” เมื่อพระเยซูเจ้าทรงได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ทรงประหลาดพระทัย ทรงหันพระพักตร์ไปยังประชาชนที่ติดตามพระองค์ตรัสว่า “เราบอกท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย” เมื่อเพื่อนที่ถูกใช้มากลับไปถึงบ้าน ก็พบว่าผู้รับใช้ผู้นั้นหายเป็นปกติแล้ว

 

 

ข้อคิด
      นายร้อยชาวโรมันมีความเชื่อชนิดที่ทำให้พระเยซูเจ้าตรัสว่า "เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมาก เช่นนี้ในอิสราเอลเลย"เหตุผลของเขาคือ หากอำนาจของเขาในฐานะนายร้อยยังส่งผลได้ขนาดนี้ แล้วอำนาจของพระเยซูเจ้าจะส่งผลได้ขนาดไหน เพราะฉะนั้น ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียวก็พอแล้วหากเราเชื่อเหมือนนายร้อย อัศจรรย์มากมายจะเกิดขึ้นในชีวิตของเรา และชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพระเจ้าทรงประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น

 

วันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2023 ระลึกถึง น.คอร์เนเลียส พระสันตะปาปาและมรณสักขี น.ซีเปรียน พระสังฆราชและมรณสักขี

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงทิโมธี ฉบับที่หนึ่ง        1 ทธ 1:15-17

       ลูกที่รักยิ่ง ต่อไปนี้เป็นถ้อยคำที่น่าเชื่อถือและน่าที่ทุกคนจะยอมรับ คือ “พระคริสตเยซูเสด็จมาในโลกเพื่อช่วยคนบาปให้รอดพ้น” ข้าพเจ้าเป็นคนแรกในบรรดาคนบาปเหล่านี้ ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงแสดงพระเมตตากรุณาต่อข้าพเจ้า เพราะพระเยซูคริสตเจ้าทรงต้องการแสดงความเพียรอดทนที่ยาวนานต่อข้าพเจ้าเป็นคนแรก เพื่อเป็นแบบอย่างสำหรับผู้ที่เข้ามาเชื่อในพระองค์ให้ได้รับชีวิตนิรันดร ขอพระเกียรติยศและพระสิริรุ่งโรจน์ตลอดนิรันดร จงมีแด่พระเจ้าองค์เดียวที่เราแลเห็นไม่ได้ พระผู้ทรงเป็นอมตะ และพระผู้ทรงเป็นกษัตริย์นิรันดร อาเมน

 

สดด 113:1ข-2,3-4,5ก และ 6-7

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                                ลก 6:43-49

        เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า

       “ต้นไม้ที่เกิดผลไม่ดีย่อมไม่ใช่ต้นไม้พันธุ์ดี หรือต้นไม้พันธุ์ไม่ดีย่อมไม่ให้ผลดีเช่นกัน เรารู้จักต้นไม้แต่ละต้นได้จากผลของต้นไม้นั้น เราย่อมไม่เก็บผลมะเดื่อเทศจากพงหนาม หรือเก็บผลองุ่นจากกอหนาม คนดีย่อมนำสิ่งที่ดีออกจากขุมทรัพย์ที่ดีในใจของตน ส่วนคนเลวย่อมนำสิ่งที่เลวออกมาจากขุมทรัพย์ที่เลวของตน เพราะปากย่อมกล่าวสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจออกมา

         ทำไมท่านจึงเรียกเราว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า ข้าแต่พระเจ้า’ แต่ไม่ปฏิบัติตามที่เราบอก

       ทุกคนที่มาหาเรา ย่อมฟังคำของเราและนำไปปฏิบัติ เราจะชี้ให้ท่านทั้งหลายเห็นว่า เขาเปรียบเสมือนผู้ใด เขาเปรียบเสมือนคนที่สร้างบ้าน เขาขุดหลุม ขุดลงไปลึก และวางรากฐานไว้บนหิน เมื่อเกิดน้ำท่วม น้ำในแม่น้ำไหลมาปะทะบ้านหลังนั้น แต่ทำให้บ้านนั้นสั่นคลอนไม่ได้ เพราะบ้านหลังนั้นสร้างไว้อย่างดี แต่ผู้ที่ฟังและไม่ปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนที่สร้างบ้านไว้บนพื้นดินโดยไม่มีรากฐาน เมื่อน้ำในแม่น้ำไหลมาปะทะ บ้านนั้นก็พังทลายลงทันที และเสียหายมาก”

 

ข้อคิด

 

     พระเยซูเจ้าทรงเตือนเราว่า เรารู้จักต้นไม้ว่าดีหรือไม่ดีก็จากผลของมันฉันใดมนุษย์ก็ไม่อาจถูกตัดสินด้วยวิธีอื่นใดได้นอกจากจากผลแห่งการกระทำของตนฉันนั้นเพราะฉะนั้น การเทศน์ การสอน รวมทั้งการประกาศข่าวดีของเรา จึงต้องเป็นความจริงที่เห็นได้จากบุคลิกภาพและชีวิตของเราเอง เราต้องไม่ลืมว่า หนทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่าศาสนาคริสต์เหนือกว่าศาสนาอื่น ก็ตรงที่สามารถผลิตคนที่เหนือกว่านั่นเอง

 

Catholic.or.th All rights reserved.

Select style: Red Brown