บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโรม รม 2:1-11
พี่น้อง ไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็ตามที่กล่าวคำพิพากษาผู้อื่น ท่านไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ เช่นกัน ท่านเองนั่นแหละที่กล่าวโทษตนเองเมื่อตัดสินผู้อื่น เพราะท่านเองที่พิพากษาก็ประพฤติตนในทำนองเดียวกัน เราตระหนักดีว่า คนที่ประพฤติตนเช่นนี้จะถูกพิพากษาลงโทษจากพระเจ้าตามความเป็นจริง แต่เมื่อท่านตัดสินคนที่ประพฤติผิดขณะที่ตนก็ทำเช่นเดียวกัน ท่านคิดหรือว่าจะรอดพ้นจากการพิพากษาลงโทษของพระเจ้าไปได้ หรือว่าท่านไม่คำนึงถึงความดี ความอดกลั้นและความพากเพียรอันล้นเหลือของพระเจ้า ไม่ยอมรับรู้ว่าพระทัยดีของพระเจ้าทรงมีเพื่อนำท่านให้สำนึกผิดและกลับใจ ความดื้อดึงไม่ยอมกลับใจของท่านมีแต่จะสะสมโทษสำหรับตนในวันพิพากษาลงโทษ เมื่อพระเจ้าทรงประกาศคำตัดสินเที่ยงธรรมของพระองค์ พระองค์จะทรงตอบสนองทุกคนตามสมควรแก่การกระทำของพวกเขา ผู้ที่มุ่งหาสิริรุ่งโรจน์ เกียรติยศ และความเป็นอมตะ โดยยืนหยัดกระทำความดี จะได้รับชีวิตนิรันดร ส่วนผู้ที่เห็นแก่ตัวไม่ปฏิบัติตามความจริงแต่กลับปฏิบัติตามความอธรรม จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก ความทุกข์โศกจะมาถึงมนุษย์ทุกคนที่กระทำความชั่ว ถึงชาวยิวเป็นอันดับแรก แล้วจึงถึงคนต่างชาติด้วย ส่วนความรุ่งโรจน์ เกียรติยศและสันติ จะมาถึงทุกคนที่กระทำความดี ถึงชาวยิวเป็นอันดับแรก แล้วจึงถึงคนต่างชาติด้วย พระเจ้าไม่ทรงลำเอียงแต่ประการใด
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา ลก 11:42-46
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “วิบัติจงเกิดแก่ท่าน บรรดาชาวฟาริสี ท่านถวายหนึ่งในสิบของสะระแหน่ สมุนไพรและผักทุกชนิด แต่ละเลยความยุติธรรมและความรักต่อพระเจ้า บทบัญญัติเหล่านี้จำเป็นต้องปฏิบัติโดยไม่ละเว้นบทบัญญัติอื่น ๆ
วิบัติจงเกิดแก่ท่าน บรรดาชาวฟาริสี ท่านชอบนั่งแถวหน้าในศาลาธรรม และชอบให้ผู้คนคำนับตามลานสาธารณะ วิบัติจงเกิดแก่ท่าน ท่านเป็นเหมือนหลุมศพที่มองไม่เห็น คนจะเดินเหยียบไปโดยไม่รู้’
นักกฎหมายคนหนึ่งจึงทูลพระองค์ว่า ‘พระอาจารย์ ท่านพูดเช่นนี้ ท่านก็สบประมาทพวกเราด้วย’
พระองค์ตรัสตอบว่า ‘ท่านนักกฎหมายทั้งหลาย วิบัติจงเกิดแก่ท่านด้วย ท่านให้ผู้อื่นแบกสัมภาระหนักเกินกำลัง แต่ท่านไม่ยอมแม้แต่จะใช้นิ้วแตะต้องสัมภาระนั้น
ข้อคิด
ชาวฟาริสี เคร่งครัดในเรื่องจุกจิกเล็กน้อยที่จะต้องถวายหนึ่งในสิบของผลผลิตแก่พระวิหาร (ลนต 27,30 และ ฉธบ 14,22-27) แต่กลับละเลยกฎหมายในข้อที่สำคัญกว่า คือความยุติธรรมและความรัก (ลก 10,25-28) ความเคร่งครัดของพวกฟาริสีได้กีดกันประชาชนให้ห่างจากพระเจ้า ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นเหมือนหลุมศพที่มองไม่เห็น เพราะชาวยิวถือว่าใครที่สัมผัสศพจะมีมลทินและไม่สามารถไปนมัสการที่พระวิหารได้ (กดว 19,11-16) ดังนั้น ขอให้ความเคร่งครัดในชีวิตคริสตชนของเราไม่ได้กีดกัน แต่ทำให้เราและพี่น้องได้ใกล้ชิดกัน และใกล้ชิดกับพระเป็นเจ้ามากยิ่งขึ้น