Logo

วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม 2021 สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา

หมวด: กรกฎาคม 2021
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 711

บทอ่านจากหนังสือปฐมกาล                                       ปฐก 49:29-33 และ 50:15-24
     ในครั้งนั้น ยาโคบสั่งบรรดาบุตรว่า “บัดนี้ พ่อกำลังจะไปอยู่รวมกับบรรพบุรุษของพ่อ จงฝังพ่อไว้กับบรรพบุรุษของพ่อในถ้ำที่อยู่ในนาของเอโฟรน ชาวฮิตไทต์ คือในถ้ำที่อยู่ในทุ่งนาแห่งมัคเปลาห์ ตรงข้ามมัมเร ในแผ่นดินคานาอัน อับราฮัมซื้อถ้ำและทุ่งนาจากเอโฟรน ชาวฮิตไทต์ไว้เป็นที่ฝังศพของตน ที่นั่นเขาได้ฝังศพของอับราฮัมและนางซาราห์ผู้เป็นภรรยา ที่นั่นเขาฝังศพของอิสอัคและนางเรเบคาห์ ผู้เป็นภรรยาและที่นั่นพ่อก็ฝังนางเลอาห์ไว้ด้วย ทุ่งนาและถ้ำซึ่งอยู่ในทุ่งนานั้นซื้อมาจากชาวฮิตไทต์”
เมื่อยาโคบสั่งเสียบรรดาบุตรเสร็จแล้ว เขาล้มตัวลงนอนบนเตียงและสิ้นใจ ไปรวมอยู่กับบรรพบุรุษ
     หลังจากบิดาสิ้นชีวิตแล้ว บรรดาพี่ชายของโยเซฟมีความกลัว จึงปรึกษากันว่า “โยเซฟอาจมีความเคืองแค้นพวกเรา คิดจะแก้แค้นการประทุษร้ายที่พวกเราเคยทำกับเขา” พี่ชายจึงส่งคนไปบอกโยเซฟว่า “บิดาของท่านสั่งพวกเราไว้ก่อนที่จะสิ้นใจว่า จงบอกโยเซฟด้วยว่า พ่อขอร้องลูกให้อภัยการประทุษร้ายและบาปที่พี่ชายทำต่อลูก” บัดนี้ ขอท่านโปรดให้อภัยความผิดของพวกเราที่เป็นผู้รับใช้พระเจ้าของบิดาของท่านด้วยเถิด เมื่อโยเซฟได้ยินคำพูดเช่นนี้ก็ร้องไห้
     บรรดาพี่ชายมาหาโยเซฟ กราบลงต่อหน้าเขาพูดว่า “พวกเรามาอยู่ต่อหน้าท่าน ขอเป็นทาสของท่าน” แต่โยเซฟตอบว่า “อย่ากลัวเลย ฉันไม่ใช่พระเจ้า จะตัดสินลงโทษท่านได้อย่างไร พวกพี่วางแผนทำร้ายฉัน แต่พระเจ้าทรงเปลี่ยนให้ร้ายกลายเป็นดีดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ คือเพื่อรักษาชีวิตของหลายคนไว้ ดังนั้น พี่ ๆ อย่ากลัวไปเลย ฉันจะเอาใจใส่ดูแลพวกพี่และลูกของพี่” โยเซฟให้คำมั่นแก่บรรดาพี่ชายและพูดกับเขาด้วยความอ่อนโยน
     โยเซฟอยู่ในอียิปต์กับครอบครัวของบิดา เขามีชีวิตอยู่หนึ่งร้อยสิบปี โยเซฟได้เห็นบุตรหลานของเอฟราอิมถึงสามชั่วอายุ และเห็นบุตรของมาคีร์ บุตรของมนัสเสห์ ซึ่งโยเซฟรับเป็นบุตรบุญธรรมของตน ในที่สุด โยเซฟพูดกับบรรดาพี่น้องว่า “ฉันกำลังจะตายแล้ว แต่พระเจ้าจะทรงดูแลท่านทั้งหลายอย่างแน่นอน พระองค์จะทรงนำท่านออกจากประเทศนี้ไปยังแผ่นดินที่ทรงสัญญาโดยทรงปฏิญาณไว้กับอับราอัมอิสอัคและยาโคบ”

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                               มธ 10:24-33
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาอัครสาวกว่า “ศิษย์ย่อมไม่อยู่เหนืออาจารย์ และผู้รับใช้ย่อมไม่อยู่เหนือนาย ถ้าศิษย์เท่าเทียมกับอาจารย์ และผู้รับใช้เท่าเทียมกับนาย ก็เป็นการเพียงพอแล้ว ถ้าเขาเรียกเจ้าบ้านว่า ‘เบเอลเซบูล’ เขาจะเรียกลูกบ้านร้ายกว่านั้นสักเท่าใด”
     “อย่ากลัวมนุษย์เลย ไม่มีสิ่งใดที่ปิดบังไว้ จะไม่ถูกเปิดเผย ไม่มีสิ่งใดที่ซ่อนเร้น จะไม่มีใครรู้ สิ่งที่เราบอกท่านในที่มืด ท่านจงกล่าวออกมาในที่สว่าง สิ่งที่ท่านได้ยินกระซิบที่หู จงประกาศบนดาดฟ้าหลังคาเรือน”
     “อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย แต่ไม่อาจฆ่าวิญญาณได้ จงกลัวผู้ที่ทำลายทั้งกายและวิญญาณให้พินาศไปในนรก นกกระจอกสองตัว เขาขายกันเพียงหนึ่งบาทมิใช่หรือ ถึงกระนั้น ก็ไม่มีนกสักตัวเดียวที่ตกถึงพื้นดินโดยที่พระบิดาของท่านไม่ทรงเห็นชอบ ผมทุกเส้นบนศีรษะของท่านถูกนับไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้น อย่ากลัวเลย ท่านมีค่ามากกว่านกกระจอกจำนวนมาก”
“ทุกคนที่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราจะยอมรับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์ และผู้ที่ไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์ เราก็จะไม่รับผู้นั้นเฉพาะพระพักตร์พระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์ด้วย”

 

ข้อคิด
     ทุกคนที่ยำเกรงพระเจ้า ย่อมเป็นผู้มีความสุข พระเจ้าทรงรักมนุษย์ และรักทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงสร้างมา ด้วยพระองค์ทรงเป็นองค์ความรัก ตราบใดที่มนุษย์ยำเกรงพระเจ้า และเชื่อฟังคำสอน และปฎิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า มนุษย์จะพบความสุข เมื่อใดที่มนุษย์ไม่เกรงกลัวพระเจ้า แต่หันไปเคารพกราบไหว้ และบูชาสิ่งอื่นแทนพระเจ้า มนุษย์ผู้นั้นจะพินาศไป อย่าหลงไปกับสิ่งต่างๆในโลก ความร่ำรวยก็ดี ความสวยงามภายนอกก็ดี ทรัพย์สมบัติต่างๆ ก็ดี และแม้แต่คำพูดที่ไพเราะ (แต่ไม่มีความจริง) หรือการมีอายุยืนยาว หากปราศจากซึ่งความเคารพยำเกรงต่อพระเจ้าผู้สูงสุด ก็หามีประโยชน์อันใดไม่เลย