Logo

วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม 2021 น.เปโตร คริโซโลโก พระสังฆราช นักปราชญ์

หมวด: กรกฎาคม 2021
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 533

บทอ่านจากหนังสือเลวีนิติ                                        ลนต 23:1,4-11,15-16,27,34ข-37
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสสว่า “วันสมโภชอื่น ๆ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ชาวอิสราเอลต้องมาชุมนุมกันนมัสการพระองค์ตามเวลากำหนด มีดังต่อไปนี้”
     “วันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตก ท่านจะต้องฉลองปัสกาเป็นเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า วันที่สิบห้าเดือนเดียวกัน เริ่มเทศกาลขนมปังไร้เชื้อเป็นเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะต้องกินขนมปังไร้เชื้อเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรก ท่านจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า และงดทำงานทุกอย่าง ท่านจะต้องถวายสิ่งของเป็นเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าทั้งเจ็ดวัน ในวันที่เจ็ด ท่านจะต้องจัดชุมนุมนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่งและงดทำงานทุกอย่าง”
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสสั่งโมเสส ให้บอกชาวอิสราเอลอีกว่า “เมื่อท่านทั้งหลายเข้าไปในแผ่นดินที่เราจะให้แก่ท่านและจะเก็บเกี่ยวพืชผลได้แล้ว ท่านจะต้องนำข้าวฟ่อนแรกที่เก็บเกี่ยวได้ไปมอบให้สมณะ สมณะจะนำข้าวฟ่อนนั้นไปยื่นถวายตามพิธีแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระองค์จะทรงรับและโปรดปรานท่าน สมณะจะนำข้าวฟ่อนนี้มายื่นถวายตามพิธีหลังวันสับบาโตหนึ่งวัน
     “ท่านทั้งหลายจะต้องนับเจ็ดสัปดาห์เต็มตั้งแต่วันหลังวันสับบาโตที่ท่านนำข้าวฟ่อนแรกมายื่นถวายตามพิธี ท่านจะต้องนับห้าสิบวัน จนถึงวันหลังวันสับบาโตที่เจ็ด จึงจะนำพืชผลใหม่มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
     “วันที่สิบของเดือนที่เจ็ดจะเป็นวันขออภัยบาป ท่านทั้งหลายจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะต้องจำศีลอดอาหารและนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาใช้ไฟเผา “วันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ดนี้จะเริ่มเทศกาลอยู่เพิงถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเวลาเจ็ดวัน ในวันแรกท่านทั้งหลายจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าและงดทำงานทุกอย่าง ในระหว่างเจ็ดวันนั้นท่านจะต้องนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาใช้ไฟเผา ในวันที่แปด ท่านจะต้องจัดชุมนุมเพื่อนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า และจะต้องนำสิ่งของมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่ใช้ไฟเผา ในวันที่ท่านมาชุมนุมกันเช่นนี้ ท่านจะต้องงดทำงานทุกอย่าง”
     “นี่คือวันสมโภชองค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ท่านจะต้องเรียกประชาชนมาชุมนุมกันเพื่อนมัสการพระองค์ และเพื่อนำของมาใช้ไฟเผาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ได้แก่ เครื่องเผาบูชา ธัญบูชา ศานติบูชา และการเทเหล้าองุ่นถวายตามพิธีการของวันฉลองแต่ละวัน

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                              มธ 13:54-58
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จออกจากที่นั่นมายังถิ่นกำเนิดของพระองค์ ทรงสั่งสอนในศาลาธรรมของชาวยิว ประชาชนต่างประหลาดใจและพูดว่า “คนนี้เอาปรีชาญาณและอำนาจทำอัศจรรย์มาจากที่ใด
     เขาเป็นลูกช่างไม้มิใช่หรือ แม่ของเขาชื่อมารีย์ พี่ชายน้องชายของเขามิใช่ยากอบ โยเซฟ ซีโมน และยูดาหรือ พี่สาวน้องสาวทุกคนของเขาก็อยู่กับเรามิใช่หรือ เขาไปได้สิ่งเหล่านี้มาจากที่ใด” คนเหล่านี้รู้สึกสะดุดใจและไม่ยอมรับพระองค์ พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ประกาศกย่อมไม่ถูกเหยียดหยามนอกจากในถิ่นกำเนิดและในบ้านของตน” พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ที่นั่นไม่มากนัก เพราะเขาเหล่านั้นไม่มีความเชื่อ

 

ข้อคิด
     ชาวนาซาเรธเป็นคนค่อนข้างปิดตัว ไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆ เอาแต่ยึดมั่นถือมั่นกับสิ่งเดิมๆ คนเมืองอื่นจึงมักจะพูดเชิงดูถูกว่า “จะมีอะไรดีจากนาซาเรธ” นอกนั้น ในระหว่างพวกเขาเองก็ไม่อยากให้ใครดีกว่าใคร พวกเขาจึงรับพระเยซูเจ้าไม่ได้เมื่อพระองค์เสด็จกลับมาหลังจากที่ออกไปเทศน์สอนประกาศข่าวดีและได้รับการชื่นชมจากผู้คน พวกเขาเอาแต่ถามว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะพวกเขารู้จักพระองค์ รู้จักพ่อแม่ รู้จักพี่น้อง รู้ด้วยว่าทรงเป็นแค่ช่างไม้ แล้วจู่ๆจะมาเป็นอาจารย์ตามคำร่ำลือได้อย่างไร ทว่าเบื้องหลังของท่าทีเหล่านี้คือความยังไม่พร้อมจะเปิดใจรับข่าวดีของพระองค์ แล้วใช้ข้อมูลที่มีเพื่อแก้ตัวและลดความน่าเชื่อถือของพระองค์ ใครที่มีท่าทีแบบนี้ก็คงไม่พร้อมสำหรับข่าวดีเช่นกัน