วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2020 น.ดามาซัสที่ 1 พระสันตะปาปา
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนธันวาคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 20 สิงหาคม 2563 03:22
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 825
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 48:17-19
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระผู้กอบกู้ของท่าน พระผู้ศักดิ์สิทธิ์ของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า“เราคือองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เราสั่งสอนท่านเพื่อประโยชน์ของท่าน นำท่านไปในทางที่ท่านต้องเดิน ถ้าท่านตั้งใจฟังบทบัญญัติของเรา ความเจริญรุ่งเรืองของท่านคงจะเป็นเหมือนแม่น้ำ ความชอบธรรมของท่านคงจะเป็นเหมือนคลื่นทะเล ลูกหลานของท่านจะมีจำนวนมากเหมือนทราย เชื้อสายของท่านจะเป็นเหมือนเม็ดทราย ชื่อของเขาจะไม่ถูกตัด และไม่ถูกลบออกไปต่อหน้าเราเลย”
สดด 1:1-6
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 11:16-19
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า“เราจะเปรียบคนยุคนี้กับสิ่งใด เขาเป็นเสมือนเด็กๆ ที่นั่งตามลานสาธารณะ ร้องบอกเพื่อนๆ ว่าพวกเราเป่าขลุ่ยพวกเจ้าก็ไม่เต้นรำพวกเราร้องเพลงโศกเศร้าพวกเจ้าก็ไม่ร่ำไห้ยอห์นมา ไม่กิน ไม่ดื่ม เขาก็ว่า ‘คนนี้มีปีศาจสิง’ บุตรแห่งมนุษย์มา กินและดื่ม เขาก็ว่า ‘ดูซิ นักกิน นักดื่ม เป็นเพื่อนกับคนเก็บภาษีและคนบาป’ แต่พระปรีชาญาณของพระเจ้าผ่านการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้องโดยกิจการ”
ข้อคิด
ความไม่สนใจกันนั้นสร้างความเจ็บปวดมากกว่าการเกลียดชังกัน เสมือนว่าบุคคลนั้นไม่มีตัวตนอยู่บนโลกนี้ มีหลายคนเผชิญกับสถานการณ์นั้น และหลายคนได้กระทำสิ่งเหล่านั้นกับผู้อื่นเช่นกัน เป็นสิ่งที่น่ากลัวและอันตรายสำ หรับโลกของเราในปัจจุบันและต่อไปในอนาคตเป็นโอกาสดีที่เราจะได้มองดูสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา สนใจคนที่อยู่ข้างๆ เรา ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความทุกข์ ความสบาย ความยากลำ บาก เพราะการที่เรายังมีความรู้สึกนั่นแสดงให้ยังรู้ว่าเราเป็นมนุษย์และยังมีชีวิต
วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม 2020 พระนางมารีย์พรหมจารี แห่งกวาดาลูเป
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนธันวาคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 20 สิงหาคม 2563 03:17
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 798
บทอ่านจากหนังสือบุตรสิรา บสร 48:1-4,9-11
ต่อจากนั้นก็มีเรื่องราวของประกาศกเอลียาห์ซึ่งเป็นเหมือนไฟ วาจาของเขาเผาผลาญเหมือนคบไฟ เขาทำให้เกิดขาดแคลนอาหารในหมู่ประชากร ความกระตือรือร้นของเขาทำให้ประชากรลดจำนวนลง เขาปิดท้องฟ้าตามพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทำให้ไฟลงมาจากท้องฟ้าถึงสามครั้ง ข้าแต่เอลียาห์ ท่านช่างมีชื่อเสียงรุ่งเรืองเพราะการอัศจรรย์ที่ได้ทำ ใครบ้างจะอวดตัวได้ว่าตนเท่าเทียมกับท่าน
ท่านถูกยกขึ้นไปในพายุหมุนที่เป็นไฟบนรถเทียมม้าเพลิง ท่านถูกกำหนดไว้ให้มาตำหนิประชากรในอนาคต เพื่อจะได้ระงับพระพิโรธก่อนที่จะลุกเป็นไฟ เพื่อนำจิตใจของบิดามาคืนดีกับบุตร และแต่งตั้งบรรดาเผ่าของยาโคบขึ้นใหม่ บรรดาผู้ที่เคยเห็นท่านย่อมเป็นสุข เขาตายในความรัก เพราะเราทั้งหลายจะได้มีชีวิตอย่างแน่นอนเช่นเดียวกัน
สดด 80:1-2ก,14-15,17-18
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 17:10-13
เวลานั้น บรรดาศิษย์ทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “เหตุใดบรรดาธรรมาจารย์จึงกล่าวว่า เอลียาห์ต้องมาก่อน” พระองค์ตรัสตอบว่า “ใช่แล้ว เอลียาห์จะมาและจะจัดทุกสิ่งให้อยู่ในสภาพเดิม เราบอกท่านทั้งหลายว่า เอลียาห์ได้มาแล้ว แต่ประชาชนไม่รู้จักและทำต่อเขาตามใจชอบ บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับการทรมานจากประชาชนเช่นเดียวกัน” บรรดาศิษย์จึงเข้าใจว่า พระองค์ตรัสถึงยอห์นผู้ทำพิธีล้าง
ข้อคิด
ในรูปแม่พระแห่งกวาดาลูเป เราสามารถมองเห็นถึงพระคริสตเจ้าบุตรของพระนางในรูปนี้ เราจะต้องมองลึกเข้าไปที่ริบบิ้นสีม่วงดำ ที่คาดเหนือท้องของพระนาง ตามปกติหญิงชาวอินเดียนแดงจะรัดสายนี้ไว้รอบเอวเหมือนเป็นเข็มขัด แต่ ถ้าหญิงใดได้ตั้งครรภ์ก็จะรัดสูงขึ้นไปเหนือท้องอย่างที่เห็นในรูปของพระแม่รูปนี้ ดังนั้นแล้ว แม่พระแห่งกวาดาลูเป เป็นพระแม่แห่งการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า พระแม่แห่งความหวัง พระแม่แห่งการรอคอยอย่างอดทนในการให้บังเกิดพระบุตรของพระนาง องค์พระมหาไถ่ของชาวเรา
วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2020 ระลึกถึง น.ยอห์น แห่งไม้กางเขน นักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนธันวาคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 20 สิงหาคม 2563 03:09
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 832
บทอ่านจากหนังสือกันดารวิถี กดว 24:2-7,15-17
ในครั้งนั้น บาลาอัมเงยหน้าขึ้นเห็นอิสราเอลตั้งค่ายอยู่ตามเผ่าของตน พระจิตของพระเจ้าเสด็จมาเหนือเขา เขาจึงกล่าวคำทำนายเป็นบทประพันธ์ดังนี้ “คำทำนายของบาลาอัม บุตรของเบโอร์ คำทำนายของบุรุษผู้มีตาเห็นไกล คำทำนายของผู้ได้ฟังพระวาจาพระเจ้า ผู้เห็นนิมิตของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ เมื่อเขาเข้าฌาน ตาของเขาก็เปิดออก ยาโคบเอ๋ย กระโจมของท่านช่างงามจริง อิสราเอลเอ๋ย ที่อาศัยของท่านช่างงดงาม เหมือนลำธารที่แยกออกเป็นหลายสาย เหมือนสวนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำ เหมือนต้นหางจระเข้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงปลูก เหมือนต้นสนสีดาร์ที่อยู่ริมน้ำ น้ำจะไหลออกจากถังของเขา และพืชพันธุ์ของเขาจะมีน้ำอุดมสมบูรณ์ กษัตริย์ของเขาจะยิ่งใหญ่กว่าอากัก อาณาจักรของเขาจะเป็นที่ยกย่อง
เขาจึงกล่าวคำทำนายเป็นบทประพันธ์ดังนี้ “คำทำนายของบาลาอัม บุตรของเบโอร์ คำทำนายของบุรุษผู้มีตาเห็นไกล คำทำนายของผู้ฟังพระวาจาของพระเจ้า ผู้รับความรู้จากพระผู้สูงสุด ผู้เห็นนิมิตของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ เมื่อเขาเข้าฌาน ตาของเขาก็เปิดออก ข้าพเจ้าเห็นเขา แต่ไม่ใช่บัดนี้ ข้าพเจ้ามองดูเขา แต่ไม่ใช่จากใกล้ๆ ดาวดวงหนึ่งกำลังขึ้นมาจากยาโคบ คทาอันหนึ่งกำลังขึ้นมาจากอิสราเอล จะทุบหน้าผากของโมอับ และทุบกะโหลกศีรษะบุตรทุกคนของเสท
สดด 25:4-6,7-9,10
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 21:23-27
เวลานั้น พระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในพระวิหาร ขณะที่ทรงสั่งสอนประชาชนอยู่นั้น บรรดาหัวหน้าสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนเข้ามาพบพระองค์แล้วทูลถามว่า “ท่านมีอำนาจใดจึงทำเช่นนี้ ใครมอบอำนาจนี้ให้ท่าน”
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราขอถามท่านอย่างหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าท่านตอบ เราก็จะบอกท่านว่าเราทำเช่นนี้ด้วยอำนาจใด พิธีล้างของยอห์นมาจากไหน จากสวรรค์หรือจากมนุษย์” บรรดาสมณะและผู้อาวุโสของประชาชนจึงปรึกษากันว่า “ถ้าเราตอบว่ามาจากสวรรค์ เขาก็จะถามว่า ‘แล้วทำไมท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’ ถ้าเราตอบว่ามาจากมนุษย์ เราก็เกรงกลัวประชาชน เพราะทุกคนคิดว่ายอห์นเป็นประกาศก”
เขาจึงทูลตอบพระเยซูเจ้าว่า “เราไม่รู้” พระองค์จึงตรัสว่า “เราก็ไม่บอกท่านเช่นเดียวกันว่า เราทำการเหล่านี้โดยอำนาจใด”
ข้อคิด
พระเยซูเจ้าไม่เพียงแค่ทรงตอบโต้บรรดผู้อาวุโสและฟาริสีด้วยการตั้งคำถามกลับเท่านั้น แต่พระองค์ทรงทำให้พวกเขาคิดและเข้าใจถึงอำนาจของพระองค์ว่ามาจากไหน นี่คือพระปรีชาสามารถของพระเยซูเจ้า มิใช่เพื่อเอาชนะหรือทำให้พวกเขาเสียหน้า แต่ทำให้พวกเขาได้ไตร่ตรอง เรียนรู้และเข้าใจ หลายครั้งในชีวิตของเรา พระเยซูเจ้าทรงสอนและทรงช่วยให้เราคิดไตร่ตรองถึงพระธรรมล้ำลึกของพระองค์ในรูปแบบต่างๆ หากเราเข้าใจถึงสิ่งเหล่านั้น เราก็จะพบสันติสุขและพลังในการดำเนินชีวิตอย่างมีความสุขในโลกนี้ และมีความหวัง ความวางใจในชีวิตนิรันดรในโลกหน้า
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม 2020 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนธันวาคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 20 สิงหาคม 2563 03:13
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 1297
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์ อสย 61:1-2ก,10-11
พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปปลอบโยนคนที่มีใจชอกช้ำ ประกาศอิสรภาพแก่เชลย ประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่งในองค์พระผู้เป็นเจ้า วิญญาณของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระเจ้าของข้าพเจ้า เพราะพระองค์ประทานความรอดพ้นแก่ข้าพเจ้าเป็นเสมือนอาภรณ์ที่ทรงสวมให้ ประทานความชอบธรรมให้ข้าพเจ้าเป็นเสมือนเสื้อคลุม ข้าพเจ้าเป็นเหมือนเจ้าบ่าวที่โพกศีรษะอย่างงดงาม เหมือนเจ้าสาวประดับตนด้วยเพชรนิลจินดา เพราะแผ่นดินบังเกิดพืชผล และสวนทำให้เมล็ดพืชงอกขึ้นฉันใด องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทรงบันดาลให้เกิดความชอบธรรมและการสรรเสริญต่อหน้านานาชาติฉันนั้น
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวเธสะโลนิกา ฉบับที่หนึ่ง 1 ธส 5:16-24
พี่น้อง จงร่าเริงยินดีเสมอ จงอธิษฐานภาวนาอย่างสม่ำเสมอ จงขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี เพราะพระองค์ทรงปรารถนาให้ท่านทำสิ่งเหล่านี้ในพระคริสตเยซู
อย่าดับไฟของพระจิตเจ้า อย่าดูหมิ่นการประกาศพระวาจา จงทดสอบทุกสิ่งและยึดสิ่งที่ดีงามไว้ จงละเว้นความชั่วทุกรูปแบบ
ขอองค์พระเจ้าผู้ประทานสันติ บันดาลให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างสมบูรณ์ ขอพระองค์ทรงคุ้มครองท่านให้พ้นคำตำหนิทั้งด้านจิตใจ วิญญาณและร่างกาย เมื่อพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราเสด็จมา พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นทรงซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงกระทำให้สำเร็จ
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญยอห์น ยน 1:6-8,19-28
พระเจ้าทรงส่งชายผู้หนึ่งมา เขาชื่อยอห์น เขามาในฐานะพยานเพื่อเป็นพยานถึงแสงสว่าง เขาไม่ใช่แสงสว่างแต่เป็นพยานถึงแสงสว่าง
ยอห์นเป็นพยานดังนี้ เมื่อชาวยิวจากกรุงเยรูซาเล็มส่งบรรดาสมณะและชาวเลวีไปถามยอห์นว่า “ท่านเป็นใคร” เขามิได้ปิดบังความจริง แต่ยืนยันว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่พระคริสต์” ดังนั้น เขาเหล่านั้นจึงถามว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นใคร เป็นเอลียาห์หรือ” ยอห์นตอบว่า “ข้าพเจ้าไม่ใช่เอลียาห์” “ท่านเป็นประกาศกหรือ” เขาตอบอีกว่า “ไม่ใช่” เขาเหล่านั้นจึงถามว่า “ท่านเป็นใคร เราจะได้นำคำตอบไปให้ผู้ที่ส่งเรามา ท่านพูดถึงตนเองอย่างไร” ยอห์นตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่าจงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด”ดังที่ประกาศกอิสยาห์ได้กล่าวไว้
ผู้ที่ถูกส่งไปถามนั้นเป็นชาวฟาริสี เขาถามยอห์นอีกว่า “ทำไมท่านจึงทำพิธีล้าง ถ้าท่านไม่ใช่พระคริสต์ ไม่ใช่เอลียาห์ และไม่ใช่ประกาศก” ยอห์นตอบพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าใช้น้ำทำพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่มีผู้หนึ่งประทับอยู่ในหมู่ท่าน เป็นผู้ที่ท่านไม่รู้จัก ผู้นั้นมาภายหลังข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา”
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านเบธานี อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำจอร์แดนซึ่งยอห์นกำลังทำพิธีล้างอยู่
ข้อคิด
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า นอกจากเป็นเทศกาลแห่งการเตรียมตัวเตรียมจิตใจต้อนรับพระคริสตเจ้าแล้ว ยังเป็นเทศกาลแห่งการรู้จักตัวเองว่า “ฉันคือใคร” เป็นการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา บทบาทหน้าที่ของเรา ไม่ใช่รับรู้เพียงจากเสียงสะท้อนของผู้อื่น แต่เป็นการค้นพบตัวตนของเราอีกครั้งหนึ่ง ช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาสให้เราได้ไตร่ตรองถึงชีวิตของเราเองว่า เราเกิดมาทำ ไม เกิดมาเพื่อทำอะไร เป็นโอกาสให้มองดูชีวิตของเราในฐานะศิษย์พระคริสต์ที่มุ่งสู่การเป็นศิษย์ธรรมทูต ทำให้เราสามารถเตรียมตัวพร้อมออกไปประกาศข่าวดี และเป็นประจักษ์พยานในการเสด็จมาบังเกิดของพระองค์ ในที่สุดแล้ว เราสามารถยืนยันตัวเราเองได้อย่างมั่นใจว่า “ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด”
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม 2020 สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
- รายละเอียด
- หมวด: เดือนธันวาคม 2020
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 20 สิงหาคม 2563 03:05
- เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
- ฮิต: 874
บทอ่านจากหนังสือประกาศกเศฟันยาห์ ศฟย 3:1-2,9-13
วิบัติจงเกิดแก่เมืองที่เป็นกบฏและมีมลทิน เมืองที่กดขี่ข่มเหง เมืองนี้ไม่ยอมฟังเสียง ไม่ยอมรับคำสั่งสอน ไม่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่มาใกล้พระเจ้าของตน
ใช่แล้ว เวลานั้น เราจะชำระปากของชนหลายชาติให้พ้นมลทิน เขาทุกคนจะได้เรียกพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า และรับใช้พระองค์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จากฟากโน้นของแม่น้ำเอธิโอเปีย ผู้นมัสการเราจะนำของถวายมาให้เรา
ในวันนั้น เจ้าจะไม่ต้องอับอาย เพราะกิจการที่เจ้าเคยกบฏต่อเรา เพราะเวลานั้น เราจะทำให้ผู้โอ้อวดและหยิ่งผยองสูญหายไปจากเจ้า เจ้าจะไม่หยิ่งผยองอีกต่อไป บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะเราจะเหลือเพียงประชากรที่ถ่อมตนและต่ำต้อยไว้ในเจ้า คนที่เหลืออยู่ในอิสราเอลจะวางใจในพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้รอดชีวิตเหลืออยู่ของอิสราเอลจะไม่ทำผิด จะไม่กล่าวคำมุสา จะไม่พบลิ้นที่ฉ้อโกงในปากของเขา เพราะเขาทั้งหลายจะหากินและพักผ่อน โดยไม่มีผู้ใดทำให้เขาต้องหวาดกลัว
สดด 34:1-2,5-7,17-18,22
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว มธ 21:28-32
เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับพวกมหาปุโรหิตและผู้อาวุโสของประชาชนว่า“ท่านทั้งหลายคิดเห็นอย่างไร ชายคนหนึ่งมีบุตรสองคน เขาไปพบบุตรคนแรกพูดว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้ จงไปทำงานในสวนองุ่นเถิด’ บุตรตอบว่า ‘ลูกไม่อยากไป’ แต่ต่อมาก็เปลี่ยนใจและไปทำงาน พ่อจึงไปพบบุตรคนที่สอง พูดอย่างเดียวกัน บุตรคนที่สองตอบว่า ‘ครับพ่อ’ แต่แล้วก็ไม่ได้ไป สองคนนี้ใครทำตามใจพ่อ” พวกเขาตอบว่า “คนแรก” พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนท่าน เพราะยอห์นได้มาพบท่าน ชี้หนทางแห่งความชอบธรรม ท่านก็ไม่เชื่อยอห์น ส่วนคนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีเชื่อ แต่ท่านทั้งหลายเห็นดังนี้แล้ว ก็ยังคงไม่เปลี่ยนใจมาเชื่อยอห์น”
ข้อคิด
การกระทำนั้นดังกว่าคำพูด หากเราเพียงพูดว่าจะทำ แต่ไม่ได้ลงมือทำก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่การกระทำนั้นก็ไม่ได้สำคัญที่สุด ถ้าหากเราไม่เต็มใจหรือจริงใจต่อการกระทำนั้น นี่คือสิ่งที่พระจ้าทรงมีพระประสงค์ต่อเราทุกคน คือหัวใจที่พร้อมจะเปิดรับการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจอยู่เสมอการกลับใจของเรานั้นจะไม่มีความหมายหากเราไม่จริงใจ หากเราไม่ได้แสดงออกถึงการเปลี่ยนแปลและการคืนดี สิ่งเหล่นี้ต้องอาศัยความอ่อนน้อม ถ่อมตน และรู้ตัวว่า เรานั้นต้องการและได้รับการช่วยเหลือจากพระเจ้าอยู่เสมอ