Logo

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม 2020 น.ชาร์เบล มาคลุฟ พระสงฆ์

หมวด: เดือนกรกฎาคม 2020
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี
ฮิต: 859

บทอ่านจากหนังสือประกาศกเยเรมีย์                               ยรม 3:14-17
     องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “ลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย จงกลับมาเถิด เพราะเราเป็นเจ้านายของท่าน เราจะนำท่านกลับมายังศิโยน จะนำคนหนึ่งจากแต่ละเมือง และสองคนจากแต่ละครอบครัว เราจะให้ผู้เลี้ยงที่ทำตามใจเราแก่ท่าน เขาจะเลี้ยงดูท่านด้วยความรู้และความเข้าใจ องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส เมื่อท่านทั้งหลายจะทวีจำนวนในแผ่นดิน เวลานั้น เขาทั้งหลายจะไม่พูดถึง ‘หีบพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า’ อีกต่อไป จะไม่มีใครคิดถึง ไม่มีใครจดจำ ไม่มีใครรู้สึกเสียดาย ไม่มีใครทำขึ้นใหม่เลย เวลานั้นเขาจะเรียกกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นพระบัลลังก์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า นานาชาติจะรวมกันเข้ามาที่นั่น ที่กรุงเยรูซาเล็ม เดชะพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า เขาจะไม่ปฏิบัติตามใจชั่วและดื้อกระด้างอีกต่อไป”

 

ยรม 31:10.11-12กข,13

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว                                  มธ 13:18-23
     เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า“จงฟังความหมายของอุปมาเรื่องผู้หว่านเถิด เมื่อคนหนึ่งฟังพระวาจาเรื่องพระอาณาจักรและไม่เข้าใจ มารร้ายก็มาและถอนสิ่งที่หว่านลงในใจของเขาไปเสีย นั่นได้แก่ เมล็ดที่ตกริมทาง เมล็ดที่ตกบนหินคือผู้ฟังพระวาจาและมีความยินดีรับไว้ทันที แต่เขาไม่มีรากในตัว จึงไม่มั่นคง เมื่อเผชิญความยากลำบากหรือถูกเบียดเบียนเพราะพระวาจานั้น เขาก็ยอมแพ้ทันที เมล็ดที่ตกในพงหนามหมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจา แต่ความวุ่นวายในทางโลก ความลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติเข้ามาบดบังพระวาจาไว้ จึงไม่เกิดผล ส่วนเมล็ดที่หว่านลงในดินดี หมายถึงบุคคลที่ฟังพระวาจาและเข้าใจ จึงเกิดผลร้อยเท่าบ้าง หกสิบเท่าบ้าง สามสิบเท่าบ้าง”

 

ข้อคิด
     "จงกลับมาเถิด" คำนี้เป็นคำเชื้อเชิญให้เปลี่ยนวิถีชีวิต...น้อมรับพระเจ้าและยินยอมให้พระองค์ทรงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด...ทำตามพระประสงค์ของพระองค์มิใช่เดินตามแผนการของตนเองอีกตัวบทพระวรสารวันนี้เป็น "คำอธิบายอุปมาเรื่องผู้หว่าน" ...การเข้าใจพระวาจาเป็นเรื่องสำคัญ เพราะผลจะเกิดหรือไม่ เกิดมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจเป็นสำคัญ ดังนั้น เมื่อเราฟังพระวาจาทุกครั้ง เราจึงถามตัวเราเองว่า "พระวาจาตอนนี้หมายความว่าอะไร"ประสบการณ์สอนเราว่า การฟังพระวาจาให้เข้าใจทุกบททุกตอนนั้นมิใช่เรื่องง่ายจึงจำเป็นต้องศึกษาด้วยการอ่าน ไต่ถามผู้รู้ สนทนาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกันแล้วเราจะเข้าใจพระวาจานั้นที่ละเล็กละน้อยที่สำคัญ ก่อนอ่านพระวาจา เราต้องสวดขอความสว่างจากองค์พระจิตเจ้า ช่วยเราให้เข้าใจสิ่งที่อ่าน เพราะพระองค์ตรัสว่า "จงขอแล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหา แล้วท่านจะพบ"