Logo

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2016 ระลึกถึง น.เซซีลีอา พรหมจารีและมรณสักขี

หมวด: เดือนพฤศจิกายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 1256

บทอ่านจากหนังสือวิวรณ์                                               วว 14:14-19
     ข้าพเจ้าเห็นนิมิต มีเมฆขาวก้อนหนึ่ง บนเมฆนั้นมีผู้หนึ่งเหมือนบุตรแห่งมนุษย์นั่งอยู่ ศีรษะสวมมงกุฎทองคำ มือถือเคียวคม ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งออกจากพระวิหารร้องเสียงดังบอกผู้ที่นั่งอยู่บนก้อนเมฆว่า “จงใช้เคียวของท่านเกี่ยวเถิด เพราะเวลาเก็บเกี่ยวมาถึงแล้ว และพืชผลของแผ่นดินพร้อมที่จะเก็บเกี่ยวได้แล้ว” ผู้ที่นั่งบนเมฆจึงใช้เคียวเกี่ยวลงไปบนแผ่นดิน และพืชผลของแผ่นดินก็ถูกเก็บเกี่ยว
     ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งออกจากพระวิหารในสวรรค์ ถือเคียวคมมาด้วย ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งมีอำนาจเหนือไฟออกมาทางพระแท่นบูชา ร้องเสียงดังบอกทูตสวรรค์ผู้ถือเคียวคมว่า “จงใช้เคียวคมของท่านเก็บพวงองุ่นจากสวนองุ่นของ แผ่นดิน เพราะผลองุ่นสุกแล้ว” ทูตสวรรค์นั้นจึงใช้เคียวเกี่ยวลงไปบนแผ่นดิน เก็บเกี่ยวสวนองุ่นของแผ่นดิน แล้วโยนผลองุ่นลงไปในบ่อย่ำองุ่นบ่อใหญ่ซึ่งหมายถึงการลงโทษจากพระเจ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                   ลก 21:5-11
     ขณะนั้นบางคนให้ข้อสังเกตว่าพระวิหารมีหินและของถวายตกแต่งอย่างงดงาม พระเยซูเจ้าจึงตรัสว่า “สักวันหนึ่ง ทุกสิ่งที่ท่านเห็นอยู่นี้ จะไม่มีก้อนหินเหลือซ้อนกันอยู่เลย” เขาจึงทูลถามพระองค์ว่า “พระอาจารย์ เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นเมื่อไร และมีเครื่องหมายใดบอกว่าเหตุการณ์นี้กำลังจะเกิดขึ้น”
     พระองค์ตรัสตอบว่า “จงระวังอย่าให้ผู้ใดหลอกลวงท่านได้ หลายคนจะอ้างนามของเรา พูดว่า ‘ฉันเป็นพระคริสต์’ และ ‘เวลากำหนดมาถึงแล้ว’ อย่าตามเขาไป เมื่อท่านทั้งหลายได้ยินข่าวลือเรื่องสงครามและการปฏิวัติ จงอย่าตกใจ เหตุการณ์เหล่านี้จำเป็นต้องเกิดขึ้นก่อน แต่ยังไม่ถึงวาระสุดท้าย” แล้วพระองค์ตรัสกับเขาว่า “ชาติหนึ่งจะลุกขึ้นต่อสู้กับอีกชาติหนึ่ง อาณาจักรหนึ่งจะลุกขึ้นต่อสู้กับอีกอาณาจักรหนึ่ง แผ่นดินไหวใหญ่หลวง ความอดอยาก และโรคระบาดจะเกิดขึ้นหลายแห่ง จะมีเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัว และเครื่องหมายยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นในท้องฟ้า”

 

ข้อคิด
     ทำไมพระศาสนจักรจึงให้ภาพที่น่าสะพรึงกลัวกับเราในตอนท้ายของปีพิธีกรรม? เป็นไปได้ว่าพระศาสนจักรซึ่งสานต่อพันธกิจแห่งการไถ่กู้ของพระเยซูเจ้า ต้องการนำผู้คนมาหาพระองค์ให้มากเท่าที่จะทำได้ ทั้งพระเจ้าและพระศาสนจักรรู้ว่าบางคนจะตอบรับเสียงเรียกและความรักที่พระองค์ได้ทรงทุ่มเทเพื่อพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีบางคนอาจต้องการคำเตือนเกี่ยวกับผลที่ตามมาของการกระทำของพวกเขาเพื่อว่าพวกเขาจะตระหนักถึงความสำคัญของพระเยซูเจ้าในชีวิต บางครั้ง ความกลัวที่จะไม่บรรลุถึงชีวิตนิรันดร หรือความกลัวตกนรก เป็นแรงจูงใจอันหนึ่งที่ทำให้หลายคนต้องทำความดี ดำเนินชีวิตตามหลักศีลธรรมอันดีงาม พระเจ้าทรงทราบเรื่องนี้ดี พระองค์จึงทรงนำภาพเหล่านี้มาเตือนเรา เพื่อเราจะเข้าใจว่าชีวิตที่ปราศจากพระองค์นั้นเป็นอย่างไร เราจะได้ระวังตัวเองและทำสิ่งที่ควรทำ ดังนั้น เราต้องเข้าใจว่าที่พระองค์เตือนเราด้วยภาพที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้เป็นเพราะว่าพระองค์ทรงต้องการให้เราอยู่ในสวรรค์กับพระองค์ตลอดนิรันดรนั่นเอง