Logo

วันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2016 ระลึกถึง น.ฟรังซิส ชาวอัสซีซี

หมวด: เดือนตุลาคม 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 597

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย             กท 1:13-24
     พี่น้อง ท่านทั้งหลายต้องเคยได้ยินเรื่องความประพฤติในอดีตของข้าพเจ้าเมื่อยังยึดถือลัทธิยิว ว่าข้าพเจ้าเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระเจ้าอย่างรุนแรง และพยายามทำลายด้วย ข้าพเจ้าเคร่งครัดในลัทธิยิวมากกว่าเพื่อนชาวยิวรุ่นเดียวกันหลายคน และมีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งในการรักษาประเพณีของบรรพบุรุษ แต่พระเจ้าผู้ทรงเลือกสรรข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา ก็ทรงเรียกข้าพเจ้าเดชะพระหรรษทานของพระองค์ และพอพระทัยที่จะสำแดงพระบุตรของพระองค์ในตัวข้าพเจ้า เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประกาศข่าวดีถึงพระบุตรแก่บรรดาคนต่างศาสนา ข้าพเจ้าไม่ได้ปรึกษามนุษย์ผู้ใดเลย และไม่ได้ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพบกับผู้เป็นอัครสาวกก่อนข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าออกเดินทางไปยังอาราเบีย และกลับมายังเมืองดามัสกัสอีก สามปีต่อมา ข้าพเจ้าขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำความรู้จักกับเคฟาส และพักอยู่กับเขาเป็นเวลาสิบห้าวัน ข้าพเจ้าไม่พบอัครสาวกอื่นๆ นอกจากยากอบ ผู้เป็นน้องชายขององค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าขอสาบานเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าว่า สิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนนี้ มิใช่ความเท็จ หลังจากนั้น ข้าพเจ้าไปในดินแดนแคว้นซีเรียและซิลิเซีย พระศาสนจักรต่างๆ ในแคว้นยูเดียยังไม่เคยรู้จักหน้าข้าพเจ้าเลย เขาเหล่านั้นเคยแต่ได้ยินว่า “ผู้ที่เคยข่มเหงพวกเรา บัดนี้กลับมาประกาศความเชื่อที่เขาเคยพยายามจะทำลาย” เขาเหล่านั้นจึงถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าเพราะข้าพเจ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                        ลก 10:38-42
     เวลานั้น ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินพร้อมกับบรรดาศิษย์ พระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง สตรีผู้หนึ่งชื่อมารธารับเสด็จพระองค์ที่บ้าน นางมีน้องสาวชื่อมารีย์ซึ่งนั่งอยู่แทบพระบาทขององค์พระผู้เป็นเจ้า คอยฟังพระวาจาของพระองค์ มารธากำลังยุ่งอยู่กับการปรนนิบัติรับใช้จึงเข้ามาทูลว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ไม่สนพระทัยหรือที่น้องสาวปล่อยดิฉันคนเดียวให้ปรนนิบัติรับใช้ ขอพระองค์บอกเขาให้มาช่วยดิฉันบ้าง” แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสตอบว่า “มารธา มารธา เธอเป็นห่วงและวุ่นวายหลายสิ่งนัก สิ่งที่จำเป็นมีเพียงสิ่งเดียว มารีย์ได้เลือกเอาส่วนที่ดีที่สุดที่จะไม่มีใครเอาไปจากเขาได้”

 

ข้อคิด
     นักบุญเปาโลได้เล่าประวัติการกลับใจของท่านเอง เราจึงรู้ว่ามิใช่แปลว่าท่านเป็นคนชั่วช้าแล้วกลับมาเป็นคนดี ท่านซื่อสัตย์ต่อธรรมบัญญัติของโมเสสที่ชาวยิวถือว่าใครรักพระยาห์เวห์ก็ต้องรักธรรมบัญญัติ แต่พอท่านมารู้จักพระเยซูเจ้าแล้วท่านจึงรู้ว่าสิ่งที่ท่านเคยหวงแหนและรักมาตั้งแต่วัยเด็กนั้นไม่สมบูรณ์และไม่มีค่าเทียบได้เลยกับการได้รู้จักและรักพระเยซูเจ้า ท่านเคยกอดธรรมบัญญัติไว้แน่นจึงเริ่มคลายแขนออกมากอดองค์พระเยซูเจ้าแทน แม้ว่าการทำงานเป็นสิ่งดีแต่เมื่อถึงเวลาต้องเลือกสิ่งสำคัญมารีย์คลายแขนออกจากทุกสิ่งที่ตนชอบแล้วมานั่งฟังพระเยซูเจ้า การมีเวลาสวดภาวนาหรือไม่มีจึงเป็นเรื่องการเลือกสิ่งที่สำคัญได้สำเร็จต่างหาก