Logo

วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2016 สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา

หมวด: เดือนมิถุนายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 984

บทอ่านจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่หนึ่ง                          1 พกษ 17:17-24
     ต่อมา บุตรชายของหญิงเจ้าของบ้านป่วยอาการหนัก ในที่สุดก็ตาย นางจึงต่อว่าเอลียาห์ว่า “ท่านผู้เป็นคนของพระเจ้า ท่านต้องการอะไรจากดิฉัน ท่านมาที่นี่เพื่อเตือนให้ดิฉันระลึกถึงความผิด เพื่อฆ่าลูกชายของดิฉันหรือ” เอลียาห์บอกนางว่า “จงส่งลูกมาให้ฉันเถิด” เอลียาห์รับเด็กมาจากอ้อมกอดของนาง อุ้มไปวางบนเตียงของตนในห้องชั้นบนที่เขาพักอยู่ เขาร้องเรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ทำไมพระองค์ทรงบันดาลให้เกิดเหตุร้ายแก่หญิงม่ายคนนี้ที่ต้อนรับข้าพเจ้าอย่างดี ทำไมพระองค์จึงทรงฆ่าลูกของนาง” เอลียาห์นอนทับเด็กคนนั้นสามครั้ง แล้วร้องเรียกองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ขอให้เด็กมีลมหายใจอีกครั้งหนึ่งเถิด”องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงฟังเสียงร้องของเอลียาห์ เด็กก็มีลมหายใจอีกครั้งหนึ่ง เขาก็มีชีวิต เอลียาห์นำเด็กจากห้องชั้นบนลงไปชั้นล่าง และมอบให้มารดา เอลียาห์พูดว่า “ดูซิ ลูกของเธอยังมีชีวิต” หญิงคนนั้นตอบว่า “บัดนี้ ดิฉันรู้แล้วว่าท่านเป็นคนของพระเจ้า และพระวาจาที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสจากปากของท่านก็เป็นความจริง”

 

เพลงสดุดี                                                                                สดด 30:1-2,4-5ก,11-12
     ก) ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้ายกย่องสรรเสริญพระองค์ เพราะพระองค์ทรงฉุดข้าพเจ้าขึ้นมา
พระองค์ไม่ทรงปล่อยให้เหล่าศัตรูยินดีที่เห็นข้าพเจ้าประสบเคราะห์ร้าย
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าร้องขอความช่วยเหลือจากพระองค์
พระองค์ก็ทรงรักษาข้าพเจ้าให้หาย
     ข) ท่านทั้งหลายผู้จงรักภักดีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า จงขับร้องสดุดีถวายพระองค์เถิด
จงสรรเสริญระลึกถึงพระนามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
พระพิโรธคงอยู่เพียงชั่วขณะหนึ่ง แต่ความโปรดปรานของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดชีวิต
     ค) พระองค์ทรงเปลี่ยนการร่ำไห้ของข้าพเจ้าให้เป็นการเริงระบำ
ทรงเปลื้องเสื้อผ้ากระสอบของข้าพเจ้าและประทานอาภรณ์งดงามให้ข้าพเจ้ายินดี
ดังนั้น ดวงใจข้าพเจ้าจะขับร้องถวายพระพระองค์มิหยุดหย่อน
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ตลอดไป

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย        กท 1:11-19
     พี่น้องข้าพเจ้าต้องการให้ท่านทั้งหลายรู้ว่าข่าวดีที่ข้าพเจ้าประกาศไปแล้วนั้นมิใช่ข่าวที่มาจากมนุษย์เพราะข้าพเจ้าไม่ได้รับมาจากมนุษย์มิได้เรียนรู้จากมนุษย์แต่ได้รับจากการเปิดเผยของพระเยซูคริสตเจ้าท่านทั้งหลายต้องเคยได้ยินเรื่องความประพฤติในอดีตของข้าพเจ้าเมื่อยังยึดถือลัทธิยิวว่าข้าพเจ้าเคยเบียดเบียนพระศาสนจักรของพระเจ้าอย่างรุนแรงและพยายามทำลายด้วยข้าพเจ้าเคร่งครัดในลัทธิยิวมากกว่าเพื่อนชาวยิวรุ่นเดียวกันหลายคนและมีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งในการรักษาประเพณีของบรรพบุรุษแต่พระเจ้าผู้ทรงเลือกสรรข้าพเจ้าไว้ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดาก็ทรงเรียกข้าพเจ้าเดชะพระหรรษทานของพระองค์และพอพระทัยที่จะสำแดงพระบุตรของพระองค์ในตัวข้าพเจ้าเพื่อข้าพเจ้าจะได้ประกาศข่าวดีถึงพระบุตรแก่บรรดาคนต่างศาสนาข้าพเจ้าไม่ได้ปรึกษามนุษย์ผู้ใดเลยและไม่ได้ขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อพบกับผู้เป็นอัครสาวกก่อนข้าพเจ้าแต่ข้าพเจ้าออกเดินทางไปยังอาราเบียและกลับมายังเมืองดามัสกัสอีกสามปีต่อมาข้าพเจ้าขึ้นไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อทำความรู้จักกับเคฟาสและพักอยู่กับเขาเป็นเวลาสิบห้าวันข้าพเจ้าไม่พบอัครสาวกอื่นๆนอกจากยากอบผู้เป็นน้องชายขององค์พระผู้เป็นเจ้า

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                          ลก 7:11-17
     หลังจากนั้นไม่นาน พระเยซูเจ้าเสด็จไปที่เมืองหนึ่งชื่อนาอิน บรรดาศิษย์และประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ไป เมื่อพระองค์เสด็จมาใกล้ประตูเมืองก็ทรงเห็นคนหามศพออกมา ผู้ตายเป็นบุตรคนเดียวของมารดาซึ่งเป็นม่าย ชาวเมืองกลุ่มใหญ่มาพร้อมกับนางด้วย เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเห็นนางก็ทรงสงสารและตรัสกับนางว่า “อย่าร้องไห้ไปเลย” แล้วพระองค์เสด็จเข้าไปใกล้ ทรงแตะแคร่หามศพ คนหามก็หยุด พระองค์จึงตรัสว่า “หนุ่มเอ๋ย เราบอกเจ้าว่า จงลุกขึ้นเถิด” คนตายก็ลุกขึ้นนั่งและเริ่มพูด พระเยซูเจ้าจึงทรงมอบเขาให้แก่มารดา ทุกคนต่างมีความกลัวและถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า กล่าวว่า “ประกาศกยิ่งใหญ่ได้เกิดขึ้นในหมู่เรา พระเจ้าได้เสด็จมาเยี่ยมประชากรของพระองค์” และข่าวเรื่องนี้ก็แพร่ไปทั่วแคว้นยูเดียและทั่วอาณาบริเวณนั้น

 

ข้อคิด
      มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นเหตุให้เราร้องไห้ และแน่นอนหนึ่งในนั้นก็คือความตาย ความตายทำให้น้ำตาไหล แม้แต่สำหรับพระเยซูเจ้าเอง แต่เพราะพระองค์เป็นบุตรของพระเจ้า พระองค์เป็นผู้ที่ให้ความหวัง ความบรรเทาใจแก่ผู้ที่เศร้าโศกจากการสูญเสียผู้ที่เป็นที่รัก ความตายเป็นช่วงเวลาที่โดดเดี่ยวที่สุดของชีวิต แต่สำหรับเราคริสตชน อย่าคิดว่าเรากำลังเผชิญกับสิ่งที่น่ากลัว แต่ให้เป็นเหมือนเด็กที่เมืองนาอิน เขาได้พบกับพระเยซูเจ้าผู้ที่รักและเห็นใจเขา