Logo

วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน 2016 สัปดาห์ที่ 11 เทศกาลธรรมดา

หมวด: เดือนมิถุนายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 1483

บทอ่านจากหนังสือซามูเอล ฉบับที่สอง                               2 ซมอ 12:7-10,13
     ประกาศกนาธันจึงทูลกษัตริย์ดาวิดว่า “พระองค์คือชายคนนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘เราได้เจิมตั้งท่านเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เราได้ช่วยท่านให้รอดพ้นจากมือของซาอูล เราได้มอบผู้คนในครอบครัวเจ้านายของท่าน มอบภรรยาของเจ้านายให้อยู่ในอ้อมกอดของท่าน และมอบพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์แก่ท่าน ถ้าทั้งหมดนี้ยังไม่พอ เราจะให้มากกว่านี้อีก ทำไมท่านจึงลบหลู่องค์พระผู้เป็นเจ้ากระทำสิ่งชั่วร้ายเฉพาะพระพักตร์พระองค์ท่านให้อุรียาห์ ชาวฮิตไทต์ถูกฆ่า ปล่อยให้ชาวอัมโมนฆ่าเขา แล้วเอาภรรยาของเขาเป็นภรรยาของตน เพราะเหตุนี้ จะมีคนในวงศ์ตระกูลของท่านถูกฆ่าอยู่เรื่อยๆเพราะท่านได้ลบหลู่เรา เอาภรรยาของอุรียาห์ชาวฮิตไทต์มาเป็นภรรยาของท่าน’
     กษัตริย์ดาวิดตรัสกับนาธันว่า “ข้าพเจ้าได้ทำบาปผิดต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว”นาธันทูลตอบว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยบาปพระองค์แล้ว พระองค์จะไม่ต้องสิ้นพระชนม์

 

เพลงสดุดี                                                                             สดด 32:1-3,5-6,10-11
     ก) ผู้ที่ได้รับอภัยความผิด
และบาปของเขาถูกลบล้างย่อมเป็นสุข
ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงกล่าวหาว่าทำผิด
และจิตใจของเขาไม่มีความคดโกง ย่อมเป็นสุข
แม้ข้าพเจ้าเงียบอยู่ กระดูกของข้าพเจ้าก็ผุกร่อนไป
จากการคร่ำครวญตลอดวัน
     ข) ข้าพเจ้าทูลให้ทรงทราบถึงบาปของข้าพเจ้า
มิได้ปิดบังความผิดแต่ประการใด
ข้าพเจ้าพูดว่า "ข้าพเจ้าจะสารภาพความผิดต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า"
พระองค์ก็ทรงอภัยบาปที่ข้าพเจ้าได้ทำ
ด้วยเหตุนี้ ผู้จงรักภักดีทุกคนจึงอธิษฐานภาวนาต่อพระองค์ในยามทุกข์ร้อน
แม้จะเกิดอุทกภัย น้ำไหลบ่าท่วมท้น
น้ำนั้นก็จะไม่มาถึงตัวเขา
     ค) คนชั่วร้ายจะมีความเดือดร้อนมากมาย
แต่ความรักมั่นคงขององค์พระผู้เป็นเจ้า ห้อมล้อมผู้วางใจในพระองค์
ท่านผู้ชอบธรรมทั้งหลาย จงชื่นชมและยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
ท่านผู้มีใจซื่อตรงทั้งหลาย จงร้องตะโกนด้วยความเบิกบานเถิด

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวก ถึงชาวกาลาเทีย         กท 2:16,19-21
     พี่น้อง แต่เรารู้ว่ามนุษย์มิได้เป็นผู้ชอบธรรมจากการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติแต่เป็นผู้ชอบธรรมจากความเชื่อในพระคริสตเยซูเท่านั้นเรามีความเชื่อในพระคริสตเยซูเพื่อจะได้เป็นผู้ชอบธรรมโดยอาศัยความเชื่อในพระคริสตเจ้ามิใช่จากการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติเพราะไม่มีมนุษย์คนใดเป็นผู้ชอบธรรมจากการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติถ้าเราผู้แสวงหาความชอบธรรมในพระคริสตเจ้ายังคงเป็นคนบาปหมายความว่าพระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้รับใช้บาปกระนั้นหรือเป็นไปไม่ได้เพราะถ้าเวลานี้ข้าพเจ้าสร้างสิ่งที่ทำลายแล้วขึ้นใหม่ก็แสดงว่าข้าพเจ้าทำผิดมาก่อนเพราะอาศัยธรรมบัญญัตินั่นแหละข้าพเจ้าจึงได้ตายไปจากธรรมบัญญัติแล้วเพื่อจะได้มีชีวิตอยู่สำหรับพระเจ้าข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้วข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่มิใช่ตัวข้าพเจ้าอีกต่อไปแต่พระคริสตเจ้าทรงดำรงชีวิตอยู่ในตัวข้าพเจ้าชีวิตที่ข้าพเจ้ากำลังดำเนินอยู่ในร่างกายขณะนี้ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตในความเชื่อถึงพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักข้าพเจ้าและทรงมอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้าข้าพเจ้ามิได้ทำให้พระหรรษทานของพระเจ้าต้องไร้ผลถ้าเรารับความชอบธรรมโดยปฏิบัติตามธรรมบัญญัติพระคริสตเจ้าก็คงสิ้นพระชนม์โดยเปล่าประโยชน์

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                       ลก 7:36-50
     ชาวฟาริสีคนหนึ่งทูลเชิญพระเยซูเจ้าไปเสวยพระกระยาหารกับเขา พระองค์เสด็จเข้าไปในบ้านของชาวฟาริสีและประทับที่โต๊ะ ในเมืองนั้นมีหญิงคนหนึ่งเป็นคนบาป เมื่อนางรู้ว่า พระเยซูเจ้ากำลังประทับร่วมโต๊ะอยู่ในบ้านของชาวฟาริสี จึงถือขวดหินขาวบรรจุน้ำมันหอมเข้ามาด้วย นางมาอยู่ด้านหลังของพระองค์ใกล้ๆ พระบาท ร้องไห้จนน้ำตาหยดลงเปียกพระบาท นางใช้ผมเช็ดพระบาท จูบพระบาทและใช้น้ำมันหอมชโลมพระบาท
ชาวฟาริสีที่ทูลเชิญพระองค์เห็นดังนี้ก็คิดในใจว่า “ถ้าผู้นี้เป็นประกาศก เขาคงจะรู้ว่าหญิงที่กำลังแตะต้องเขาอยู่นี้เป็นใครและเป็นคนประเภทไหน นางเป็นคนบาป” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ซีโมน เรามีเรื่องจะพูดกับท่าน” เขาตอบว่า “เชิญพูดมาเถิด อาจารย์” พระองค์จึงตรัสว่า “เจ้าหนี้คนหนึ่งมีลูกหนี้อยู่สองคน คนหนึ่งเป็นหนี้อยู่ห้าร้อยเหรียญ อีกคนหนึ่งเป็นหนี้อยู่ห้าสิบเหรียญ ทั้งสองคนไม่มีอะไรจะใช้หนี้ เจ้าหนี้จึงยกหนี้ให้ทั้งหมด ในสองคนนี้ คนไหนจะรักเจ้าหนี้มากกว่ากัน” ซีโมนตอบว่า “ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นคนที่ได้รับการยกหนี้ให้มากกว่า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านตัดสินถูกต้องแล้ว”
     พระองค์ทรงหันพระพักตร์มาทางหญิงผู้นั้น ตรัสกับซีโมนว่า “ท่านเห็นหญิงผู้นี้ใช่ไหม เราเข้ามาในบ้านของท่าน ท่านไม่ได้เอาน้ำมาล้างเท้าให้เรา แต่นางได้หลั่งน้ำตารดเท้าของเราและใช้ผมเช็ดให้ ท่านไม่ได้จูบคำนับเรา แต่นางจูบเท้าของเราตลอดเวลาตั้งแต่เราเข้ามาท่านไม่ได้ใช้น้ำมันเจิมศีรษะให้เรา แต่นางใช้น้ำมันหอมชโลมเท้าของเรา เพราะเหตุนี้ เราบอกท่านว่าบาปจำนวนมากของนางได้รับการอภัยแล้วเพราะนางมีความรักมาก ผู้ที่ได้รับการอภัยน้อยก็ย่อมมีความรักน้อย” แล้วพระองค์ตรัสกับนางว่า “บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว” บรรดาผู้ร่วมโต๊ะจึงเริ่มพูดกันว่า “คนนี้เป็นใคร จึงทำได้แม้แต่การอภัยบาป” พระองค์ตรัสกับหญิงนั้นว่า “ความเชื่อของเจ้าช่วยเจ้าให้รอดพ้นแล้ว จงไปเป็นสุขเถิด”

 

ข้อคิด
     บ่อยครั้งที่เรามักอ้างว่า เพราะบาปของเรา เราจึงไม่กล้าเข้าใกล้พระเยซูเจ้า โดยเฉพาะปฏิเสธที่จะรับศีลมหาสนิท เราอ้างว่าเพราะ “เราเป็นคนบาป เราไม่คู่ควร” ในพระวรสารวันนี้ เราได้เห็นหญิงคนบาป พยายามเข้าใกล้พระเยซูเจ้า เพื่อจะได้ยินจากปากพระองค์ว่า “บาปของเจ้าได้รับการอภัยแล้ว จงไปเป็นสุขเถิด” เราจงเข้าหาพระองค์เช่นกัน เพื่อเราจะได้พบความรักและการยอมรับจากพระองค์ พระองค์เป็นเพื่อนของคนบาปเสมอ จงอย่ากลัวที่จะเข้าหาพระองค์