Logo

วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน 2016 สัปดาห์ที่ 13 เทศกาลธรรมดา

หมวด: เดือนมิถุนายน 2016
เขียนโดย กลุ่มไบเบิ้ลไดอารี่
ฮิต: 1322

บทอ่านจากหนังสือพงษ์กษัตริย์ฉบับที่หนึ่ง                         1 พกษ 19:16ข,19-21
     ในครั้งนั้น พระเจ้าตรัสกับเอลียาห์ว่า “จงเจิมเอลีชา บุตรของชาฟัทชาวเมืองอาเบลเมโคลาห์ให้เป็นประกาศกสืบแทนท่าน”
     เอลียาห์ออกจากที่นั่นไปพบเอลีชา บุตรของชาฟัท เขากำลังไถนา ข้างหน้าเขามีโคสิบสองคู่ เขาไถนาอยู่กับคู่สุดท้าย เอลียาห์เดินผ่านเข้าไปใกล้ๆ ถอดเสื้อคลุมของตนห่มให้เอลีชา เอลีชาจึงละโคเหล่านั้นวิ่งตามเอลียาห์ไป พูดว่า “ขอให้ข้าพเจ้าไปจูบลาบิดามารดาก่อน แล้วข้าพเจ้าจะติดตามท่าน” เอลียาห์ตอบว่า “ไปเถิดแล้วจงกลับมา ท่านเข้าใจแล้วว่าข้าพเจ้าทำอะไรให้ท่าน” เอลีชาก็กลับไปบ้าน ฆ่าโคคู่หนึ่ง ใช้แอกและคันไถเป็นฟืนปรุงเนื้อโคเป็นอาหาร แจกเนื้อให้ประชาชนกิน แล้วจึงออกเดินทางติดตามไปรับใช้เอลียาห์

 

เพลงสดุดี                                                                           สดด 16:1-2,5-6,7-8
     ก) ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงคุ้มครองข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าลี้ภัยมาพึ่งพระองค์
ข้าพเจ้าทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงเป็นความดีที่สุดของข้าพเจ้า
     ข) องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพเจ้า
และทรงเป็นผู้กำหนดชีวิตของข้าพเจ้า
พระองค์เท่านั้นทรงคุ้มครองชะตาชีวิตของข้าพเจ้าให้ปลอดภัย
เส้นแบ่งเขตที่ดินของข้าพเจ้าอยู่ในพื้นที่รื่นรมย์
ส่วนมรดกของข้าพเจ้าช่างงดงามยิ่งนัก
     ค) ข้าพเจ้าถวายพระพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นที่ปรึกษาของข้าพเจ้า
แม้ยามค่ำคืน จิตใจก็ยังพร่ำสอนข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าตั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าไว้เบื้องหน้าข้าพเจ้าเสมอ
ถ้ามีพระองค์ประทับอยู่เบื้องขวา ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหว

 

บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวกาลาเทีย         กท 4:31ข-5:1,13-18
     พี่น้องทั้งหลายเรามิใช่บุตรของหญิงทาสแต่เป็นบุตรของหญิงอิสระพระคริสตเจ้าทรงปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระแล้วฉะนั้นจงยืนหยัดมั่นคงและอย่าเข้าเทียมแอกเป็นทาสอีกเลย
     พี่น้องทั้งหลายพระเจ้าทรงเรียกท่านให้มารับอิสรภาพขอเพียงแต่อย่าใช้อิสรภาพนั้นเป็นข้อแก้ตัวที่จะทำตามใจตนแต่จงรับใช้ซึ่งกันและกันด้วยความรักเพราะธรรมบัญญัติทั้งหมดสรุปได้เป็นข้อเดียวว่าจงรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองถ้าท่านกัดกันและกินกันก็จงระวังตัวไว้เถิดว่าท่านจะทำลายกันจนหมดสิ้น
     บัดนี้ข้าพเจ้าขอบอกท่านทั้งหลายว่าจงดำเนินตามพระจิตเจ้าและอย่าตอบสนองความปรารถนาตามธรรมชาติเพราะธรรมชาติมนุษย์มีความปรารถนาตรงกันข้ามกับพระจิตเจ้าและพระจิตเจ้าก็ทรงปรารถนาตรงกันข้ามกับธรรมชาติมนุษย์สองสิ่งนี้ขัดแย้งกันท่านทำสิ่งที่ท่านอยากทำไม่ได้ถ้าท่านมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำท่านก็ไม่อยู่ภายใต้ธรรมบัญญัติ

 

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                                         ลก 9:51-62
     เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไปใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม และทรงส่งผู้นำสารไปล่วงหน้า คนเหล่านี้ออกเดินทางและเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของชาวสะมาเรียเพื่อเตรียมรับเสด็จพระองค์ แต่ประชาชนที่นั่นไม่ยอมรับเสด็จเพราะพระองค์กำลังเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็มเมื่อยากอบและยอห์นศิษย์ของพระองค์เห็นดังนี้ก็ทูลพระองค์ว่า “พระเจ้าข้า พระองค์ทรงพระประสงค์ให้เราเรียกไฟจากฟ้าลงมาเผาผลาญคนเหล่านี้หรือไม่”พระเยซูเจ้าทรงหันไปตำหนิศิษย์ทั้งสองคนแล้วทรงพระดำเนินต่อไปยังหมู่บ้านอื่นพร้อมกับบรรดาศิษย์
     ขณะที่พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินตามทางพร้อมกับบรรดาศิษย์ ชายผู้หนึ่งทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะติดตามพระองค์ไปทุกแห่งที่พระองค์จะเสด็จ พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “สุนัขจิ้งจอกยังมีโพรง นกในอากาศยังมีรัง แต่บุตรแห่งมนุษย์ไม่มีที่จะวางศีรษะ”
     พระองค์ตรัสกับอีกคนหนึ่งว่า “จงตามเรามาเถิด” แต่เขาทูลว่า “ขออนุญาตให้ข้าพเจ้าไปฝังศพบิดาของข้าพเจ้าเสียก่อน” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “จงปล่อยให้คนตายฝังคนตายของตนเถิด ส่วนท่านจงไปประกาศพระอาณาจักรของพระเจ้า”
     อีกคนหนึ่งทูลว่า “พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าจะตามพระองค์ไป แต่ขออนุญาตกลับไปร่ำลาคนที่บ้านก่อน” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ผู้ใดที่จับคันไถแล้วเหลียวดูข้างหลัง ผู้นั้นก็ไม่เหมาะสมกับพระอาณาจักรของพระเจ้า”

 

ข้อคิด
     จับคันไถแล้วเหลียวหลังไม่ได้ติดตามพระแล้วลังเลไม่ได้, ที่ทำได้คือกัดฟันอดทนมุ่งมั่นเดินหน้าและพัฒนาต่อไป, เพราะการติดตามพระการทำแบบพระไม่ใช่การแลกเปลี่ยนยิ่งไม่ใช่การต่อรองหรือยื่นหมูยื่นแมวและยิ่งไม่ใช่การเอาความดีไปแลกเข้าสวรรค์, แต่เราติดตามพระและทำแบบพระองค์เพราะเรารู้และสำนึกว่าเราเป็นลูกของพระเราจึงติดตามและทำอย่างพระองค์